NCT 127: บอยแบนด์ที่ไม่ยอมแพ้ในจักรวาลแห่งความฝัน

NCT 127: บอยแบนด์ที่ไม่ยอมแพ้ในจักรวาลแห่งความฝัน
“NCT แบ่งปันความฝันร่วมกัน แต่ละความฝันมีโทนเสียงของตัวเอง และเมื่อโทนเสียงเหล่านั้นสอดประสาน พลันเกิดเป็นดนตรี” คือถ้อยคำบรรยายด้วยเสียงของเมมเบอร์ NCT ภายใน ‘NCTmentary EP.1 Dream Lab’ คลิปโปรโมต ‘NCT’ บอยแบนด์แห่งค่าย SMEntertainment ที่ถูกวางคอนเซ็ปต์ไว้อย่างค่อนข้างซับซ้อน ‘NCT’ ย่อมาจาก ‘Neo Culture Technology’ เป็นวงไอดอลกรุปที่ภายในแบ่งเป็นวงหรือ ‘ยูนิต’ ย่อย ๆ ‘NCT U’, ‘NCT 127’, ‘NCT Dream’, ‘WayV’ คือชื่อทุกยูนิตที่มีในตอนนี้ ‘NCT’ ประกอบด้วยสมาชิก 23 คนในปัจจุบัน (และสามารถเพิ่มได้ไม่สิ้นสุด) พวกเขาทุกคนเชื่อมโยงกันด้วย ‘ความฝัน’ ไม่ใช่ ‘ความฝัน’ อย่างที่เรามักได้ยินจากปากคนเป็นศิลปิน แต่ตามคอนเซ็ปต์ของวง พวกเขาทั้ง 23 คน เชื่อมต่อกันด้วย ‘ความฝัน’ ขณะร่างกายหลับจริง ๆ เป็นความฝันที่เกิดในการนอนหลับชั้น R.E.M ที่ถูกติดตาม เฝ้าดู และบันทึกด้วยเครื่องไม้เครื่องมือในห้องทดลองราวกับห้วงฝันในหนัง Sci-fi SM Entertainment ค่ายเพลงลำดับบิ๊ก 3 ของเกาหลี เข้าใจผสานจุดร่วมของความฝันและเสียงดนตรี จนได้ผลผลิตเป็นวงไอดอลวงใหญ่ ที่คล้ายกับว่ามีจักรวาลเรื่องราวเป็นของตัวเอง - ท่ามกลางโลกแห่งความฝันที่ถักทอเป็นจักรวาลแห่งโน้ตดนตรี ‘NCT 127’ คือยูนิตความฝันผิดเพี้ยนประหลาดล้ำ ที่ทำให้ดนตรีของพวกเขาประหลาดหูอย่างน่าฟังตามไปด้วย   ต้นกำเนิด ‘NCT 127’ (ชื่อวงอ่านว่า เอ็นซีที อิลอีชี ในภาษาเกาหลี หรือ เอ็นซีที วันทูเซเว่น ในภาษาอังกฤษ เลข 127 เป็นตัวเลขลองจิจูดประเทศเกาหลี เพื่อแสดงว่าบอยแบนด์ยูนิตนี้แอคทีฟในเกาหลีใต้เป็นหลัก) เดบิวต์ในฐานะยูนิตใหม่ของ NCT ในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 พร้อมด้วยอีพีแรกอย่าง ‘NCT #127’ ที่มีเพลงโปรโมตเป็น ‘Fire Truck’ ตอนนั้น พวกเขาเปิดตัวด้วยสมาชิก 7 คน - แทยง, แทอิล, มาร์ค, แจฮยอน, ยูตะ, วินวิน และ แฮชาน ก่อนที่อีกสองสมาชิกอย่าง จอห์นนี่ และ โดยอง จะได้เข้ามาร่วมทีมในต้นปีถัดมา พร้อมด้วยคัมแบ็กครั้งแรกกับเพลงโปรโมต ‘Limitless’ สมาชิกร่วมทางฝันคนสุดท้าย (ในปัจจุบัน) อย่าง ‘จองอู’ เข้ามาร่วมทีมในปี 2018 ในช่วงโปรโมตของอัลบั้มเต็ม ‘Regular-Irregular’   ความฝันแบบ Neo Culture Technology คลิป ‘SM_NCT # 1. The Origin’ อาจจะเล่าถึงต้นกำเนิดของ NCT ว่ามาจากเด็กชายผู้ปักธงสีแดงกลางทะเลทราย แต่ ‘ต้นกำเนิด’ ของวงบอยกรุปหนึ่งวงนั้นซับซ้อนน้อยกกว่านั้น โดยทั่วไปแล้ว บอยกรุปคือสถานที่รวมตัวเด็กหนุ่มที่มีความฝันอยากเป็น ‘ไอดอล’ และฝึกใต้ชายคาค่ายเพลงมานานหรือมีพัฒนาการมากพอให้ถูกเลือก สมาชิก NCT 127 ทุกคนเคยเป็นเด็กฝึกที่ถูกเรียกว่า ‘SM Rookies’ พวกเขาทุกคนมีเป้าหมายอยากเป็น ‘ไอดอล’ เป้าหมายนั้นผลักดันให้ ‘จอห์นนี่’ เด็กฝึกสัญชาติอเมริกา ขยันซ้อมร้องและเต้นใต้ชายคา SM ราวแปดถึงเก้าปี ‘แทอิล’ พี่ใหญ่เสียงเพราะยอมเสียโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัย เพราะเชื่อว่าในวงไอดอลวงนี้ เป็นที่ที่เขาจะได้ร้องเพลงมากเท่าที่ตั้งใจ - เช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในวง ที่วันวานเหล่านั้น พวกเขาทุกคนล้วนมี ‘ความฝัน’ ทอประกายในดวงตา “ก่อนเดบิวต์ ผมเคยมีความฝันที่ยิ่งใหญ่” คือถ้อยคำของ ‘โดยอง’ สมาชิกในวง เจ้าของเสียงร้องเปี่ยมเสน่ห์และไฮโน้ตเพราะ ๆ บอกเล่าผ่านอินสตาแกรมสตอรี่ นักร้อง - ไอดอลวัยยี่สิบหกปีเล่าว่าเขาเคยเป็นเด็กฝึกช่างฝัน ที่นอกจากฝันว่าตัวเองจะได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว ยังเฝ้าฝันถึงความสำเร็จ ถึงวันที่พวกเขาได้ยืนอยู่บนเวที และรับถ้วยรางวัลใหญ่ ๆ วันที่ชื่อของพวกเขาจะกลายเป็นที่รู้จัก “แต่หลังจากเดบิวต์ ผมก็ลืมช่วงเวลาที่ฝันยิ่งใหญ่ไป” คือคำจากข้อความฉบับเดียวกัน สะท้อนถึงช่วงเวลาที่แสงเจิดจ้าของความฝันริบหรี่ลง   ทุกอย่างเป็นไปได้ ในความฝันของผม ด้วยระบบวงที่ซับซ้อนของ NCT แม้แต่ผู้ริเริ่มไอเดีย ‘วงบอยแบนด์ที่เพิ่มจำนวนได้อย่างไม่สิ้นสุด’ ขึ้นมา อย่าง ‘ลี ซูมาน’ ก็ยังยอมรับว่าการจะปั้นให้วงโด่งดังในเวลาสั้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพลงจากยูนิต ‘NCT 127’ มีเอกลักษณ์และฟังไม่ง่ายนัก ในความเห็นใครหลายคน เพลงของพวกเขาในแนวทางที่ถูกเรียกว่า ‘Classic NCT’ มักมีองค์ประกอบหรือลูกเล่นแปลก ๆ ปะปนอยู่ด้วยเสมอ เพลงโปรโมตของ ‘NCT 127’ นั้น ‘Neo’ สมชื่อ ส่วนคนฟังจะฟังแล้ว ‘เอ๊ะ?’ หรือ ‘ว้าว!’ ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทางดนตรีของแต่ละคน ‘NCT 127’ เป็นวงที่ผู้คนจับตาในช่วงเริ่มต้น แต่ขณะเดียวกัน กลับไม่ใช่วงที่ประสบผลสำเร็จในแง่รางวัลและยอดขายนักในขวบปีแรก ๆ พวกเขาต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการส่งเพลงแปลกหูของตนเข้า earworm กลุ่มคนฟัง ร่วมกับการขยายฐานแฟนคลับด้วยการออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกในปี 2019 และการตระเวนออกรายการต่าง ๆ ในอเมริการะหว่างการโปรโมตมินิอัลบั้ม ‘We Are Superhuman’ ในปีเดียวกัน ก็ทำให้ชื่อเสียงของบอยแบนด์จากค่าย SM วงนี้ค่อย ๆ ครองพื้นที่ในการจดจำของผู้คนมากขึ้นทุกขณะ ปี 2020 ระหว่างการโปโมตอัลบั้มเต็มชุดที่สอง ‘Neo Zone’ เพลง ‘Kick It’ ของพวกเขาก็เรียกได้ว่าขยับเข้าใกล้ความ ‘แมส’ ไปอีกขั้น การันตีด้วยรางวัลระหว่างขึ้นโปรโมตจากรายการเพลงต่าง ๆ การคัฟเวอร์เพลงนี้โดยไอดอลวงอื่น ๆ และการที่เพลงนี้ถูกเปิดในหลาย ๆ ที่ รวมถึงมีอันดับสูงในชาร์ตเกาหลี นั่นอาจหมายความว่าคราวนี้เพลงของพวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ตามวงไอดอล ต้นปี 2022 ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับรางวัล ‘แดซัง’ รางวัลใหญ่สุดจากเวทีประกาศรางวัลประจำปี ‘The 31st Seoul Music Awards’ หรือ SMA ปีที่ 31 ไปได้ หลังจากเคยได้รับรางวัลบอยกรุปหน้าใหม่บนเวทีเดียวกันไปในปี 2016 ทั้งนี้ NCT 127 ยังสามารถคว้ารางวัลแดซัง อัลบั้มแห่งปี จากเวที Asian Artist Awards 2021 มาครองได้อีกด้วย นับเป็นรางวัลใหญ่สมความพยายามมากกว่า 5 ปี ที่พาช่วงเวลาแห่งความดีใจมาหาพวกเขา สมาชิกหลายคนต้องซ่อนน้ำตาระหว่างกล่าวคำขอบคุณสำหรับถ้วยรางวัล NCT 127 ได้สัมผัสความฝันครั้งพรีเดบิวต์ ที่เหมือนจะเลือนหายตามวันเวลาไปแล้ว และพวกเขายกคำขอบคุณจากถ้วยรางวัลทั้งหมดให้แก่ความพยายามของพวกเขา ค่ายเพลง เพื่อนร่วมงาน และแฟน ๆ อย่าง ‘NCTZens’ ทุกคน พร้อมทั้งกล่าวว่าพวกเขาจะทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อตอบแทนรางวัลและความรักที่ได้รับ สำหรับผู้เขียนที่เป็นแฟนเพลงของ NCT ทั้ง NCT 127 และยูนิตอื่น ๆ ความสำเร็จของพวกเขาในรอบนี้ ชวนให้นึกถึงวิดีโอคอนเซ็ปต์วงที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อหลายปีก่อนหน้า และมีลักษณะเป็น hint มากกว่าคำเฉลย ว่าที่สุดแล้วตัวตนของ NCT คืออะไรกันแน่ วิดีโอชิ้นนั้นเริ่มต้นด้วยประโยคหลากภาษา ให้เสียงบรรยายโดยสมาชิกภายในวง พูดด้วยภาษาที่หนึ่งของตัวเอง “NCT แบ่งปันความฝันร่วมกัน แต่ละความฝันมีโทนเสียงของตัวเอง และเมื่อโทนเสียงเหล่านั้นสอดประสาน พลันเกิดเป็นดนตรี” คลิปวิดีโอชิ้นนั้นเกี่ยวพันกับความฝันหลังหลับตา และปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้ ในความฝันของผม” ผู้เขียนไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่า ขอให้ถ้อยคำนั้นของพวกเขาเป็นความจริง