KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

       กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทยตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ของการดำเนินกิจการในประเทศไทยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทครั้งแรกในปี 2532  โดยเป็นการปฏิบัติตามปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของคุณวิชัยศรีวัฒนประภาอดีตประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ที่เชื่อมั่นในพลังของคนไทยพร้อมมอบโอกาสและส่งเสริมการพัฒนาการอย่างยั่งยืนของสังคมไทยทำให้บริษัทเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนดังเช่นในปัจจุบัน

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ดำเนินโครงการ Corporate Social Responsibility (CSR) ความรับผิดชอบของบริษัทต่อสังคมมายาวนาน โดยเมื่อปี 2560 บริษัทฯ ได้มีการรวบรวมกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้โครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นผ่าน 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกีฬา, ด้านดนตรี, ด้านชุมชน และด้านการศึกษาและสาธารณสุข ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ซึ่งดำเนินการมาแล้วกว่า 3 ปี รวมกว่า 12  โครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องสามารถกระจายโอกาส และสร้างความสุขสู่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาค ทั้ง 77  จังหวัด กว่า 3,000 ชุมชนเพื่อพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของคนไทยให้ทัดเทียมสากล

และเพื่อให้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้สานต่อกิจกรรมที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท และก่อให้เกิดเป็นความรับผิดชอบในรูปแบบ Creating Shared Value (CSV) ด้วยการสร้างคุณค่าร่วมกันของพันธมิตรธุรกิจ ลูกค้า ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อม พัฒนาสู่เป้าหมายธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับโครงสร้างโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จากเดิม 4 ด้านหลัก เป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกีฬา, ด้านดนตรี และ ด้านชุมชน โดยด้านการศึกษาและสาธารณสุข บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินการจากรูปแบบโครงการต่างๆ

สู่การร่วมสนับสนุนผ่านมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมสนับสนุนด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และศาสนา โดยตรงตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป    

สำหรับความสำเร็จของโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ซึ่งถือเป็นโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพของคนไทย ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ได้แก่ด้านกีฬา หรือ SPORT POWER โดยชุมชนหลายแห่งที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากสนามเต็มที่ ได้มีโอกาสฝึกฝน และพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของตัวเองและทีมในสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพ ระดับมาตรฐานโลกจนกวาดรางวัลมาได้หลายแห่ง, มีเด็กและเยาวชนจาก โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย กว่าครึ่งล้านคนที่มีลูกฟุตบอลเป็นของตัวเองแล้ว, ส่วนน้องๆ ใน โครงการ Fox Hunt  28 คน เป็นนักฟุตบอลอาชีพสังกัดสโมสรที่เล่นในไทยลีก อาทิ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ, สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด, สโมสรฟุตบอลจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น และอีก 4 คนไปสังกัด สโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ประเทศเบลเยียม

KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

       ด้านดนตรี หรือ MUSIC POWER  ได้ส่งเสริมให้คนหัวใจรักเสียงดนตรีกว่า 4,000 คนทั่วโลกได้แสดงความสามารถด้านดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่าที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นการประกวดที่มีมาตรฐานสูงมีกรรมการตัดสินที่มีชื่อเสียงระดับโลก

KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

       และเป็นที่จับตามองที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านชุมชน หรือ COMMUNITY POWER เพื่อบอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี กับความสำเร็จของการนำสินค้าชุมชนไปอวดสายตาชาวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งหมด 3 คอลเลกชั่น คือของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ คอลเลกชั่นผ้าครามมัดย้อมจากสกลนครได้แก่ อินดิโก้ 1, อินดิโก้ 2 และ Thai Natural Dye ผ้าทอตีนจกย้อมสีธรรมชาติจากภาคเหนือ ซึ่งเป็นผลงานแห่งความภาคภูมิใจที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมเป็นคู่คิดและคู่ค้ากับชุมชนต่างๆ เพื่อชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวไทยผสานเทคนิคการออกแบบที่ทันสมัย ใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้สีจากธรรมชาติมาใช้ในขั้นตอนการผลิต โดยตั้งเป้าผลิตคอลเลกชั่นพิเศษจากฝีมือคนไทยทุกปี หมุนเวียนเปลี่ยนชุมชนไปตามภาคต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ น่าสะสมอย่างต่อเนื่อง

KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

       ด้านการศึกษาและสาธารณสุข หรือ EDUCATION & HEALTH POWER  ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทารกแรกคลอดด้วยการมอบตู้อบเด็กให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศจำนวน 20 แห่งทั่วทุกภูมิภาค  นอกจากนี้ยังได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเดอ มง ฟอร์ต ประเทศอังกฤษ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพกลับมาพัฒนาประเทศไปแล้วจำนวน 20 คน

และก้าวต่อไปเรากำลังเดินหน้าต่อยอดสู่การปลูกฝัง “POWER DNA” ให้กับพนักงานผ่านแนวคิด Creative Confidence 4 P ได้แก่

  1. Project Engagement สร้างความรู้สึกการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ และรู้สึกว่า เป็นเจ้าของกิจกรรมร่วมกัน
  2. Passion สร้างแรงผลักดันจากภายใน ก่อเกิดเป็นความกระตือรือร้นที่อยากร่วมสร้าง และสานต่อสิ่งดีๆ ต่อไป
  3. People สร้างความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่ระดับบุคคลในองค์กร จนถึงการรวมกลุ่มเพื่อรู้จักทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ และความผูกพันไปยังคนนอกองค์กรอีกด้วย
  4. Play อยากให้ทุกคนที่มีส่วนร่วม รู้สึกสนุก และสุขกับสิ่งที่ทำ อะไรที่เราใส่ใจลงไปมักดีเสมอ

โดย “POWER DNA” จะถูกปลูกฝังให้กับพนักงานทุกคน ซึ่งเรามีพนักงานจำนวนทั้งสิ้นกว่า 12,000 คน อยู่ในสาขาทั้ง 10 แห่ง ได้แก่สาขาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ สาขารางน้ำ, ศรีวารี, คิง เพาเวอร์มหานคร, พัทยา และภูเก็ต พร้อมขยายความร่วมมือสู่ชุมชน และสังคม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการอย่างยั่งยืนของสังคมไทย ดังเช่นปรัชญาของ ผู้ก่อตั้งบริษัทคิง เพาเวอร์ได้ให้ไว้กว่า 29 ปีมาแล้ว

KING POWER’s CSR มุ่งส่งเสริมศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

สำหรับเป้าหมายในอนาคต เรามุ่งมั่น  ตั้งใจจริงในการผลักดันและขยายเครือข่ายความร่วมมือในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านเครือข่ายธุรกิจ และเครือข่ายพนักงาน พร้อมขยายสู่ชุมชน และสังคม รวมทั้งการดำเนินโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ทั้ง 3 ด้าน จากเพื่อส่งเสริมศัยกภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก พร้อมด้วยกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้สำเร็จตามความมุ่งหวังของกลุ่มบริษัทฯ ที่จะได้เห็นคนไทยได้แสดงความสามารถในระดับสากลอย่างยั่งยืนภายใต้ความเชื่อมั่นว่าคนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก…”