‘โกตัม อดานิ’ วิกฤต จากมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในเอเชียดิ่งสู่อันดับ 16 ของโลกเพราะข่าวแฉ

‘โกตัม อดานิ’ วิกฤต จากมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในเอเชียดิ่งสู่อันดับ 16 ของโลกเพราะข่าวแฉ

‘โกตัม อดานิ’ (Gautam Adani) มหาเศรษฐีชาวอินเดียที่เคยขึ้นสูงสุดเป็น billionaire รวยที่สุดของเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก ล่าสุดร่วงมาอยู่อันดับ 16 จากการจัดอันดับของ Forbes (ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์) หลังถูก 'ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช' (hindenburg research) เปิดโปงว่า Adani Group ได้ตกแต่งบัญชีบริษัทมานานหลายทศวรรษ

  • โกตัม อดานิ’ (Gautam Adani) เคยเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชียเมื่อปี 2565 และนั่งอยู่อันดับนี้นานแบบไม่มีท่าทีว่าใครจะโค่นได้
  • ข่าวฉาวที่ Adani Group ถูกแฉจาก 'ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช' (hindenburg research) ทำให้สินทรัพย์รวมของเขา และหุ้นบริษัททั้งหมดร่วงอย่างต่อเนื่อง

 

ในกรณีที่ 'ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช' (hindenburg research) บริษัทวิจัยและลงทุนในสหรัฐอเมริกา ปล่อยเอกสารเปิดโปง 'โกตัม อดานิ' (Gautam Adani) เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเขาและบริษัท Adani Group ได้ตกแต่งบัญชี ใช้บริษัทในต่างประเทศทำการฟอกเงิน อีกทั้งที่ผ่านมายังทุจริตทางภาษีด้วย

ในเอกสารยังระบุด้วยว่า บริษัทได้มีส่วนร่วมในแผนปั่นหุ้น และฉ้อโกงมากมาย ทำให้หลายบริษัทลูกในเครือ Adani มีมูลค่าเกินจริง เขาปิดซ่อนความจริงที่สภาพคล่องทางการเงินหลายบริษัทกำลังแย่ในระยะสั้น

ระยะเวลาเพียง 4 วันที่ถูกแฉความมั่งคั่งของ โกตัม อดานิ ลดลงเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังลดลงต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่อันดับความร่ำรวยของเขาอยู่ที่ลำดับ 16 ของโลก จาก Forbes

ทั้งนี้ โกตัม อดานิ พยายามพูดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อนักลงทุนอีกครั้ง แม้ว่าจะดูล่มสลายก็ตาม เพราะมูลค่าธุรกิจของเขาสูญไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 วันตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง

เขาได้พูดออกสื่อเป็นครั้งแรกว่า "สำหรับผมความสนใจของนักลงทุนสำคัญที่สุด เรื่องอื่นรองลงมา ผมกล้าพูดได้ว่างบดุลของเราแข็งแกร่งและสินทรัพย์ยังแข็งแกร่งในระดับ EBITDA (กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี) เรามีประวัติของบริษัทที่ไร้ที่ติ"

"เราจะยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าในระยะยาวและการเติบโตระยะยาว หลังจากที่จัดการปัญหาภายใน เมื่อตลาดมีเสถียรภาพ ผมจะทบทวนกลยุทธ์ตลาดทุนของเราอีกครั้ง"

สถานการณ์ของ Adani Group และตัวของโกตัม อดานิ ค่อนข้างตึงเครียด แม้ว่าสถานะปัจจุบันคือ Adani Group ได้ยื่นฟ้อง ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช แล้วก็ตาม แต่การกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็ยังคงไม่ฟื้นตาม

 

(เคย)เป็นมหาเศรษฐีรวยที่สุดในเอเชีย

ก่อนหน้านี้ในปี 2565 มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเอเชียได้เปลี่ยนโฉมหน้าไป ไม่ใช่เจ้าพ่อค้าปลีกอย่าง 'มูเกซ อัมบานี' (Mukesh Ambani) ประธานบริษัท Reliance Industries อีกต่อไป

แต่เป็นนักธุรกิจชาวอินเดียที่ชื่อว่า ‘โกตัม อดานิ’ (Gautam Adani) ประธาน Adani Group มุมคิดเรื่องการทำธุรกิจของเขาเรียกว่าไม่ธรรมดา จนทำให้นักการตลาดหลายคนมองว่าเขามีโอกาสที่จะขึ้นเป็นเบอร์ต้น ๆ ของมหาเศรษฐีโลกได้

เอาจริงชื่อของ โกตัม อดานิ เคยติดเป็นอันดับ 3 ของมหาเศรษฐีโลก ตามหลังแค่ อีลอน มัสก์ นักประดิษฐ์ที่บ้าบิ่นที่สุดคนหนึ่งของโลกในเวลานี้ ซึ่งอยู่เป็นอันดับที่ 4 ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครั้งหนึ่ง

โกตัม อดานิ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อของอินเดียในงานประกาศรางวัล Global Awards ครั้งที่ 37 ของ Priyadarshni Academy เขาโชว์วิสัยทัศน์ด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดว่า “แด่ความยิ่งใหญ่ของอินเดีย (Greater India) ในห้วงเวลาแห่งการเติบโตของประเทศ” ซึ่งเป็นในไม่กี่ครั้งที่เขาบอกความต้องการชัด ๆ เกี่ยวกับความคิดและเส้นทางการดำเนินธุรกิจของเขา

 

เริ่มต้นด้วยอาชีพ ‘พ่อค้าเพชร’

โกตัม อดานิ นักธุรกิจชาวอินเดียวัย 60 ปี บ้านเกิดอยู่ที่เมืองอะห์มดาบาด รัฐคุชราต มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ก่อนที่เขาจะเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ โกตัม อดานิ เคยรับจ้างเป็น ‘นักคัดเพชร’ มาก่อนในเมืองมุมไบ

ตอนนั้นอายุได้เพียง 16 ปี ซึ่งแทบไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าพ่อสายพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานแต่อย่างใด ความฝันที่อยากจะเป็นนักธุรกิจของ โกตัม อดานิ จริง ๆ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่เขาเรียนในมหาวิทยาลัย เพราะความรู้สึกนี้ทำให้เขาตัดสินใจลาออกกลางคันเพราะไม่อยากเรียนแล้ว แต่อยากเป็นนักธุรกิจมากกว่า

การเป็นนักธุรกิจในความหมายของ โกตัม อดานิ คือการเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ไม่ใช่การสืบทอดกิจการจากพ่อแม่

ซึ่งก็คือ ธุรกิจสิ่งทอ ทั้งที่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยู่ในกระแสของอินเดียอยู่แล้วไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ระยะเวลา 3 ปีในการเป็นนักคัดเพชรของ โกตัม อดานิ ทำให้เขาได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งเงินที่เพียงพอทำให้เขายกระดับตัวเองสู่การเป็น ‘พ่อค้าขายเพชร’

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเพิ่มประสบการณ์ของตัวเองด้วยการเป็น ‘ผู้นำเข้าพลาสติก PVC’ จากคำชวนของพี่ชาย

โดยร่วมหุ้นทำธุรกิจด้วยกันในปี 1981 และนี่เป็นจุดเริ่มต้นอีกด้านหนึ่งที่ทำให้เขาเห็นโลกกว้างกว่าคนอื่น จากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ (ในยุคที่อินเดียยังไม่เปิดเสรีการค้า)

โกตัม อดานิ เข้าสู่วงการนำเข้าเต็มตัว ในปี 1988 โกตัม อดานิ ได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Adani Exports (ปัจจุบันใช้ชื่อว่า Adani Enterprises) โดยหลัก ๆ จุดประสงค์เพื่อทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ และขยายประเภทธุรกิจให้กว้างขึ้นเป็น โลหะ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์การเกษตร

หลังจากที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้นโยบายเปิดเสรีทางการค้าอย่างเป็นทางการในปี 1991 ท่าเรือ-จุดกำเนิดความมั่งคั่งอดานิ ท่าเรือมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ธุรกิจของโกตัม อดานิ เติบโตอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ในปี 1994 รัฐบาลของรัฐคุชราตประกาศให้บริษัทเอกชนสามารถเข้ามาบริหารท่าเรือมุนดรา (Mundra Port) ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของอินเดีย ซึ่งโกตัม อดานิ ได้สัญญาเข้าบริหารพอร์ตเรือได้สำเร็จในปี 1995

โกตัม อดานิ เคยพูดว่า “การบริหารท่าเรือขนาดใหญ่มีส่วนทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของ Adani Enterprises เติบโตและคล่องตัวมากขึ้น ดังนั้นการเข้ามามีส่วนบริหารในโครงสร้างพื้นฐานก็เหมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจของเรา”

ปัจจุบันอาณาจักรของอดานิ ได้เข้าบริหารท่าเรือส่วนตัวใหญ่ ๆ หลายแห่ง ซึ่งทำให้ธุรกิจของเขาสามารถรองรับสินค้าได้เกือบ 210 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะมากกว่านี้ เพราะตอนนี้มีแพลนขยายท่าเรือในหลายที่ด้วย

จากท่าเรือสู่เจ้าพ่อพลังงาน ในปี 1996 เป็นอีกหนึ่งปีของสายธุรกิจใหม่ในอาณาจักรอดานิ เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า Adani Power ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนของเอกชนที่ใหญ่สุดในอินเดียของยุคนั้น

จากนั้นเขาก็เริ่มสนใจที่จะจัดหาพลังงานสำหรับผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2006 เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และในปี 2012 โกตัม อดานิ ได้เข้าซื้อหุ้นเหมืองและท่าเรือส่งออกถ่านหิน Abbot Point ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในยุคที่ทั่วโลกแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน กิจการในเครือของโกตัม อดานิ ซึ่งในตอนนั้นธุรกิจของเขาทั้งหมดเข้ามาอยู่ในเครือ Adani Group โดยเขาได้แตกไลน์ธุรกิจมาสู่ ‘พลังงานสะอาด’ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น

ซึ่งที่ผ่านมา โกตัม อดานิ แสดงให้เห็นว่าไม่เคยหยุดพัฒนาเลยสักครั้ง จากที่มีการปล่อยธุรกิจใหม่ ๆ ตามยุคสมัย และทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว ทั้ง Adani Green, Adani Solar ซึ่งบริษัทเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านพลังงานจากแสงอาทิตย์ ขยายต่อไปโครงสร้างพื้นฐานอื่น

ต้องบอกว่าปัจจุบัน Adani Group มีธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในอินเดียเยอะมาก จากที่เกี่ยวพันกับท่าเรือขนาดใหญ่ของประเทศ ก็มาเป็นหลายส่วนอื่น ๆ ตั้งแต่สนามบิน ถนน ไปจนถึงระบบการเดินรถไฟ

กระแสใหญ่แห่งปี 2020 หลายคนต้องพูดถึงดีลการซื้อขาย ‘สนามบินมุมไบ’ โดย Adani Group เข้าถือหุ้นใหญ่ถึง 74% หลังจากนั้นก็รับสัมปทานเข้าบริหารสนามบินอีกหลายแห่งในอินเดียกว่า 7 แห่ง คือ มุมไบ, ชัยปุระ, อะห์มดาบาด, ลัคเนา, กูวาฮาติ, ติรุวนันตปุรัม และมังคาลอร์

รวม ๆ ก็ครองส่วนแบ่งในตลาดไป 1 ใน 4 แล้ว ทั้งยังมีกระแสว่าโกตัม อดานิ อาจได้สัมปทานเข้าบริหารสนามบินในอินเดียอีกหลายแห่งด้วย

จากวันนั้นที่เป็นเพียงเด็กที่ไม่อยากเรียนต่อเพราะเขามีความฝันที่ชัดมาก จนวันนี้กิจการของ Adani Group มีมูลค่าสุทธิมากมาย แม้ว่าเขาและบริษัทกำลังอยู่ใจกลางมรสุมที่รุนแรง

แต่ความทะเยอทะยานและมุ่งมั่นของ โกตัม อดานิ ที่ฝังอยู่ใน DNA คือคำตอบและที่มาทั้งหมดของความสำเร็จของเขา อย่างน้อยความจริงที่ว่าเขาเป็นเด็กคัดเพชรที่ฝันอยากเป็นนักธุรกิจก็อยู่ในนี้เสมอ ไม่ว่าอนาคตของโกตัม อดานิ จะเป็นอย่างไร

 

ภาพ: Getty images

อ้างอิง:

Time

Adani

Bloomberg

Livemint

CNN