เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว: ไลน์แมนใจกตัญญู ขับ 200 กิโลเมตร หาเงินผ่าตัดพ่อป่วย

เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว: ไลน์แมนใจกตัญญู ขับ 200 กิโลเมตร หาเงินผ่าตัดพ่อป่วย
 ขับรถขึ้น-ลงเขาระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อดูแลพ่อที่กำลังป่วย “ปกติแล้วผมจะขับรถไป-กลับ 200 กิโลเมตร ระหว่างบ้านที่อำเภอพร้าวไปตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อรับงาน ส่งอาหาร” เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว: ไลน์แมนใจกตัญญู ขับ 200 กิโลเมตร หาเงินผ่าตัดพ่อป่วย เอ็ม เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว หนุ่มวัย 29 ปี เผยถึงแรงใจที่ทำให้เขาขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ขึ้น-ลงหุบเขา จากอำเภอพร้าว สู่ตัวเมืองเชียงใหม่ทุกวัน เพราะต้องการนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัว เเละค่ารักษาพ่อที่ป่วย เป็นโรคหัวใจและโรคไต เพื่อให้มีรายได้มากที่สุด เมื่อการใช้ชีวิตเลือกไม่ได้ ทำให้เอ็มยอมทิ้งอาชีพขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ มาเริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ ที่อำเภอพร้าวด้วยการเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ซึ่งมีจุดประสงค์ที่สำคัญคือการดูแลพ่อที่ต้องเข้าผ่าตัดทำบายพาส เส้นเลือดหัวใจถึง 3 เส้น พร้อมกับเข้าฟอกไต “นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมหันมายึดอาชีพไรเดอร์เต็มตัว หาค่ารักษา มาจ่ายพ่อ ซึ่งยังมีความโชคดีที่ใช้สิทธิ์ 30 บาท รักษาทุกโรคได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่เหลือก็ยังคงต้องหาเงินมาจ่าย มันเลยเป็นเหตุผลให้ผมขยันรับงาน เพราะรายได้ก็จะสูงขึ้นไปด้วย จนปัจจุบันพ่ออาการดีขึ้นและสามารถกลับมา พักฟื้นที่บ้านได้ในที่สุด ตอนนี้ผมก็ยังยึดอาชีพไรเดอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ลุย 200 กิโลเมตร ไป-กลับ เพื่อรับออร์เดอร์ และส่งอาหารให้ถึงมือลูกค้าทุกวันเหมือนเดิม” เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว: ไลน์แมนใจกตัญญู ขับ 200 กิโลเมตร หาเงินผ่าตัดพ่อป่วย แม้ว่าต้นทุนจะน้อยกว่าคนอื่น ๆ ด้วยระยะทางจากบ้านที่ค่อนข้างไกล ทำให้เอ็มต้องทุ่มเทความพยายาม อย่างมาก เพื่อที่จะทำรอบในแต่ละวันให้ได้ตามเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ตามความมีอิสระที่จะเลือกเวลาทำงาน ก็ช่วยให้เอ็มสามารถจัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสมทั้งการดูแลพ่อ และหารายได้ “การทำอาชีพนี้มันมีความอิสระ ทำให้แบ่งเวลาดูแลพ่อ และส่งอาหารได้ด้วย สำหรับการส่งอาหาร ในบางครั้งผมจะดูยอดในการวิ่งเป็นเป้าหมาย ถ้าได้ตามที่ตั้งไว้แล้วก็กลับบ้าน ถ้าบางครั้งงานเยอะหน่อย แล้วยังมีเเรงต่อผมก็จะรับงานเพิ่มขึ้น แล้วไปหยุดในวันถัดไป” เพิ่มพูล แซ่เลี่ยว: ไลน์แมนใจกตัญญู ขับ 200 กิโลเมตร หาเงินผ่าตัดพ่อป่วย สุดท้ายเอ็มได้พูดถึงนิยามการเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงให้ฟังว่า “นิยามการเป็นฮีโร่สำหรับผมคงเป็นการรับผิดชอบ ตัวเองทั้งในบทบาทของการเป็นลูกที่จะดูแลพ่อให้ดีที่สุด และบทบาทของการเป็นไรเดอร์ที่ต้องมีความรับผิดชอบ ในการรับงานด้วย ซึ่งความรับผิดชอบมันทำให้ผมหาเงินเลี้ยงชีพและพาพ่อไปรักษาตัวได้สบาย ๆ”