แลร์รี เอลลิสัน ชายที่ท้าชิงบัลลังก์เจ้าตลาดซอฟต์แวร์จาก Microsoft

แลร์รี เอลลิสัน ชายที่ท้าชิงบัลลังก์เจ้าตลาดซอฟต์แวร์จาก Microsoft
คนไทยอาจคุ้นชื่อ บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) เจ้าพ่อ Microsoft ยักษ์ใหญ่วงการซอฟต์แวร์ แต่อีกคนที่มีบทบาทโดดเด่นไม่แพ้กันในธุรกิจดังกล่าวก็คือ แลร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison) ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle ที่ความฝันของเขาคือการแย่งชิงความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดซอฟต์แวร์มาจาก Microsoft ให้ได้! ย้อนกลับไปก่อนจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของโลกในปี 2020 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 5.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เอลลิสันเกิดในปี 1944 ในครอบครัวยากจน แม่ซึ่งเป็นหญิงชาวยิวให้กำเนิดเขาเมื่อเธออายุ 19 ปี ด้วยสาเหตุหลายอย่างทำให้ท้ายสุดเอลลิสันต้องไปอยู่ในความดูแลของป้ากับลุง ซึ่งรับเขาเป็นลูกบุญธรรม เอลลิสันเข้าเรียนที่ University of Illinois at Urbana-Champaign แต่เรียนได้ราว 2 ปีก็ต้องลาออกเพราะแม่บุญธรรมเสียชีวิต แต่เขาก็ยังอยากจะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ในราวปี 1966 เขาเข้าเรียนที่ University of Chicago ในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ แต่หลังจากผ่านไปได้เทอมเดียวก็ลาออก ถึงอย่างนั้นเขาก็ค้นพบความสนใจใหม่ ๆ อย่างคอมพิวเตอร์ ดีไซน์ ซึ่งต่อมาจะเป็นฐานสร้างให้เอลลิสันกลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งวงการ หลังจากสั่งสมประสบการณ์การทำงานด้านฐานข้อมูลอยู่หลายปี รวมทั้งพัฒนาฐานข้อมูลในโปรเจกต์ที่ชื่อ “Oracle” ให้สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (CIA) ในที่สุดเอลลิสันและเพื่อน ๆ ก็ก่อตั้ง Oracle บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ขึ้นในปี 1977 โดยเขานั่งเก้าอี้ซีอีโอมาตั้งแต่วันแรก และลงจากตำแหน่งในปี 2014 ซึ่งถ้านับเวลาแล้วก็ 37 ปีเลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเป็นประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) มาถึงปัจจุบัน แม้เอลลิสันจะอยู่ในวัยเลข 7 นำหน้ามาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดจะเกษียณจากการทำงาน เพราะสิ่งที่ผลักดันให้เขาเดินหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งคือ “วิสัยทัศน์” ที่เขามักแบ่งปันกับพนักงานเพื่อให้เห็นทิศทางที่ตรงกัน ขาดไม่ได้คือจิตวิญญาณที่กระหายชัยชนะ “ผมเสพติดชัยชนะ ยิ่งคุณชนะมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งอยากชนะมากขึ้นไปอีกเท่านั้น” เขาบอก ความฝันของเอลลิสันที่เปิดเผยอย่างชัดเจนและมุ่งมั่นจะทำให้เกิดขึ้นก็คือ การก้าวสู่เบอร์หนึ่งในธุรกิจเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ที่ Microsoft ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนาน หากเทียบรายได้ก็อย่างปี 2019 ที่ Microsoft มีรายได้รวม 1.43 แสนล้านเหรียญ ส่วน Oracle ตามมาเป็นอันดับสอง ด้วยรายได้รวม 3.95 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่เอลลิสันใช้ในการสร้างการเติบโตให้ Oracle ก็คือการเข้าซื้อกิจการ “ทุกคนคิดว่ากลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการเป็นเรื่องที่เสี่ยงสุด ๆ เพราะไม่เคยมีใครทำแล้วประสบความสำเร็จเลย แต่อีกด้าน อย่าลืมว่านี่คือนวัตกรรมแบบหนึ่ง” การที่เอลลิสันไม่ปิดบังว่าตัวเองต้องการอะไร ทำให้หลายคนเปรียบ Oracle กับ Microsoft ว่าเป็นศัตรูกัน เพราะต่างอยู่ในธุรกิจเดียวกัน ทั้งสองบริษัทต่างมีคลาวด์เป็นสินค้าเด่น (ล่าสุด Oracle ได้เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ของ TikTok Global) ทั้งยังมีซอฟต์แวร์ที่ให้บริการในหลายอุตสาหกรรมเหมือนกันอีก แต่ถึงจะขับเคี่ยวในเชิงธุรกิจอย่างเข้มข้น ทว่าถ้าพูดถึงเรื่องสาธารณกุศล ทั้งคู่กลับเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยเอลลิสันเข้าร่วมแคมเปญ The Giving Pledge ที่ก่อตั้งโดย บิลล์-เมลินดา เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ชักชวนมหาเศรษฐีบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม แม้ Oracle จะตามหลัง Microsoft อยู่หลายช่วงตัว แต่ถ้าคนเรามีความฝันหล่อเลี้ยงและความมุ่งมั่นที่จะชนะ บางทีเป้าหมายอาจอยู่ไม่ไกลเกินจะไปถึงก็เป็นได้   ที่มา https://www.forbes.com/profile/larry-ellison/?list=billionaires#74fc3f924c2c https://www.investopedia.com/terms/l/larry-ellison.asp https://www.businessinsider.com/11-things-larry-ellison-taught-the-world-2014-4#a-competitive-spirit-is-the-greatest-motivator-3 https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/121714/worlds-top-10-software-companies.asp