พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี: ปลัดอำเภอผู้ใช้ความสามารถบู๊และบุ๋นเพื่อประชาชน

พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี: ปลัดอำเภอผู้ใช้ความสามารถบู๊และบุ๋นเพื่อประชาชน
อาชีพนักปกครอง แม้จะสามารถศึกษาเล่าเรียนด้านทฤษฎีได้ แต่ในชีวิตการทำงานจริง ต้องประยุกต์ใช้ศาสตร์และศิลป์หลายแขนง เพื่อการทำงานในหน้าที่และครองใจประชาชน เหมือนกับที่ พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี ปลัดอำเภอ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ป.เน เล่าถึงเส้นทางการทำงานที่ต้องใช้กลยุทธ์ทั้งบู๊และบุ๋น ด้วยสมรรถนะของหนึ่งสมอง สองมือ สองขา รวมถึงจิตใจที่เสียสละในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน  จากเด็กชายลูกชาวไทยเชื้อสายจีน ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย อาณาบริเวณติดต่อกับอำเภอเลาขวัญ ผู้ซึ่งเห็น เตี่ย ทำงานทั้งในบทบาทการเป็นชาวไร่ผู้มีหัวก้าวหน้า ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ทำให้บ้านของเขากลายเป็นสถานที่ประชุม ปรึกษาหารือกับลูกบ้าน โดยมีคุณแม่รับหน้าที่ตระเตรียมข้าวปลาอาหารรับรอง ทำให้เด็กชายได้เรียนรู้ถึงการทำงานเป็นข้าราชการที่ต้องเสียสละความสุขส่วนตัว และซื่อสัตย์ในการทำงานเพื่อผู้อื่น เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเดินตามรอยและใฝ่ฝันจะเป็นปลัดอำเภอตั้งแต่เยาว์วัย เส้นทางชีวิตเริ่มจากการเข้าเรียนที่โรงเรียนจ่าอากาศ หลังจากนั้นเข้าเรียนหลักสูตรกระโดดร่ม และหลักสูตรเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD อันเป็นหลักสูตรที่เข้มข้นที่สุดของชีวิตชายชาติทหาร และได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางมาสู่วงการสีกากี รับราชการตำรวจ ที่ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ  พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี: ปลัดอำเภอผู้ใช้ความสามารถบู๊และบุ๋นเพื่อประชาชน ขีดความสามารถทางด้านร่างกายได้ใช้อย่างคุ้มค่าในสองหน้าที่ที่ผ่านมาแล้ว แต่ความฝันวัยเยาว์ยังไม่สำเร็จ จึงเติมเต็มความรู้งานด้านการปกครอง เลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คว้าปริญญาทั้ง 2 ใบได้ในเวลาเพียง 4 ปี และจบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ที่สถาบันเดียวกัน กระทั่งมีการสอบคัดเลือกบรรจุข้าราชการปลัดอำเภอ ในขณะนั้น ป.เน มีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 เดือนเท่านั้น กับภาระงานข้าราชการตำรวจ พร้อมกับทำหน้าที่ลูกชายดูแลเตี่ยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก รวมถึงต้องติวสอบ อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ แต่เขาก็คว้าตำแหน่งปลัดอำเภอมาเป็นกำลังให้ให้เตี่ยได้สำเร็จ เริ่มต้นชีวิตข้าราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ ที่ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ในปี 2551 ในขณะที่อายุเพียง 28 ปี ก่อนจะโยกย้ายมารับราชการอยู่ที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ในปี 2561 เพื่อมาทำงานให้บ้านเกิดและดูแลครอบครัว บทบาทการทำงานที่โดดเด่นของปลัดอำเภอเนติภูมิ คือการปฏิบัติงานที่ศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องราวร้องทุกข์ และไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทต่างให้ชาวบ้าน ทั้งปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ดินทำกิน และปรึกษาปัญหาอื่นตามลำดับ ด้วยความรู้ด้านนิติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้เกือบทุกเรื่อง พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี: ปลัดอำเภอผู้ใช้ความสามารถบู๊และบุ๋นเพื่อประชาชน “ประชาชนที่เดินเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรม เพราะมีปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ ปัญหาที่พบมากที่สุดคือเรื่องหนี้สินนอกระบบ และปัญหาที่ดิน มีคู่กรณี 2 ฝ่าย เราใช้ความรู้ด้านกฎหมาย ช่วยไกล่เกลี่ยหาทางออกให้เขาตกลงกันได้ ก็จะพอใจทั้งคู่ ชนะกันทั้งคู่ เมื่อเดินออกไปจากที่ศูนย์ดำรงธรรมก็มีแต่รอยยิ้ม” การแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน รวดเร็ว ตรงใจ ทำให้ศูนย์ดำรงธรรมแห่งนี้ได้รับความไว้วางใจของประชาชน เข้ามาใช้บริการกว่า 300-400 เรื่องต่อปี จนได้รางวัลศูนย์ดำรงธรรมอัจฉริยะต้นแบบ และสามารถลดปริมาณคดีความ ลดภาระงานให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เลาขวัญ ลงได้ชัดเจน นอกจากปัญหาปัจเจกบุคคลแล้ว ที่อำเภอแห่งนี้ยังมีปัญหาสำคัญ คือความแห้งแล้ง จนได้ชื่อว่า อีสานภาคกลาง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่ในเขตเงาฝนเทือกเขาตะนาวศรี ไม่มีแหล่งต้นน้ำ น้ำใต้ดินอยู่ลึกลงไปกว่า 200 เมตร และไม่มีระบบชลประทาน ทำให้ผู้คนที่นี่ประกอบอาชีพคือทำไร่ได้เท่านั้น ในยามหน้าแล้งต้องไปขนน้ำจากวัดหรือโรงเรียนมาใช้งาน ปลัดเนติภูมิจึงมีอีกภารกิจในการแก้ปัญหาภัยแล้ง ด้วยการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ขุดลอกพื้นที่อ่างเก็บน้ำพหุงดินอันได้ชื่อว่าเป็นจุดที่แห้งแล้งที่สุดของอำเภอ ประโยชน์ทางตรงคือการกักเก็บน้ำได้กว่า 1.8 แสนลูกบาศก์เมตร และประโยชน์ทางอ้อมคือทำให้เกิดความชุ่มชื้น ดึงน้ำลงดิน น้ำใต้ดินอยู่ตื้นขึ้น  รวมถึงการขุดหลุมขนมครกตามศาสตร์พระราชาเพื่อกักเก็บน้ำ กระจายกว่า 1,000 หลุม ครอบคลุมพื้นที่กว่า 800 ตร.กม. ทั่วอำเภอ นำมาซึ่งพื้นที่สีเขียว มีความชุ่มชื้น ฝนตกตามฤดูกาล ชาวบ้านทั่วไปมีน้ำไว้ใช้ในครัวเรือนอย่างพอเพียง เกษตรกรมีน้ำสำรองไว้ใช้ในไร่ยามหน้าแล้ง พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี: ปลัดอำเภอผู้ใช้ความสามารถบู๊และบุ๋นเพื่อประชาชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของที่นี่ที่เป็นที่ราบ มีความเข้มข้นของแสงแดดสูง ป.เน ที่สวมหมวกอีกใบเป็นชาวไร่อ้อย จึงทดลองนำแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งทำงานร่วมกับระบบน้ำหยดมาใช้ในไร่ของตนเอง ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าและประหยัดน้ำ สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้เป็นสิบเท่า สร้างรายได้ต่อปีมากขึ้น นำความรู้จากประสบการณ์ตรงมาเผยแพร่ให้กับคนในชุมชนได้นำไปปฏิบัติจริง “ผมเป็นคนชอบหาความรู้ และทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่แล้ว เรื่องโซลาร์เซลล์ก็ศึกษาจากในยูทูบ แล้วก็เอามาทดลองทำเอง ข้อดีคือลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้ไปตลอด ลดต้นทุนค่าไฟ ค่าน้ำ เกษตรกรก็จะอยู่ได้ เพราะแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด เราเอาความรู้ตรงนี้ไปถ่ายทอดชาวบ้าน ใครอยากเห็นว่าทำได้จริงไหม ก็สามารถมาเรียนรู้ที่ไร่ผมได้เลย” ที่กล่าวมานั้นเป็นภาคการทำงานแบบบุ๋นที่ต้องใช้องค์ความรู้หลายแขนง แต่การทำงานตำแหน่งปลัดอำเภอก็ต้องเดินสายบู๊เช่นกัน คือการจับมือกับทุกภาคส่วน เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด บ่อนพนัน การลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ ในฐานะตำรวจและทหารเก่าจึงสามารถรับหน้าที่นี้ได้อย่างดี ด้วยการทำงานเป็นทีมเวิร์ก พิสูจน์ด้วยผลงานเป็นรูปธรรมกับการจับกุมและดำเนินคดีกับกระทำความผิดหลายสิบคดีต่อปี “เราทำงานเป็นทีม ไม่มีใครเป็นฮีโรคนเดียว ต้องมีการบูรณการแบ่งงานกัน ทำให้ทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่ ได้เข้าไปเห็นถึงปัญหาจริง ๆ ทั้งเรื่องยาเสพติด หรือบ่อนพนัน เนื่องจากอาชีพข้าราชการอาจมีการโยกย้าย แต่ถ้าเราปลูกฝังแนวคิดการทำงานเหล่านี้เอาไว้ ให้คนในพื้นที่ตระหนัก การเดินงานก็ยังเกิดขึ้นต่อไป” ในปี 2563 นี้ ปลัดเนติภูมิได้รับรางวัลจากโครงการปลัดอำเภอแหวนทองคำ ที่คัดเลือกปลัดอำเภอผู้มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์จากกรมการปกครอง แต่มากไปกว่ารางวัลอันทรงเกียรติคือการได้เห็นบ้านเกิดพัฒนาขึ้น ด้วยหลักการทำงานที่ยึดถือประโยชน์และความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง แก้ปัญหาอย่างตรงใจและทันท่วงที “การทำงานเพื่อมวลชนเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เราต้องทำได้ทั้งบู๊และบุ๋น เมื่อต้องทำงานชุมชนในเชิงโครงสร้าง  ต้องแก้ปัญหาพื้นฐานให้ได้ ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวบ้าน เวลาเดือดร้อนให้เขาหันมาแล้วเจอเรา เริ่มที่การคลายทุกข์ก่อน เมื่อคลายทุกข์ได้ ก็ช่วยเพิ่มความสุขให้เขาต่อไป” ความสุขในฐานะปลัด ของ พ.อ.อ.เนติภูมิ จงใจภักดี ปลัดอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีในวันนี้ จึงเป็นการได้ทำงานเพื่อแผ่นดินเกิด ร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงข้างประชาชนอันเป็นหน้าที่และความภาคภูมิใจของข้าราชการ   เรื่อง: ภัทศิรินทร์ กลิ่นจันทร์