30 ม.ค. 2565 | 16:00 น.
ตอง - เมธัส สิริกุลเมธา: ให้ ‘Mr.Butler Candle’ ปลอบประโลมคุณ เสมือนมี butler ประจำตัว
“ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวันไหนที่ตื่นมาแล้วไม่อยากทำเลย ทุกวันนี้ทำเองตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เหนื่อยก็นั่งพัก เรายังมีความสุขกับมันอยู่”
รอยยิ้มที่เกิดขึ้นตลอดการสัมภาษณ์ ถือเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่า ชายคนนี้มีความรักในการทำแบรนด์เครื่องหอมมากขนาดไห
ขนาดที่ว่ายอมสละเวลาพักผ่อนหลังการทำงานประจำมาสร้างสรรค์เทียนหอมเพื่อสร้างประสบการณ์กลิ่นที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันยากจะลืมเลือน ผ่าน Mr.Butler Candle แบรนด์เทียนหอมที่หอมจนได้รับการโฆษณาฟรี ๆ แบบปากต่อปากบนโลกทวิตเตอร์
กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และซับซ้อนของเลเยอร์กลิ่น ที่เชื้อเชิญให้ผู้คนหลงใหลดื่มด่ำไปกับความลึกลับ แต่กลมกล่อมและหอมละมุน จนกลายเป็นความทรงจำที่เต็มไปด้วยความหมาย
ผ่านกลิ่นดังที่ไม่ว่าจะเป็น Thousand & One ในโทนกลิ่นไม้สไตล์ออเรนทอล ตัดกับกลิ่นกุหลาบหอมสดอย่างกลมกล่อม หรือ Whiskey Amber ที่คล้ายไซรัปหอมพร้อมกับกลิ่นอุ่นจากยางไม้ และอีกหลากหลายกลิ่นที่รอให้คุณตกหลุมรัก
เทียนหอมเหล่านี้เป็นผลงานของ ตอง - เมธัส สิริกุลเมธา บัตเลอร์ประจำโรงแรม 5 ดาว ที่หลงใหลไปในโลกของกลิ่นหอมและงานบริการ เจ้าของเพียงหนึ่งเดียว ผู้รังสรรค์จักรวาลความหอมเหล่านี้ให้เกิดขึ้น จนกลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์เทียนหอมที่โด่งดังบนโลกทวิตเตอร์อย่าง Mr.Butler Candle ควบคู่ไปกับการทำงานประจำเดิม
จากผู้บริโภค สู่ผู้ผลิต
ก่อนที่แบรนด์ Mr.Butler Candle จะถือกำเนิดขึ้นมา ตองก็ถือเป็นเพียงผู้บริโภคที่อยู่ในวงการเครื่องหอมคนหนึ่ง
แต่หลังจากอยู่ในวงการมาได้สักพัก ตองก็พบว่าเครื่องหอมที่ใช้เริ่มมีความซ้ำกันของกลิ่นเกิดขึ้น ด้วยจุดนี้เองที่ทำให้เขาตัดสินใจลองทำเทียนหอมในรูปแบบกลิ่นที่ตัวเองต้องการขึ้นมา
“พอเราใช้ไปเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกว่ากลิ่นมันเริ่มมีความซ้ำ ไม่มีสิ่งแปลกใหม่ ในขณะที่เราเริ่มอยากลองกลิ่นที่แปลกใหม่ขึ้นมากกว่านี้ เราก็เลยเริ่มจากการลองทำเอง”
จากทำเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ก็เริ่มขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเพื่อนและคนรู้จักเริ่มให้ความสนใจ จนสุดท้ายกลายมาเป็น Mr.Butler Candle อย่างในทุกวันนี้
“เขาบอกว่าลองทำขายสิ คนน่าจะชอบกัน เพราะกลิ่นแบบนี้ในราคานี้ มันยังไม่มีที่ไหนขาย ก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะให้ลูกค้าตลาดไทยมาได้ลองกลิ่นแปลกใหม่ ก็เลยตัดสินใจวางขายแล้วกัน”
โดยชื่อ Mr.Butler Candle ก็มาจากการตั้งเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับอาชีพของตองเอง ที่เป็นบัตเลอร์อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เพราะตองตั้งใจอยากให้เทียนหอมเป็นเหมือนพ่อบ้าน เพื่อนที่รู้ใจให้กับคนที่ใช้ และอยากให้เทียนของเขาเป็นเหมือนที่ปลอบประโลม และสร้างความสุขให้กับผู้ใช้งาน
แม้ว่าแบรนด์จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในขณะเดียวกันภายใต้ Mr.Butler Candle ก็ยังมีตองเพียงคนเดียวที่ทำทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นการผลิต การจัดส่ง รวมถึงการแนะนำและการคุยกับลูกค้าผ่านทางแชต
เรียกได้ว่า One Stop Service ภายในคนคนเดียว
อีกทั้งการที่ตองยังคงทำงานประจำเป็นบัตเลอร์อยู่ ทำให้กระบวนการทำเทียนหอมอาจจะช้ากว่าเจ้าอื่นในตลาด แต่ก็รับรองได้ถึงความประทับใจอย่างแน่นอน
“อันนี้ต้องขอบคุณความใจดีของลูกค้าเลย เขาเข้าใจและทราบเลยว่าเราทำเพียงคนเดียว ดังนั้นเวลาที่เขามาสั่งของหรือต้องการความช่วยเหลือจากเรา เขาก็จะค่อนข้างรอได้”
ส่วนผสมจากความตั้งใจ
แต่ก่อนที่จะออกมาเป็น Mr.Butler Candle ที่ถูกอกถูกใจลูกค้าจนเกิดการบอกต่อปากต่อปากบนโลกออนไลน์ โดยที่ตองไม่ต้องออกแรงโฆษณาเลยสักบาทอย่างในทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“จากผลตอบรับแรก ๆ ของลูกค้า ความโดดเด่นของเทียนน่าจะเป็นความซับซ้อนของเนื้อกลิ่น ที่จะไม่พบเจอได้ทั่ว ๆ ไป”
แต่แล้วตองก็พบเจอกับอุปสรรคในการขนส่ง เพราะอากาศที่ร้อนของประเทศไทย ทำให้หน้าเทียนที่ทำจากไขถั่วเหลือง 100 เปอร์เซ็นต์ละลาย
“จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาพัฒนา คิดค้น ปรับปรุงสูตร จนมาเป็น original soywax ของทาง Mr.Butler Candle เอง”
จากเดิมที่ทำมาจากไขถั่วเหลืองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบัน Mr.Butler Candle ได้นำไข 3 ชนิดมาผสมกัน ได้แก่ ไขถั่วเหลือง ไขผึ้ง และไขมะพร้าว จนสามารถแก้ไขปัญหาการละลายของหน้าเทียนระหว่างการจัดส่งลงไปได้
นอกจากนี้ไขทั้ง 3 ชนิดยังมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป คือทำให้เทียนละลายช้า และเมื่อหน้าเทียนเย็นตัวลง ก็จะไม่เกิดหลุมบนหน้าเทียน เรียบเนียนเสมอกันหมด
เมื่อแก้ปัญหาเรื่องของ ‘ตัวเทียน’ ไปได้แล้ว ปัญหาต่อมาคือการไม่มี ‘หน้าร้าน’
การทำแบรนด์เครื่องหอมออนไลน์ อุปสรรคที่สำคัญเลยคือการที่ลูกค้าไม่สามารถดมกลิ่นได้โดยตรง ทำให้ได้เพียงแค่เลือกซื้อจากสิ่งที่คิดว่าใช่มากที่สุดแทน
“หน้าที่ของเราคือจะต้องอธิบายให้ได้มากที่สุดว่ากลิ่นนั้น ๆ มันให้ความรู้สึกอย่างไร หรือพอจุดใช้แล้ว ลูกค้าที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน เขาจะเห็นภาพเป็นอะไร” ตองกล่าว
ต้องเล่าว่าความโชคดีของ Mr.Butler Candle คือตองมีประสบการณ์ในงานด้านบัตเลอร์ ที่เป็นงานอาศัยความเอาใจใส่และดูแลลูกค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ได้พูดคุยและเข้าใจคนในหลากหลายรูปแบบ
สิ่งที่ตองทำได้คือการแนะนำกลิ่นที่ใกล้เคียงกับความต้องการของลูกค้า และทำให้เขาสามารถตัดสินใจง่ายขึ้นด้วยการแบ่งกลิ่นเป็น 3 แบบ ตามลักษณะห้องที่ใช้งาน
และการมีกลิ่นที่แยกตามสถานที่อย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น และระเบียง ก็กลายเป็นจุดเด่นในการขายของทาง Mr.Butler Candle ไปโดยปริยาย เพราะลูกค้าจะเห็นภาพ ว่าเมื่อซื้อมาแล้วบรรยากาศที่ได้หลังจุดเทียนจะออกมาเป็นอย่างไร
“มีลูกค้าท่านหนึ่งที่สั่งกลิ่น Thousand & One แล้วเขาเล่าว่ามันทำให้เขาได้หวนถึงเหตุการณ์ที่เขาเคยทำงานเป็นลูกเรือสายการบินแห่งหนึ่งอยู่ที่ตะวันออกกลาง เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว” ตองเล่าถึงเรื่องราวความประทับใจของลูกค้าท่านหนึ่ง ที่กลับมาตอบโจทย์จุดเริ่มต้นแรกของการทำแบรนด์เครื่องหอมของตอง
“อยากให้เทียนของเราไม่ได้เป็นแค่สร้างบรรยากาศดี ๆ แต่รวมถึงการนำความทรงจำดี ๆ กลับมา หรือสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ที่มันน่าจดจำให้กับลูกค้าด้วย” ตองกล่าว
ให้เทียนหอมดูแลคุณ
ตองยอมรับว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ Mr.Butler Candle จะเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านกลิ่นมาประมาณหนึ่ง
“คิดว่า Mr.Butler Candle เป็นแบรนด์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและใช้งานผลิตภัณฑ์กลิ่นหอมมาสักระยะ และกำลังมองหาประสบการณ์ทางด้านกลิ่นหอมใหม่ ๆ ที่ไม่มีอยู่ในตลาดทั่ว ๆ ไป”
แต่อย่างไรก็ตาม ตองก็ยังมีความเสียดายถึงข้อจำกัดที่มีของทางแบรนด์ ทั้งในเรื่องของร้านค้าที่เป็นออนไลน์ จำนวนชิ้นที่ทำได้ต่อเดือน เพราะมีงานประจำ และความจำกัดที่มีเพียงผลิตภัณฑ์เดียวคือ ‘เทียนหอม’
และการมีเทียนหอมเพียงอย่างเดียว ถ้ามองว่าเป็นข้อดีที่จะสามารถโฟกัสกับผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นก็ใช่ แต่ในขณะเดียวกันตองก็มองว่ามันถือเป็นข้อเสียด้วยเช่นเดียวกัน
“กลิ่นของเราค่อนข้างเฉพาะอยู่แล้ว ก็เลยไม่อยากจำกัดเฉพาะเทียนหอม เพราะถ้าเกิดบางคนเขาแพ้ควัน แพ้เขม่าจากการใช้เทียนหอม เขาก็น่าจะได้มีโอกาสใช้กลิ่นของเราที่เราทำ”
ตองจึงแอบกระซิบกับเราว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนาแบรนด์ ทำโปรเจกต์แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็น room diffuser และ room spray ในเร็ว ๆ นี้
รวมไปถึงถ้ามีโอกาสได้ออกจากงานประจำมาทำแบรนด์ Mr.Butler Candle อย่างเต็มตัว หรือถ้าอะไรลงตัวมากกว่านี้ การมีหน้าร้านก็เป็นสิ่งที่ตองสนใจอยู่ไม่น้อย
“เราอยากนำเทียนทั้งหมดไปวางตามสถานที่ที่คนสามารถไปดมกลิ่นได้ หรืออาจจะมี popup store ขึ้นมาในช่วงที่เรา new opening รูปลักษณ์ใหม่ และอาจจะมีกลิ่นใหม่ขึ้นมาด้วย 2 - 3 กลิ่น ให้ลูกค้าได้เข้ามาแวะเวียนลองดม”
เพื่อให้ผู้คนที่มีความสนใจ สามารถเข้าถึงเทียนหอมได้ง่ายกว่าเดิม หลังจากที่ผู้บริโภคเริ่มสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องหอมมากขึ้นในช่วงของการ work from home เพราะคนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้หลายคนเกิดภาวะเครียดหรือภาวะกดดันเพิ่มขึ้น การใช้เทียนหอมเพื่อสร้างกลิ่นหอมหรือการใช้กลิ่นบำบัด จึงกลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่นิยมขึ้นในสังคม
ซึ่งตรงกับความตั้งใจเดิมของตองที่อยากให้ Mr.Butler Candle เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยปลอบประโลมผู้คนด้วยกลิ่นหอมของเทียน เหมือนที่ตองรู้สึกและหลงรักมัน
