เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน”

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน”

       เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ของยอดทีมจากเกาะอังกฤษอย่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ถือเป็นผู้จัดการทีมมากความสามารถที่ฮอตที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลตอนนี้ โปเช็ตติโน หรือที่ทุกคนเรียกเขาว่าพอชถูกขนานนามให้เป็นอีกหนึ่งยอดนักปราชญ์แห่งวงการฟุตบอลสมัยใหม่จากผลงานการทำทีมของเขา ไล่ตั้งแต่ เอสปันญ่อล, เซาแธมป์ตัน รวมไปถึงปัจจุบันกับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เกมรุกที่ดูสนุกและมาพร้อมกับเกมรับอันเหนียวแน่นกลายเป็นสไตล์การทำทีมในแบบของพอช แน่นอนปรัชญาข้อนี้อาจจะไม่ได้ใหม่ในวงการฟุตบอลเพราะทุกคนรู้ว่านี่คือสูตรสำเร็จของการจะเป็นยอดทีม

พอช ไม่ใช่กุนซือแนวขงเบ้งแบบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือเป็นสายเฮวี่ เมทัล แบบเจอร์เกน คล็อปป์ แต่ถ้าถามว่าเขาอยู่ตรงไหนระหว่างสองคนนี้ คงต้องบอกว่าเขาอยู่ตรงกลางพอดิบพอดี บางครั้งเขาก็ดุดันและหลักแหลมในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับแนวทางการสร้างทีมที่เน้นการผลักดันนักเตะจากทีมเยาวชนมาปลุกปั้น รวมถึงการนำเข้านักเตะโนเนมให้เปลี่ยนจากดินสู่ดาว กลายเป็นสิ่งที่ พอช ทำได้ดีกับทีมที่เขาดูแล

มันเป็นเรื่องของความเชื่อในศรัทธาที่คุณมี นับตั้งแต่วันแรกที่ผมได้มาเป็นผู้จัดการทีม สิ่งแรกที่ผมสนใจที่สุดคือทีมเยาวชนของสโมสรเป็นอย่างไร เพราะผมคิดว่าเด็กในวันนี้จะเติบโตเป็นนักเตะที่เก่งและเป็นอนาคตของสโมสรได้

พอช มีความเชื่อในเรื่องการพัฒนาผู้เล่นอย่างจริงจัง เขาเน้นที่จะสร้างมากกว่าที่จะซื้อ เขาตระหนักดีว่าทุกสิ่งล้วนแต่มาจากจุดนี้ จุดที่นักฟุตบอลทุกคนต้องเคยผ่านมานั่นก็คือการถูกค้นพบ

ย้อนกลับเมื่อปี 1986 มาร์เซโล่ บิเอลซ่า (กุนซือลีดส์ ยูไนเต็ด คนปัจจุบัน) บรมกุนซือที่สมัยนั้นคุมทีมเยาวชนของนีเวลส์ โอลด์ บอยส์  และ จอร์จ กริฟฟา ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกเยาวชนของทีม (ผู้ค้นพบกาเบรียล บาติสตูต้า และ คาร์ลอส เตเบซ) ขับรถด้วยระยะทางกว่า 200 ไมล์ ขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวง สู่เมืองโรซาริโอ เพื่อตระเวณออกหานักเตะเยาวชนมาร่วมทีม และระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเปิดคอร์สสอนการเป็นโค้ชอยู่ที่ซานตา อิซาเบล เมืองเล็ก ๆ ในแถบนั้น จู่ ๆ กริฟฟา ก็ได้ยินคนเอยถึงชื่อของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เด็กหนุ่มมากพรสวรรค์ที่กำลังจะได้เซ็นสัญญากับ โรซาริโอ เซ็นทรัล ทีมคู่ปรับร่วมเมืองของ นีเวลส์ 

[caption id="attachment_8099" align="aligncenter" width="503"] เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน” จอร์จ กริฟฟา[/caption]

        ในช่วงกลางดึกของคืนนั้น บิเอลซ่า ได้ขอให้ กริฟฟา พาเขากลับไปยังโรซาริโอเพื่อตามหาเด็กหนุ่มคนนี้ สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจตรงดิ่งไปที่เมืองเมอร์ฟี่ บ้านเกิดของ โปเช็ตติโน ทันที

เราตัดสินใจไม่ไปที่โรซาริโอ และมุ่งหน้าไปที่เมอร์ฟี่ ที่ที่เจ้าเด็กโปเช็ตติโนอาศัยอยู่ เพราะเราจะได้รู้กันว่าเขาเซ็นกับโรซาริโอ เซ็นทรัล แล้วหรือยัง กริฟฟา ย้อนความหลังถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

[caption id="attachment_8098" align="aligncenter" width="499"] เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน” มาเซร์โล่ บิเอลซ่า[/caption]

       เวลาประมาณตีสองทั้งคู่เดินทางถึงฟาร์มโคนมแห่งหนึ่ง พวกเขาตัดสินใจเดินเข้าไปเคาะประตูบ้านหลังนั้นทันทีเราถึงบ้านหลังนั้นประมาณตีสอง ผมเคาะตรงบริเวณหน้าต่างบ้าน แม่ของ เมาริซิโอ เดินมาเปิดประตู เธอจำผมได้และให้เราทั้งคู่เข้ามารอในบ้าน ผมเริ่มชวนพวกเขาคุยถึงเรื่องถั่วเหลืองและพวกพืชผลต่าง ๆ เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย

สุดท้ายทั้งสองก็เข้าประเด็นถึงจุดประสงค์ที่มาเยือนพวกเขาในคืนนี้ว่าต้องการมาพบกับเด็กหนุ่มที่ทุกคนพูดถึง ก่อนจะโน้มน้าว เฮคเตอร์และอเมเลีย พ่อและแม่ของเมาริซิโอเต็มที่นี่คือทีมของแชมเปี้ยนกริฟฟาขายของสุดฤทธิ์ หลังสิ้นสุดการสนทนาก่อนจะกลับ บิเอลซ่า และกริฟฟา ได้ขอทั้งคู่เข้าไปดูตัว เมาริซิโอ ขณะหลับ ซึ่งทันทีที่ บิเอลซ่า เห็นร่างของเด็กวัย 14 คนนี้ เขาก็ถึงขั้นอุทานออกมาอย่างตกใจว่าขานั้น เป็นขาของนักฟุตบอลโดยแท้

[caption id="attachment_8093" align="aligncenter" width="502"] เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน” พอช ในวัยเด็ก[/caption]

       ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้น พอช ฝันเกี่ยวกับอะไรอยู่ ไม่รู้จะเป็นเรื่องฟุตบอลหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ นับตั้งแต่คืนนั้นฝันของเขาก็ได้กลายเป็นจริง เพราะหลังจากนั้นสามวัน เฮคเตอร์ เดินทางมาหา กริฟฟา และ บิเอลซ่า พร้อมกับสัญญาการย้ายตัวและพูดว่าพวกคุณทำได้

พอช ทิ้งฟาร์มที่เขาเกิดมาและมุ่งหน้าไปโรซาริโอเพื่อกลายเป็นนักเตะเยาวชนของ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ ชีวิตในฐานะนักเตะช่วงแรกของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ความสำเร็จในอาชีพของเขาล้วนแต่แลกมาด้วยความลำบากในอดีต

เราใช้ชีวิตอยู่ใต้ stand ในสนาม มันเป็นห้องใหญ่ ๆ ห้องเดียวที่มีฉากกั้นเป็นหลาย ๆ ส่วน นั่นแหละคือที่ที่พวกเรานอน มีพวกเรา 25-30 คนแชร์ห้องใหญ่นั้นด้วยกัน มันยากมากสำหรับผมที่ตัองห่างไกลจากครอบครัว จากสิ่งที่เคยชิน และยังต้องอ่านหนังสือตอนกลางคืนอีก ผมจำได้ไม่กี่อย่าง จำได้แค่ว่ามันไม่ง่ายเลย แต่บางอย่างทำให้เราต้องไปต่อ อย่างแพชชั่นที่มีต่อฟุตบอลและแรงจูงใจที่จะได้เล่น มันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราชนะปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณในฐานะเด็กอายุ 14”

พอช  ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเล่นฟุตบอลอย่างเดียว เขาเป็นคนที่วางแผนสำรองในชีวิตเสมอ ในวัย 17 เขาสนใจที่จะเข้ามหาวิทยาลัยด้านการเกษตรตามรอยพ่อของเขา เขาไม่เคยลืมว่าตัวเองมาจากที่ไหนและไม่เคยเกลียดการเป็นเกษตรกร

เราเป็นครอบครัวที่ทำงานหนัก เราจำเป็นต้องทำงานตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนที่เขาอยู่ที่นีเวลส์ เขายังหาเวลาว่างกลับมาช่วยทำฟาร์มอยู่เลยเฮคเตอร์ พ่อของ พอช ให้สัมภาษณ์

[caption id="attachment_8097" align="aligncenter" width="501"] เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน” พอช และครอบครัว[/caption]

ถ้าไม่รุ่งกับการเตะฟุตบอล พอช คงจะหันหลังให้มันและกลับไปรีดนมวัว หรือเก็บเห็ดในเมอร์ฟี่แน่นอน แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหลังการซ้อมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเขาแท็กเกิลใส่ ตาต้า มาร์ติโน่ อย่างหนักจนถึงขั้นแนวรุกรุ่นพี่ยัวะสุด ๆ และตอนนั้นเองที่ พอช ได้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นกองหลังดาวรุ่งพันธุ์ดุขนานแท้

ตาต้า หันมาหาผมแล้วพูดว่าไอหนู ฉันจะฆ่าแกส่วนโค้ชก็ตะโกนมาหาผมว่าแกไปทำอย่างนั้นกับมาติโน่ได้ไงผมได้แต่บอกว่าขอโทษ ๆ ส่วนตาต้าก็พูดว่าฉันไม่อยากเห็นแกในระยะสามเมตรอีก’ ” พอช เล่าเหตุการณ์ในวันนั้น

หลังจบ session นั้นหลายคนอาจจะคิดว่าอนาคตของพอชคงจบแล้ว แต่ที่ไหนได้ความห้าวในครั้งนั้นกลายเป็นประตูสู่ความฝันของเขา ท้ายที่สุดโค้ชทีมชุดใหญ่อย่างโชเซ่ยูดิก้าก็ได้โปรโมทเขาขึ้นทีมชุดใหญ่

ตอนเขาขึ้นทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 19 เขาไม่ได้สนใจจะซื้อรถแพง ๆ เหมือนเพื่อนร่วมทีมคนอื่น เขาหารถเก่า ๆ ใช้แทน เขาเป็นเด็กที่ไม่เคยคิดอยากจะเป็นดาวเด่น เขาแค่อยากจะเล่นฟุตบอลจริง ๆ แค่นั้นเฮคเตอร์ ให้สัมภาษณ์

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน”

       ไม่กี่ปีต่อมา พอช ผนึกกำลังร่วมกับ เฟอร์นันโด แกมบัว ทำให้ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ กลายเป็นทีมที่มีแนวรับสุดแกร่ง พอช อยู่กับทีม 5 ปีก่อนจะออกผจญภัยกับหลายทีมในยุโรป เช่น เอสปันญ่อล, เปแอสเช และ บอร์กโดซ์ จนสุดท้ายผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมในปัจจุบัน

ในปี 2009 พอช เริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมโดยตัดสินใจรับงานเผือกร้อนในการคุมเอสปันญ่อล ทีมเก่าของเขาที่สถานการณ์ร่อแร่ต่อการตกชั้นเต็มที แต่ใครจะไปเชื่อว่าหลังจบฤดูกาลนั้น พอช จะพาทีมนกแก้วจบอันดับที่สิบในลาลีก้า แถมมีผลงานชิ้นโบว์แดงเป็นการปราบคู่ปรับร่วมแคว้นกาตาลันอย่างบาร์เซโลน่า ถึงคัมป์ นู ในรอบ 27 ปี

แท็กติกแนวทางการเล่นการผ่านบอลในแนวตั้ง เกมรุกที่เคลื่อนที่เร็ว และการเพรซซิ่งคู่แข่งต่อเนื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของการสร้างสภาพจิตใจให้แก่นักเตะ กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนพูดถึงเกี่ยวกับพอช แต่เขาก็ตอบกลับทุกคนอย่างถ่อมตัวว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นอิทธิพลที่เขาได้รับมาจากบิเอลซ่าทั้งนั้น

แน่นอนเขาคือคนที่มีอิทธิพลกับผม เขาคือคนที่ให้โอกาสผมได้รู้จักกับโลกของฟุตบอล

ในปี 2012 พอช ตัดสินใจหาความท้าทายอันใหม่ด้วยการโยกไปรับงานที่เซาแธมป์ตัน ก่อนจะพาทีมนักบุญจบอันดับที่แปด ในซีซั่น 2013-2014 ผลงานการทำทีมภายใต้นักเตะดาวรุ่งอายุน้อยบวกกับพวกโนเนม กลายเป็นปรัชญาที่โดนใจ เดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เข้าอย่างจัง เลวี่ รู้ทันทีว่า พอช นี่แหละคือคนที่ใช่ สุดท้ายเขามอบสัญญาให้ พอช ห้าปีพร้อมรับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และกลายเป็นกุนซือของทีมไก่เดือยทองในท้ายที่สุด

"เราจะทุ่มสุดตัว เพื่อให้ทุกคนกลับมาภูมิใจในสโมสรแห่งนี้อีกครั้ง" พอชเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ

พอช ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำงานหนักตั้งแต่สมัยค้าแข้ง เช่นเดียวกันกับการเป็นผู้จัดการทีม เขามักจะมาถึงเอน ฟิลด์ สนามซ้อมของทีมเวลาเดิม 7.00 - 20.00 น. เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ทุก session ของการซ้อมเขามักจะให้นักเตะซ้อมอย่างหนักเสมือนแข่งเสมอ จนทำเอานักเตะหลายคนถึงกับบ่นว่า พอช คือคนที่เปลี่ยนสนามซ้อมให้กลายเป็นนรกบนดิน ด้าน ดานี ออสวัลโด อดีตนักเตะของ พอช เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่าเขา (พอช) จะทำให้คุณทุกข์ทรมานอย่างกับสุนัข ตอนแรกคุณอาจจะเกลียดเขาแต่พอวันอาทิตย์คุณจะรู้ว่าสิ่งที่เขาให้ทำมันได้ผล

บางครั้งคุณจำเป็นต้องโหดกับพวกเขา (นักเตะ) บางครั้งคุณจำเป็นต้องเป็นมิตรและให้ความรักเช่นกัน มันเหมือนกับการที่คุณมีลูกนั่นแหละพอช ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ว่าเขาถูกมองว่าเป็นกุนซือสายโหด

[caption id="attachment_8096" align="aligncenter" width="401"] เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน” พอช[/caption]

       แม้จะทำผลงานได้ดีจนพา สเปอร์ส ติดลมบนขึ้นมาเป็นทีม “top six” ของลีกได้ตลอดการคุมทีม แต่ในฤดูกาล 2018-2019 พอชก็ต้องเจอพิษจากสภาพเงินฝืดของสโมสรเล่นงานอันเนื่องมาจากสโมสรไม่สามารถจัดสรรเงินเสริมทีมให้กับเขาได้ เพราะต้องทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการทำสร้างสนามไวท์ ฮาร์ท เลน แห่งใหม่

ทำไงได้... มีเท่าไหร่ก็ต้องแค่นั้น สเปอร์ส กลายเป็นทีมเดียวในลีกที่ไม่ซื้อใครเลยในฤดูกาลนั้น การได้นักเตะใหม่เข้ามาแน่นอนมันเป็นเรื่องของการพัฒนาทีมให้ดีขึ้น แต่ในเมื่อคุณไม่สามารถหาไม้ใหม่ ๆ มาอุดเรือที่กำลังจะแตกได้ ทางเดียวที่คุณจะรอดก็คือใช้สิ่งที่มีอยู่แก้ปัญหาแทน ! แม้นี่จะเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับทีมฟุตบอลระดับสูง แต่ พอช ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์นี้เท่าไหร่นัก เขาหันมาดันนักเตะเยาวชนรวมถึงพัฒนาผู้เล่นให้เก่งยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตัวเขามีความเชื่อในนักเตะตัวเองมากขนาดไหน

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน”

       เงิน อาจจะเป็นทางลัดสำหรับการซื้อความสำเร็จ แต่ พอช เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายครั้ง เมื่อถูกถามว่าอะไรคือเคล็ดลับของคุณ เมาริซิโอ ทำอย่างไรถึงมีทีมที่ดีและกลายเป็นยอดผู้จัดการทีม คุณทำอย่างไรภายใต้สถานการณ์รัดเข็มขัดของทีมแบบนี้ ?’ คำถามเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่เขาต้องรับมือในทุกสัปดาห์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด พอช เชื่อว่าความฝันที่เขาสร้างมันยิ่งใหญ่กว่าเรื่องของเงิน

“มันไม่ใช่ความฝันของผมที่จะได้เงินแบบนี้มา ก็จริงที่เงินนี้อาจจะช่วยคุณได้ แต่มันไม่ใช่ความฝันของผม”

ผู้คนต่างคิดว่าเงิน คือหนทางเดียวเท่านั้นแหละที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ ณ จุดนี้ ผมมีความสุขกับแนวทางที่สโมสรกำลังทำ และผมมีความสุขจริง ๆ ที่ได้ช่วยทีมในเรื่องนี้ (พัฒนาผู้เล่น)”

เวลาที่เราต้องซื้อใครสักคนเข้ามา เราต้องการนักเตะที่ไม่ใช่แค่ช่วยพัฒนาทีมให้ดีขึ้นเท่านั้น ถ้าพวกเขาเป็นคนดีด้วยมันจะส่งผลดีกับทีมมากขึ้นอีก เพราะทีมก็คือครอบครัวหนึ่งเช่นกัน แม้ฟุตบอลจะเป็นสิ่งที่สำคัญสุด แต่ทั้งหมดมันไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอลอย่างเดียว" พอช ให้สัมภาษณ์ "การทำทีมโดยมีนักเตะเยาวชนคือส่วนหนึ่งของตัวตนผมและของสโมสรด้วย

กริฟฟา เคยให้สัมภาษณ์การจะเป็นยอดโค้ชได้ต้องอาศัยบางสิ่ง ซึ่งเขาก็มองเห็นสิ่งนั้นในตัวของ พอช เช่นกันการจะเป็นยอดโค้ช คุณต้องเป็นคนที่ดีด้วย และพอช ก็คือคนดีคนหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่ผมมองเห็นในตัวเขา

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือศูนย์บาท เด็กช่างฝันจากฟาร์มโคนม ที่เนรมิตความสำเร็จจากการ “สร้างคน”

       ย้อนกลับไปในคืนที่ บิเอลซ่า และ กริฟฟา ได้พบกับ พอช ครั้งแรก พวกเขามองทะลุปรุโปร่งในเรื่องพรสวรรค์หรือความสามารถในด้านฟุตบอลโดยธรรมชาติของ พอช แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ เด็กน้อยที่นอนหลับอยู่ตอนนั้น เด็กบ้าน ๆ จากเมอร์ฟี่ วันนี้เขากลายมาเป็นโค้ชที่มีคนต้องการตัวมากที่สุดในวงการฟุตบอล

เมื่อก่อนผมเป็นเด็กช่างฝันคนหนึ่ง ตอนที่ผมเด็กมาก ๆ ผมฝันว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นนักฟุตบอลให้ได้และตอนนี้ผมทำได้แล้ว แต่ก่อนที่ฝันเหล่านี้จะเป็นจริงมันต้องผ่านเรื่องยาก ๆ มามาก ผมเชื่อว่ามันมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ในหัวของเราเสมอ และเมื่อคุณมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝันของคุณให้ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับการรอเวลาของมันและการฝึกฝนอย่างหนัก และเมื่อคุณไปถึงจุดที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ มันเป็นเพราะอย่างแรกเลยคือคุณวาดฝันมันเอาไว้ และอีกอย่างคือคุณเอามันมาอยู่ในใจเมาริซิโอ โปเช็ตติโน

 

ที่มา : https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-6523441/How-Mauricio-Pochettino-went-humble-farm-lad-wanted-manager-world.html

https://www.theguardian.com/football/2019/apr/29/tottenham-dream-mauricio-pochettino-champions-leaghue-semi-ajax

https://thelab.bleacherreport.com/the-origins-of-mauricio-pochettino/

https://www.firsttouchonline.com/the-mauricio-pochettino-story/

https://www.youtube.com/watch?v=7vY1TPstawI

https://www.facebook.com/SpursThailandFanclub/?ref=page_internal