มิเชล บัค: ซีอีโอหญิงหนึ่งเดียวของ Hershey ที่สร้างความเท่าเทียมให้กับทุกเพศในการทำงาน

มิเชล บัค: ซีอีโอหญิงหนึ่งเดียวของ Hershey ที่สร้างความเท่าเทียมให้กับทุกเพศในการทำงาน
ช็อกโกแลตในชื่อ Hershey Kisses คงเป็นขนมที่ใครหลาย ๆ คนติดใจในความอร่อย รูปร่างที่น่ารัก หรือแม้กระทั่งชื่อที่ชวนให้หยิบยื่นให้ใครต่อใครเพื่อเป็นของขวัญสำหรับคนที่คุณรัก แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า นอกจาก Hershey จะเป็นช็อกโกแลตจากบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ที่สุดในโลกมากว่า 128 ปีแล้ว เมื่อปี 2021 Hershey ยังถูกโหวตให้เป็น ‘บริษัทที่เป็นมิตรกับผู้หญิง’ มากที่สุดในโลกอีกด้วย ภายใต้การดำเนินงานของ มิเชล บัค (Michele Buck) ประธานและ CEO หญิงคนแรกและคนล่าสุดของบริษัท Hershey ที่สามารถพา Hershey ไปได้ไกลมากกว่าที่เคยเป็นมา   ดึงตัวเองขึ้นมาจากเชือกทำรองเท้า มิเชล บัค เป็นชาวเพนซิลเวเนีย ที่เกิดในครอบครัว ‘ช่างทำรองเท้า’ ซึ่งคาดหวังให้เธอสานต่ออาชีพของครอบครัวต่อ อาชีพที่ดูจะห่างไกลกับอุตสาหกรรมขนมหวานอย่างที่เธอทำในปัจจุบันไปอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยรายได้ที่ได้จากการเป็นช่างทำรองเท้าของพ่อและแม่นั้นไม่ค่อยดีนัก นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอเริ่มหางานทำข้างนอกบ้านตั้งแต่อายุ 12 ปี ด้วยการรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และในระหว่างที่เธอเริ่มเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชิปเพนส์เบิร์กแห่งเพนซิลเวเนีย และได้รับปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนาที่แชปเพิลฮิลล์ เธอก็ต้องทำงานควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ พนักงานขาย หรือแม้กระทั่งพนักงานธนาคาร เธอก็เคยผ่านมันมาทั้งหมดทั้งสิ้น “การได้รับ MBA เป็นก้าวสำคัญ มันเปิดประตูที่ฉันเปิดไม่ได้ถ้าไม่มีมัน มันทำให้ฉันมีโอกาสค้นพบอาชีพที่ผสมผสานความสามารถในการวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง อาชีพด้านการตลาดและการจัดการแบรนด์” มิเชลกล่าว   ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมขนมหวาน และแล้วชีวิตเธอก็เริ่มต้นในสายธุรกิจหลังจากเรียนจบ มิเชลเริ่มมองหางานที่หลากหลายเพื่อสร้างชุดทักษะให้กับตัวเอง เธอเข้าร่วมกับบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มหลายแห่ง ทั้งทำงานให้กับ Kraft/Nabisco ในตำแหน่งอาวุโสหลายตำแหน่ง และทำงานในแผนก Frito-Lay ของบริษัท PepsiCo เพื่อสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อย ๆ  จนกระทั่งในปี 2005 เธอก็ได้เริ่มทำงานในบริษัท Hershey อย่างเป็นทางการ เธอนำประสบการณ์กว่า 25 ปี ในวงการสินค้าอุปโภคบริโภคที่บรรจุหีบห่อติดตัวเธอมาด้วย ทำให้เธอสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Chief Operating เจ้าหน้าที่ของ Hershey ซึ่งเธอเป็นผู้นำการดำเนินงานประจำวันของบริษัทในอเมริกาเหนือ ตลอดจนการปฏิบัติงานในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ได้ในที่สุด และในปี 2017 เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็น CEO หญิงคนแรกของ Hershey ต่อจาก จอห์น บิลเบรย์ (John Bilbrey) ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง เธอพยายามอย่างมากกับการปรับปรุงพัฒนาระบบต่าง ๆ รวมไปถึงการริเริ่มโปรเจกต์มากมายเพื่อพาบริษัทให้ไปได้ไกลขึ้นกว่าเดิม  และหนึ่งในผลงานที่สำคัญของเธอคือการสร้าง ‘snacking powerhouse’ ขึ้นมา ทำให้ Hershey สามารถทำกำไรอย่างมหาศาล และขยายพอร์ตโฟลิโอไปสู่การเสนอขายขนมขบเคี้ยวใหม่ ๆ เพิ่มเติมในอนาคต   หันกลับมาใส่ใจพนักงาน ในขณะที่มิเชลนำทาง Hershey ต่อสู้เพื่อส่วนแบ่งของเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกัน มิเชลก็ต้องพยายามพยุง Hershey และพนักงานมากกว่า 16,000 คนอย่างยากลำบากเช่นเดียวกัน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อยอดขายของบริษัทที่ตกลงเป็นอย่างมาก “เธอเต็มใจที่จะพลิกโฉมธุรกิจ และไม่รู้สึกยึดติดกับที่ที่พวกเขาเคยไปและสิ่งที่พวกเขาทำ” นี่คือคำพูดของหนึ่งในพนักงานที่กล่าวถึงเธอ เพื่อตอบสนองต่อโรคระบาด มิเชลเริ่มหันหลังกลับมามองในแง่ของการดูแลพนักงานและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้บริษัทสามารถก้าวต่อไปได้ในขณะที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เธอนำเอาเงินในจำนวนที่ไม่ได้ถูกใช้ไปในกิจกรรมเพราะโรคระบาด มาเป็นการส่งเสริมการขายผ่านทางดิจิทัลทางออนไลน์ ตลอดจนเพิ่มต้นทุนการผลิตและการขายที่เกี่ยวข้องกับ Coronavirus แทน อีกทั้งยังคงสร้างโครงการช่วยเหลือพนักงานที่ตกอยู่ในความลำบาก เนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ “ในสภาพแวดล้อมนี้ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเพื่อนร่วมทีมตกอยู่ในความเสี่ยง การทำสิ่งที่ถูกต้อง การเรียนรู้ และการปรับวิธีดำเนินการของเราอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ” มิเชลกล่าว และสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา Hershey ก้าวขึ้นสู่การเป็นบริษัทที่เป็นมิตรต่อผู้หญิงในระดับชั้นนำของโลก ภายใต้ผลสำรวจของ Forbes และบริษัทวิจัยตลาด Statista จากการสำรวจผู้หญิง 85,000 คน ใน 40 ประเทศ จาก 300 บริษัทชั้นนำ ภายใต้การบริหารงานของมิเชล บัค  ปัจจุบัน Hershey มีพนักงานผู้หญิงมากถึง 42% ซึ่งจะเป็นครึ่ง ๆ สำหรับอัตราส่วนของเพศสภาพของพนักงานทั้งหมด โดยมิเชลคาดว่าภายในปี 2025 จะสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงในกำลังแรงงานให้กลายเป็น 50% ได้ในที่สุด และเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้ Hershey จึงได้เปิดตัวโครงการ ‘Pathways Project’ ซึ่งเป็นแผนงานระยะสั้น 5 ปี ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างวิธีการใหม่ในการเข้าร่วม เข้าถึง และเติบโตสำหรับพนักงานทุกคนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสถานที่ทำงานที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น  ที่ไม่ได้เพียงแค่ต้องการเพิ่มจำนวนสัดส่วนพนักงานเพศหญิงเท่านั้น แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนตัวแทนคนผิวสีและละตินภายในองค์กร รวมถึงการจัดสรรสวัสดิการที่ครอบคลุมให้กับคนทุกคนอีกด้วย ทำเอาครองใจพนักงานในบริษัท รวมไปถึงสายตาชาวโลกกันไปเต็ม ๆ    เรื่อง: มณิสร วรรณศิริกุล ภาพ: getty image และ https://www.thehersheycompany.com/en_us/    อ้างอิง: https://www.forbes.com/sites/samanthatodd/2021/11/02/meet-the-worlds-top-female-friendly-companies-2021/?sh=676689b11007 https://www.thehersheycompany.com/en_us/home/newsroom/blog/empowered-by-pathways-embarking-on-an-equitable-future-together.html https://www.thehersheycompany.com/en_us/home/about-us/the-company/leadership.html https://womenworthwatching.com/michele-buck/