ลิซ่า คูโดรว์ - จากบัณฑิตชีววิทยาสู่บทบาท ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์ ในเรื่อง Friends

ลิซ่า คูโดรว์ - จากบัณฑิตชีววิทยาสู่บทบาท ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์ ในเรื่อง Friends
Smelly cat, smelly cat, what are they feeding you? Smelly cat, smelly cat, it’s not your fault… หากใครเป็นแฟนคลับซิตคอมเรื่อง Friends น่าจะคุ้นหูกับเพลงเจ้าแมวตัวเหม็น (Smelly Cat) หนึ่งในผลงานเพลงของฟีบี้ บุฟเฟ่ย์ (Phoebe Buffay) สาวเพี้ยนสุดน่ารักที่รับบทโดย ‘ลิซ่า คูโดรว์’ (Lisa Kudrow)  แม้ตัวละครฟีบี้มักมาพร้อมกับกีตาร์และเพลงแปลก ๆ ที่เธอแต่งขึ้นมา แต่ความจริงแล้วลิซ่า คูโดรว์ไม่ได้สันทัดเรื่องกีตาร์ เธอต้องพยายามฝึกฝนเพื่อบทบาทนี้โดยเฉพาะ และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฝ่าฟันและความพยายามของลิซ่า คูโดรว์ ก่อนจะกลายมาเป็น ‘ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์’ ตัวละครที่หลายคนหลงรักจากซิตคอมอันโด่งดังเรื่อง Friends    จากบัณฑิตสาขาชีววิทยา สู่ชีวิตหน้ากล้อง ตั้งแต่จำความได้จนถึงช่วงวัยยี่สิบ ลิซ่า คูโดรว์ ไม่เคยฉายแววด้านการแสดงเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอสนใจชีววิทยาจนเข้าขั้นหลงใหลและเรียนต่อในสาขาดังกล่าว ฉันไล่ตามความหลงใหลในชีววิทยาและทุกที่ที่จะพาฉันไป ฉันไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับการแสดงในโรงเรียนมัธยมฯ หรือตอนอยู่วิทยาลัยวาสซาร์ (Vassar College) ฉันไม่เคยเล่นละคร ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่จบการศึกษา ลิซ่าตื่นเต้นที่จะได้กลับบ้านไปร่วมงานกับพ่อซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาการปวดหัว แต่ 6 เดือนหลังจากนั้น งานวิจัยในมือของลิซ่ากลับถูกเปลี่ยนไปเป็นบทละคร จากจุดเริ่มต้นที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน  “ปีสุดท้ายของฉันที่วิทยาลัย ในช่วงปิดเทอม ฉันขับรถไปรอบ ๆ LA และได้ยินการโปรโมตซิตคอมทางวิทยุ พวกเขากำลังจะเล่นมุกตลกที่ดีที่สุดจากรายการ และฉันก็จำได้ว่า ฉันได้ยินเสียงในหัวของตัวเอง ‘โอ้! พระเจ้า นั่นไม่ตลกเลย พวกเขาเล่นมุกนั้นอย่างตั้งใจเกินไป เพียงแค่ปล่อยมุกนั้นออกมา ลิซ่า อย่าลืม เมื่อคุณเล่นมุกนั้น แค่ปล่อยมันออกมา’” ลิซ่าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงบอกตัวเองเช่นนั้น และเธอไม่ได้ทำอะไรกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น จนกระทั่งจบการศึกษา เหตุการณ์เดิมก็กลับมากวนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะทุก ๆ ครั้งที่เธอดูซิตคอม เธอมักได้ยินตัวเองพูดว่า “อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างที่หญิงสาวในซิตคอมเรื่องนั้นกำลังทำ”  ความคิดดังกล่าวเริ่มผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน บวกกับจอน โลวิตซ์ (Jon Lovitz) นักแสดงตลกที่เป็นเพื่อนกับพี่ชายของเธอกล่าวว่า ลิซ่าดูจะมีพรสวรรค์ด้านการแสดงโดยเฉพาะการเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้คน  พฤศจิกายน ปี 1985 หลังจากลิซ่า คูโดรว์ย้อนมองชีวิตตัวเองในวัย 22 ปี เธอไม่มีสามี ไม่มีลูก ไม่ได้มีภาระรับผิดชอบมากนัก เธอจึงตัดสินใจบอกพ่อแม่และผองเพื่อนว่าจะมุ่งสู่สายการแสดง ชวนให้คนรอบข้างทั้งตื่นเต้น (และตกใจ) ไปตาม ๆ กัน ส่วนเธอเองก็มีทั้งความรู้สึกกลัวพร้อมกับมั่นใจอย่างน่าประหลาด “ฉันแค่ฟังเสียงภายในนั้น อย่างไรก็ตาม การรับฟังเสียงภายในใจเป็นเรื่องที่ดีเสมอ…หากไม่นำไปสู่การก่ออาชญากรรม” เธอกล่าวเจือเสียงหัวเราะ   คัดตัวไม่ผ่าน ถูกเปลี่ยนตัวนักแสดง...กว่าจะมาเป็นฟีบี้ แม้รางวัลด้านการแสดงและผลงานของเธอ อาจทำให้บางคนอดคิดไม่ได้ว่าลิซ่าคงมีพรสวรรค์ด้านนี้อย่างเปี่ยมล้น หากแท้จริงแล้ว ตลอดระยะเวลา 8 ปีก่อนโด่งดังในฐานะ ‘ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์’ กลับเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งผู้กำกับที่เคยบอกว่า เธอทำได้แย่มาก ส่วนตัวแทน (agent) ของเธอถึงกับกุมขมับบอกว่าไม่รู้จะทำยังไงกับเธอดี  ช่วงที่ยากที่สุดคงเป็นตอนที่เธอเข้าไปรับบท Roz Doyle ในเรื่อง Frasier เพราะหลังจากซ้อมไปเพียง 2 ครั้ง เธอกลับถูกถอดจากบทนี้แล้วให้คนอื่นมาแทนที่  แม้ลิซ่าจะเข้าใจผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ที่คิดว่าบทบาทนี้ไม่เหมาะกับเธอจริง ๆ แต่ความเข้าใจก็มาพร้อมกับความรู้สึกเสียใจ อับอาย จนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวผ่านและทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับความสามารถของตัวเอง “ฉันมาถูกทางไหม? ฉันเหมาะกับที่นี่หรือเปล่า? ฉันอาจไม่สามารถเป็นนักแสดงอาชีพจริง ๆ เลยก็ได้ และฉันก็เสียเวลามาโดยตลอด จากนั้นฉันก็ตัดสินใจว่า ไม่ พวกเขาส่วนใหญ่อาจจะแค่คิดผิด และไม่เป็นไร พวกเขาอาจจะยังไม่เห็นมันในตอนนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่า คุณต้องยอมจำนนต่อความจริงที่ว่าคุณเป็นหนึ่งในคนจำนวนมากท่ามกลางสาขาที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะโดดเด่น...ณ เวลานี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นใครและนำอะไรมาสู่วงการผ่านการทำงานของคุณเอง แค่อยู่กับมันและพยายามทำต่อไป” เธอต่อสู้กับความรู้สึก ‘สงสัยในความสามารถของตัวเอง’ อยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และคิดว่ามันอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม “สองสามเดือนต่อมาฉันเกือบจะไม่มีเงิน แล้วตัวแทนของฉันโทรฯ มาบอกฉันว่า แดนนี่ จาค็อบสัน (Danny Jacobson) โปรดิวเซอร์ของ Mad About You เสนอบทบาทเล็ก ๆ ให้ฉันในรายการ ตัวแทนแนะนำให้ฉันส่งต่อบทนี้ให้คนอื่น เพราะมันมีบทบาทน้อยเกินไป และตัวละครก็ไม่มีชื่อด้วยซ้ำ” แต่แทนที่จะปฏิเสธ ลิซ่ากลับตอบตกลงด้วยความตั้งใจว่า “ไม่ว่าจะเป็นบทอะไรก็ตาม ฉันจะทำให้มันตลก” แล้วเธอก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะหลายคนคิดว่าเธอคือสาวเสิร์ฟที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ใน Mad About You และหนึ่งในคนที่คิดแบบนั้นคือ เจฟฟรีย์ คลาริค (Jeffrey Klarik) นักเขียนและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน จากนั้นเดวิด เครน (David Crane) แฟนหนุ่มของเจฟฟรีย์ก็ได้ชักชวนลิซ่ามาออดิชันซิตคอมเรื่อง Friends ในเวลาต่อมา แต่การก้าวมาสู่เรื่อง Friends ก็ไม่วายมีเรื่องชวนปวดหัวด่านสุดท้าย เพราะผู้กำกับ Friends ในตอนแรก ๆ คือ จิม เบอร์โรวส์ (Jim Burrows) ที่เคยให้เธอก้าวออกจากบทบาทในเรื่อง Frasier มาก่อน แต่ที่สุดแล้วลิซ่า คูโดรว์ก็สามารถไขกุญแจสู่ประตูบานใหม่ให้เธอได้เฉิดฉายในบทบาทของ ‘ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์’ กับซิตคอมในตำนานอย่าง Friends ได้ในที่สุด นอกจากความล้มเหลวจะพาเธอไปสู่อีกเส้นทางของหน้าที่การงานแล้ว การถูกถอดจากบทบาทใน Frasier ครั้งนั้น ยังทำให้เธอเข้าไปในงานปาร์ตี้ด้วยความรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลิซ่าจึงเดินตรงเข้าไปจีบชายคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก ซึ่งต่อมาเธอได้แต่งงานกับเขา และปัจจุบันทั้งคู่ก็สร้างครอบครัวและมีลูกชายแสนน่ารักด้วยกัน 1 คน   สู่การเป็นฟีบี้ที่หลายคนหลงรัก ลิซ่า คูโดรว์เล่าถึงตัวละครฟีบี้ว่า ชีวิตของเธอเริ่มต้นจากแม่ฆ่าตัวตาย พ่อเลี้ยงติดคุก ความสัมพันธ์ระหองระแหงกับพี่สาว ชีวิตเธอจึงต้องมาลงเอยที่นิวยอร์ก ท้ายที่สุด...ฟีบี้ บุฟเฟ่ย์จึงต้องโอบรับทั้งความมืดมนและความน่าหดหู่ของชีวิต จนกลายเป็นตัวละครแสนเดียงสาที่มองว่าความโหดร้ายเป็นเรื่องปกติที่เธอต้องเจอ อย่างฉากที่เรเชลเล่าว่าพ่อของเธอมักซ่อนของขวัญไว้ทุก ๆ ห้องเพื่อให้เธอตามหาในวันเกิด ฟีบี้จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันแสนใสซื่อว่า “ตอนเออร์ซูล่า (พี่สาวฝาแฝด) และฉันยังเป็นเด็ก พอถึงวันเกิด พ่อเลี้ยงของเราจะขายเลือดตัวเองเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหาร” โดยที่เธอไม่ได้เหน็บแนมหรือตัดพ้อแต่อย่างใด หากเป็นน้ำเสียงและสีหน้าที่เหมือนกำลังแลกเปลี่ยนเรื่องทั่วไปกับเพื่อน ๆ เท่านั้น  การ ‘มุ่งมั่นอย่างเต็มที่’ เพื่อที่จะ ‘ไม่เป็นไร’ ในสถานการณ์ต่าง ๆ เปรียบเสมือนเข็มทิศที่ลิซ่าใช้เพื่อสร้างสรรค์ตัวละครของเธอ แม้จริง ๆ แล้วตัวละครฟีบี้อาจจะไม่แน่ใจว่า ‘โอเค’ กับสถานการณ์นั้น ๆ หรือไม่ แต่ก็จะบอกว่า ‘โอเค/ไม่เป็นไร’ ไว้ก่อน โดยไม่ได้ตัดพ้อหรือโศกเศร้าใด ๆ นั่นคือสิ่งที่ลิซ่าคิดว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ตัวละครตัวนี้สามารถเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และกำลังใจให้กับผู้คนได้อย่างแท้จริง  หลังจากซิตคอมเรื่อง Friends ออกอากาศ ลิซ่า คูโดรว์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Awards มากกว่า 6 ครั้ง และได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ตลก เมื่อปี 1998 นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัล Screen Actors Guild Awards  2 ครั้ง พร้อมกับการเสนอชื่ออีก 12 ครั้ง รวมทั้งรางวัล American Comedy Awards พร้อมกับการเสนอชื่อทั้งหมด 8 ครั้งสำหรับผลงานของเธอในซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง Friends แม้ว่า Friends จะปิดฉากสุดท้ายไปตั้งแต่ปี 2004 แต่มีแฟน ๆ หลากรุ่นหลายวัยที่ยังคงติดตามซิตคอมเรื่องนี้ บางคนถึงกับเปิดดูใน Netflix ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่าสุดในปี 2021 ก็มีข่าวดีว่าลิซ่าและเพื่อน ๆ ได้กลับมารวมตัวกันใน Friends: The Reunion โดยเผยแพร่ผ่านช่องทาง HBO Max และ HBO Go  แม้ริ้วรอยบนใบหน้าและสีผมของนักแสดงจะบ่งบอกถึงกาลเวลาที่ผันผ่านมาแสนนาน แต่ซิตคอมเรื่องนี้จะยังคงเรียกเสียงหัวเราะ ความคิดถึง และอยู่ในใจใครหลายคน รวมทั้งเสียงแหลมค่อนไปทางเพี้ยนเล็กน้อยของฟีบี้ บุฟเฟ่ย์...  Smelly cat, smelly cat, what are they feeding you?   ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=MYFL8Z7mpiA https://www.thefamouspeople.com/profiles/lisa-valerie-kudrow-stern-2157.php  https://alittlenudge.wordpress.com/2012/04/15/how-did-i-go-from-a-biology-major-to-an-actress-lisa-kudrow-from-friends/ https://www.thewikifeed.com/lisa-kudrow/ https://www.thethings.com/friends-the-secret-behind-playing-phoebe-according-to-lisa-kudrow/