มาร์ติน แวน บูเรน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ทำให้ "โอเค" เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

มาร์ติน แวน บูเรน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ทำให้ "โอเค" เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
"โอเค" เป็นคำภาษาอังกฤษที่มีรากจากสหรัฐฯ ซึ่งแทรกเข้าไปอยู่ในแทบทุกภาษาทั่วโลก และถือเป็นคำหนึ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันยิ่งกว่าหลาย ๆ คำที่มีความหมายเดียวกันในภาษาประจำถิ่น (เหมือนคนไทยที่น่าจะติดปากกับคำว่า "โอเค" มากกว่า "ตกลง" หากไม่ใช่ภาษาเขียน) เนื่องจากมันมีความยืดหยุ่นใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ทั้งในการตอบแบบตรงไปตรงมา หรือแม้แต่จะตอบแบบเลี่ยง ๆ ก็ “โอเคนะ” ด้วยความที่มันถูกใช้จนเคยชิน หลายคนจึงอาจไม่เคยสงสัยเลยว่าคำนี้มาจากไหน แม้กระทั่งชาวอเมริกันเองก็ยังสับสนว่ามันมีที่มาอย่างไรแน่?  ในภาพยนตร์เรื่อง Silver Linings Playbook (ซึ่งทำให้ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมปี 2012) แพต ตัวเอกของเรื่อง (แสดงโดย แบรดลีย์ คูเปอร์) ได้อธิบายที่มาของคำนี้ให้เพื่อนของเขาฟังว่า "คืองี้ มาร์ติน แวน บูเรน (Martin Van Buren) ประธานาธิบดีคนที่ 8 ของสหรัฐอเมริกาเป็นคนมาจากเมืองคินเดอร์ฮุก (Kinderhook) รัฐนิวยอร์ก แล้วเขาก็เป็นสมาชิกสมาคมหนึ่ง เป็นสมาคมชายล้วนที่ชื่อว่า โอลด์ คินเดอร์ฮุก (Old Kinderhook) แล้วถ้าคุณเจ๋งพอคุณก็จะได้เป็นสมาชิกด้วยเหมือนกัน พวกเขาจะพูดว่า 'ไอ้หมอนี่มันโอเคเว้ย'"  คำอธิบายของแพตก็มีส่วนถูกแต่ไม่ได้ถูกเสียทั้งหมดทีเดียว เพราะจริง ๆ แล้วคำนี้เป็นที่แพร่หลายอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ แวน บูเรน ถือเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ "โอเค" เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วประเทศและทั่วโลก  จุดเริ่มต้นของ "โอเค" มาจากเทรนด์การใช้ตัวย่อของคำที่จงใจสะกดผิดไปจากภาษาอังกฤษปกติ (บางทีก็เป็นการสะกดแบบภาษาอื่น เช่น ดัตช์) โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่มีการศึกษาในบอสตันช่วงทศวรรษ 1830s เป็นเหมือนรหัสลับที่ใช้กันในแวดวงคนรู้จัก เช่น KC หรือ "Knuff Ced" (enough said - ไม่ต้องพูดต่อ, เข้าใจแล้ว) อีกคำเช่น OW หรือ "Oll Wright" (alright - ตกลง, เข้าใจแล้ว)  และ OK ก็ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยวิธีการนี้เหมือนกัน ด้วยการถูกใช้แทนคำว่า "Oll Korrect" (all correct - ถูกต้องครบถ้วน) จากข้อมูลของ Vox ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 คำว่า all correct เป็นคำสามัญที่ใช้บอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดหมาย จนกระทั่งในวันที่ 23 มีนาคม 1839 OK ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ Boston Morning Post หนังสือพิมพ์ฉบับอื่น ๆ เห็นเข้าก็ถูกใจและเอาอย่างจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วไม่เพียงแต่ในบอสตันเท่านั้น  และด้วยความที่คำนี้เป็นที่นิยมมาก นักการเมืองที่กำลังเสื่อมความนิยมอย่าง มาร์ติน แวน บูเรน ก็เลยโดดลงมาเล่นตามกระแสด้วย โดยในการเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีเมื่อปี 1840 เขาใช้คำว่า "OK" มาเป็นชื่อเล่นของตัวเอง บรรดาผู้สนับสนุนของประธานาธิบดีแวน บูเรน จึงตั้งสมาคมโอเคไปทั่วประเทศเพื่อใช้เป็นฐานขยายความนิยม  ทั้งนี้ แวน บูเรน (1782-1862) เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคเดโมแครต ที่ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1837 ต่อจากแอนดรูว์ แจ็กสัน (Andrew Jackson) ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจแทบทันที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยุคหลังที่วิเคราะห์จากมุมที่กว้างกว่าเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยปัจจัยจากทั้งภายในและภายนอก แต่ประชาชนและคู่แข่งทางการเมืองในขณะนั้นพากันโจมตีว่าเขาเป็นต้นเหตุ แม้ว่าเขาเพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งเพียงเดือนกว่า ๆ เท่านั้น (Britannica) นอกจากนี้แล้ว แวน บูเรน ยังไม่เห็นด้วยกับการผนวกรัฐเท็กซัสที่เพิ่งเป็นอิสระมาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ  เนื่องจากเท็กซัสเป็นรัฐทาส เขาเองไม่ได้เห็นด้วยกับระบอบทาส (และยิ่งแสดงท่าทีต่อต้านยิ่งขึ้นเมื่อเขาพ้นจากตำแหน่ง) ประกอบกับไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างรัฐทางเหนือกับรัฐทางใต้ในเรื่องระบอบทาสหนักข้อขึ้นไปอีก จึงเลือกที่จะไม่ให้การสนับสนุนการผนวกเท็กซัส ทำให้คะแนนนิยมของเขายิ่งตกต่ำ  ความพยายามที่จะใช้คำว่า OK เพื่อสื่อว่า Old Kinderhook หรือ ผู้เฒ่าจากคินเดอร์ฮุกนั้น "all correct" แม้ว่าการรณรงค์ของเขาจะถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก แต่ในแง่ของคะแนนนิยมมันไม่ได้ช่วย แวน บูเรน เท่าไหร่นัก กลับถูกคู่แข่งทางการเมืองเอาไปล้อเลียนต่าง ๆ นานา ว่า OK ของ แวน บูเรน นั้นไม่ใช่ "all correct" แต่เป็น "Orful Konspiracy" (awful conspiracy - การสมคบคิดที่เลวร้าย) หรือ "Orful Katastrophe" (awful catastorphe - ภัยพิบัติอันย่อยยับ) ต่างหาก การเลือกตั้งในปี 1840 จึงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของแวน บูเรน เมื่อประชาชนเห็นว่าเขา "ไม่โอเค" ที่จะรับตำแหน่งต่อไป แต่เขาก็ได้รับเครดิตอย่างมากที่ทำให้คำว่า "โอเค" ยังคงอยู่ในกระแสต่อไป แม้ผลงานของเขาในฐานะประธานาธิบดีจะไม่โดดเด่นเท่าไหร่ก็ตาม (แต่นักประวัติศาสตร์ก็ให้เครดิตว่าเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการทางการเมืองของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการก่อตั้งพรรคเดโมแครต)