โลรองต์ ซิมอนส์ : เด็กอัจฉริยะ พลาดตำแหน่งบัณฑิตอายุน้อยที่สุดในโลก เพราะจบช้าไปครึ่งปี

โลรองต์ ซิมอนส์ : เด็กอัจฉริยะ พลาดตำแหน่งบัณฑิตอายุน้อยที่สุดในโลก เพราะจบช้าไปครึ่งปี
โลรองต์ ซิมอนส์ (Laurent Simons) เริ่มต้นเข้าเรียนชั้นประถมตอนอายุ 4 ปี และกำลังจะจบปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ด้วยวัยเพียง 9 ขวบ ซิมอนส์เกือบจะได้เป็นเด็กอัจฉริยะคนแรก ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยก่อนอายุครบ 10 ปีแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขา ‘ลาออก’ ไปเสียก่อน ซิมอนส์เป็นเด็กอัจฉริยะจากเบลเยี่ยม ที่เรียนจบหลักสูตรของเด็กมัธยมตอนอายุแค่ 8 ขวบ พ่อแม่ของเขาให้สัมภาษณ์ว่า เด็กคนนี้ไม่ได้ฉายแววความพิเศษมาตั้งแต่เริ่ม เขาใช้เวลาปีแรกไปกับการเรียนรู้เหมือนเด็กทั่วไป ก่อนจะจบเกรด 1 พร้อมเพื่อนคนอื่น แต่พอเริ่มเข้าปีที่ 2 จู่ ๆ ซิมอนส์ก็เบื่อหน่ายการวิ่งเล่น เขาเพ่งความสนใจไปที่การเรียนอย่างจริงจัง และจบหลักสูตรของเกรด 2 ไปจนถึงเกรด 6 ในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น "ก่อนหน้านี้ปู่กับย่าเลี้ยงเขามา และสังเกตว่าเขามีความพิเศษ ตอนนั้นเราคิดว่า พวกเขาก็คงเหมือนปู่ย่าทั่วไปที่ภูมิใจในตัวหลาน เราเลยไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก" แต่เพราะครูโรงเรียนประถมของซิมอนส์เองก็บอกว่า เด็กคนนี้มีบางอย่างพิเศษเช่นกัน ทั้งสองจึงหันมาสนใจพัฒนาการของลูกมากขึ้น  พวกเขาค้นพบว่า นอกจากจะมีไอคิวสูงถึง 145 ซิมอนส์ยังมีความทรงจำแบบภาพถ่าย (photographic memory) ทำให้จดจำและเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กคนอื่น ซิมอนส์ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ค่อยสนใจสายภาษา เขายังได้รับการประเมินว่า มีทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ในระดับที่ดีมากอีกด้วย “คุณครูบอกว่าเขาสดใสและฉลาดมาก พวกเขาเริ่มมอบแบบฝึกหัดและข้อสอบยาก ๆ ให้โลรองต์ทำ ทุกอย่างมันเริ่มมาจากตรงนั้น เขาไปเร็วมาก ไม่ทันไรก็เรียนจบชั้นประถม มัธยม และกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว” อเล็กซานเดอร์ พ่อของซิมอนส์ กล่าวกับ CNN ตอนอายุ 6 ขวบ ซิมอนส์สอบผ่านเข้าไปเรียนระดับมัธยม ก่อนจะเรียนจบหลักสูตรที่เด็กคนอื่นใช้เวลาเรียนถึง 6 ปีใน 18 เดือน เขาเริ่มได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก รวมถึงเหล่าบุคลากรในแวดวงการศึกษา หลังจากเรียนจบได้สักพักหนึ่ง เขากลับมาพักผ่อนที่บ้าน ก่อนจะลงทะเบียนเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อ แม้จะมาจากครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่เป็นหมอ แต่ซิมอนส์กลับเข้าเรียนต่อด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟน ในเนเธอร์แลนด์ เพราะทางมหาวิทยาลัยเสนอว่าจะออกแบบหลักสูตรการเรียนให้เขาเป็นพิเศษ ตอนแรกพวกเขาการันตีว่าถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ซิมอนส์จะเรียนจบและคว้าปริญญาตรีมาได้ภายในระยะเวลา 9 เดือน ซึ่งหมายความว่า เขาจะกลายเป็นเด็กอัจฉริยะ ‘คนแรก’ ในประวัติศาสตร์ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ‘ก่อน’ จะอายุครบ 10 ขวบ (คนเก่าทำไว้ตอน 10 ขวบพอดี) แต่เพราะสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ปี 2019 อเล็กซานเดอร์ออกมาประกาศว่า ขณะนี้ลูกชายของเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเดิมแล้ว เพราะมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำตามสัญญาที่จะทำให้ลูกชายของเขาเรียนจบก่อนวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 10 ปีของซิมอนส์ได้ อธิการบดีของมหาวิทยาลัยออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่วันจบการศึกษาของซิมอนส์ถูกเลื่อนออกไป เพราะเขายังมีตารางสอบอีกหลายวิชาที่ต้องผ่านไปให้ได้เสียก่อน อาจารย์ผู้สอนของซิมอนส์เองก็เห็นด้วยว่า พ่อแม่ไม่ควรเร่งเร้าลูกให้รีบเรียนจบมากเกินไป แม้เด็กคนนี้จะเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์อย่างที่มหาวิทยาลัยไม่เคยมีมาก่อนก็ตาม ก่อนหน้านี้อเล็กซานเดอร์เคยให้สัมภาษณ์ว่า “เราเองก็ไม่อยากกดดันลูกมากเกินไป ไม่อยากคาดหวังอะไรจากเขามากนัก เราแค่อยากให้เขาเติบโตไปเรื่อย ๆ” แต่ความเป็นจริง เขาและภรรยาไม่คาดหวังอะไรจากลูกชายคนนี้จริงหรือ? การที่อยากให้ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยก่อนอายุ 10 ขวบเพื่อทำลายสถิติโลก เป็นสิ่งที่ลูกชายหรือพ่อแม่เองที่ต้องการกันแน่? แม้จะเคยตอบคำถามไว้เสียดิบดี แต่หลายครั้งที่วิธีการเลี้ยงดูของพวกเขาก่อให้เกิดคำถามขึ้นในสังคม โดยเฉพาะเมื่อพ่อของซิมอนส์เคยให้สัมภาษณ์ถึงตารางเรียนของลูกชายอย่างภูมิใจว่า "วันจันทร์ เขาเข้าเรียนทฤษฎีเบื้องต้นเกี่ยวกับวิชานั้น ๆ แล้วก็ใช้เวลาในห้องปฏิบัติการในวันอังคาร วันพุธเขาต้องทบทวนบทเรียน จึงต้องอยู่บ้านและอ่านหนังสือ 8 ชั่วโมง เขาใช้เวลาในวันพฤหัสบดีไปพบอาจารย์ที่คณะและซักถามในส่วนที่สงสัย ส่วนวันศุกร์เขาก็เข้าสอบ" โดยไม่ได้มีท่าทีหรือรู้สึกว่ามันมีปัญหา แม้ข้อเสนอใหม่จากมหาวิทยาลัยจะเลื่อนวันจบการศึกษาของซิมอนส์ไปอยู่ในช่วงกลางปี 2020 ซึ่งก็ยังถือเป็นสถิติที่น่าเหลือเชื่อ แต่พ่อแม่ของซิมอนส์ก็ยังคิดจะถอนตัวลูกชายออกจากมหาวิทยาลัยอยู่ดี พวกเขายังประกาศว่า ตอนนี้กำลังพิจารณาข้อเสนอของมหาวิทยาลัยต่างชาติ ที่ต้องการรับลูกชายเขาเข้าเรียนอยู่ ก่อนหน้านี้ อเล็กซานเดอร์เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟนว่า เขาเปิดเผยชีวิตของลูกชายกับสาธารณะมากเกินไป หากยังให้สื่อติดตามรายงานเรื่องราวของลูกชายอยู่อย่างนี้ อาจเป็นการเพิ่มแรงกดดันแก่ซิมอนส์ได้ แต่อเล็กซานเดอร์ก็ตอบโต้ในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ De Volkskrant ในเนเธอร์แลนด์ว่า “ขนาดเด็กที่เล่นฟุตบอลเก่ง เขาก็ยังมีสื่อมาให้ความสนใจ ลูกชายของผมก็มีพรสวรรค์ที่ต่างออกไป แล้วทำไมเราถึงไม่ควรภูมิใจกับเรื่องนี้” ด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟนก็ออกมาแถลงโต้ตอบว่า ไม่ว่าอย่างไร มหาวิทยาลัยก็จะไม่เร่งรัดให้ซิมอนส์เรียนจบก่อนอายุ 10 ขวบเด็ดขาด แม้ที่ผ่านมาเขาจะเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ ทั้งยังเรียนและปฏิบัติงานได้ยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่แน่นอนว่าการพัฒนาด้านความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ความคิดสร้างสรรค์ และการรู้จักคิดวิเคราะห์ก็มีความสำคัญ หากพ่อแม่และสังคมรอบข้างทำให้เด็กรู้สึกกดดันมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางด้านวิชาการ รวมถึงการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ ของเด็กได้ แม้ในกรณีนี้ตัวเด็กน้อยโลรองต์ ซิมอนส์ จะไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการกับสื่อไหน แต่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศลาออก อินสตาแกรมส่วนตัวของเขาก็ได้โพสต์ภาพสกรีนช็อตอีเมลจากมหาวิทยาลัย ที่เคยระบุไว้ว่า วันจบการศึกษาของซิมอนส์จะอยู่ในเดือนธันวาคมปี 2019 ภาพดังกล่าวมีคำบรรยายว่า "Liar, liar, pants on fire! (โกหกหน้าไม่อาย!)" ระบุไว้คู่กันด้วย      ที่มา https://edition.cnn.com/2019/12/10/europe/laurent-simons-university-scli-intl/index.html https://www.scmp.com/news/world/europe/article/3041530/belgian-boy-genius-laurent-simons-9-drops-out-university https://www.bbc.com/news/world-europe-44668452 https://edition.cnn.com/2019/11/14/europe/university-graduate-child-genius-scli-intl