10 ต.ค. 2564 | 22:36 น.
นิโคคาโด อะโวคาโด: อดีตวีแกนผู้ผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์สายฟาสต์ฟู้ดแบบสุดโต่ง จนคนดูเริ่มเป็นห่วงสุขภาพ
‘นิโคคาโด อะโวคาโด’ (Nikocado Avocado) คือยูทูบเบอร์ที่อัดคลิปวิดีโอการกินอาหารปริมาณมหาศาลต่อมื้อ เขามียอดผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านแอ็กเคานต์ เฉพาะช่อง Nikocado Avocado เพียงช่องเดียวก็ทำให้เขามีรายได้หลายหลักแสนต่อเดือน (ซึ่งยังไม่รวมช่องยูทูบอื่นของเขาอีก 4 ช่อง)
หากเรื่องราวมีเพียงเท่านี้ ก็คงจะเป็นความสำเร็จที่น่าอิจฉาไม่น้อย เพราะได้กินของอร่อยพร้อมทำรายได้มหาศาล แต่ความสุดโต่งของเขาที่นับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างการทำชาเลนจ์ให้น้ำหนักถึง 300 ปอนด์ (ประมาณ 136 กิโลกรัม) ไปจนถึงการอัดคลิปกินฟาสต์ฟู้ดแบบ extreme ทั้งที่เพิ่งบอกว่าไปหาหมอและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจขณะหลับ ทำให้ผู้ติดตามจำนวนมากเริ่มเป็นห่วงสุขภาพและกลัวว่าเขาจะถลำลึกไปไกลจน ‘กู่ไม่กลับ’
ยูทูบเบอร์ผู้หันหลังให้มังสวิรัติ
ชื่อจริง ๆ ของนิโคคาโด คือ ‘นิโคลัส เพอร์รี’ (Nicholas Perry) หรือ ‘นิค’ เขาเป็นชาวยูเครน-อเมริกันที่มีฝันอยากเป็นนักไวโอลินเลื่องชื่อ แต่ท่ามกลางการแข่งขันอันสูงลิ่วและรายได้ที่ไม่แน่นอน ทำให้นิคตัดสินใจวางฝันนั้นเอาไว้ในวัย 20 ต้น ๆ
จนกระทั่งปี 2014 นิคเริ่มเปิดช่องยูทูบของตัวเอง คลิปวิดีโอส่วนใหญ่มักจะเป็นชีวิตประจำวัน การทำและกินอาหารมังสวิรัตด้วยรอยยิ้มพร้อมน้ำเสียงฟังสบาย ไม่มีแม้วี่แววการสนใจอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หรือฟาสต์ฟู้ดเลยแม้แต่น้อย หากช่วงเวลานั้นผู้ติดตามในช่องยูทูบของเขายังไม่ได้มากพอจะสร้างรายได้มหาศาลอย่างในปัจจุบัน
แต่แล้วเมื่อปี 2016 เขาได้โพสต์วิดีโอเพื่อบอกกับผู้คนว่าจะเลิกเป็นมังสวิรัติ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์ ความไม่พอใจสังคมชาววีแกนที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยเป็นวีแกนมากได้ดีพอสักที รวมทั้งเรื่องสุขภาพที่นิคเคยให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของ Trisha Paytas ว่าเขาเริ่มฟันผุ ขาดวิตามินบี-12 และมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องโดยตรงกับมังสวิรัติหรือเปล่า แต่ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”
นิคเล่าถึงเหตุผลตอนที่เขาเลือกหันหลังให้กับผัก ผลไม้ แล้วมาอัดคลิปการกินทุกอย่างที่ไม่เฮลตี้ในปริมาณที่ค่อนข้างสุดโต่งแทน แต่คลิปรูปแบบใหม่นี้กลับทำให้มีผู้ชมหลักแสน ก่อนจะพุ่งไปจนถึงหลักล้าน ทำให้ปี 2017-2019 นิคเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะยูทูบเบอร์สาย Mukbang ชาวอเมริกันกลุ่มแรก ๆ โดย Mukbang เป็นคำที่ใช้เรียกการอัดคลิปโชว์กินอาหารปริมาณมากกว่ามื้อปกติซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีใต้
สู่ยูทูบเบอร์สายฟาสต์ฟู้ด
ความแตกต่างของนิคกับยูทูบเบอร์ที่ทำคลิปกินอาหารคนอื่น ๆ คือเขามีทั้งคลิปที่กินอย่างมีความสุข และคลิปวิดีโอที่ตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้นระหว่างการกิน หรือคร่ำครวญทำนองว่า ‘ไม่มีใครชอบเขา’ ‘ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว’ บางคลิปเขาตัดผมของตัวเองลงบนอาหาร หยิบไข่ดาวมาทาหน้าด้วยแววตาหม่นเศร้า ซึ่งช่วงแรก ๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นการแสดงและค่อนข้างไปได้สวย
จนกระทั่งปลายปี 2019 หลังจากอัดคลิปร่วมกับยูทูบเบอร์อย่าง Stephanie Soo และ Zach Choi ผ่านไปเพียง 4 วัน Stephanie Soo ได้เผยแพร่คลิป ‘เหตุผลที่ฉันกลัวนิโคคาโด อะโวคาโด’ (Why I Am Scared Of Nikocado Avocado) ลงในยูทูบ เธอเล่าถึงการคุกคามและพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเขาระหว่างการถ่ายทำ และกลายเป็นดราม่าโต้เถียงกันไปมาของทั้งคู่ ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดตามรวมทั้งการกดไลก์ช่องของนิคลดฮวบนับหมื่นคนต่อวัน
ไม่นานหลังจากนั้น นิคเริ่มอัดคลิปทำนองว่าตัวเองกำลังจะเลิกรากับแฟนหนุ่มและจะเลิกทำยูทูบอย่างถาวร (แต่สุดท้ายก็ยังทำต่อไปเหมือนเดิม) ทำให้หลายคนมองว่านี่อาจเป็นการสร้างคอนเทนต์คลิกเบต เพื่อเพิ่มยอดคนเข้าชมและผู้ติดตามที่หายไปให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเสียมากกว่า
ชื่อเสียงและยอดวิวที่แลกมาด้วยสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม คอมเมนต์เชิงลบหรือแม้แต่การแสดงความห่วงใยนั้นไม่มีทีท่าว่าจะสามารถหยุดความสุดโต่งของเขาได้ จนช่วงหลัง ๆ กลายเป็นคลิปที่คนดูเริ่มไม่สนุกและดูจะไม่ใช่คลิปชวนหิวสักเท่าไร
ครั้งหนึ่งนิคเคยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เขาทำคลิปเหล่านั้นว่า
“ฉันก็คิดว่า ‘เอาละ ทุกคนเกลียดฉันอยู่แล้ว’ หรือ ‘ฉันดราม่าอยู่แล้ว แค่หยิบกล้องขึ้นมาแล้วถ่ายเลย’
“พวกเขาชอบเวลาที่ฉันอารมณ์เสีย พวกเขาชอบเวลาที่ฉันร้องไห้ พวกเขาชอบเวลาที่ฉันดูไฮเปอร์” นิคยังเล่าเสริมว่าเขาตั้งใจจะทำคลิปแล้วเรียกวิดีโอพวกนั้นว่า ‘clickbaity’ อีกด้วย
แม้ปัจจุบันนิคจะมีชื่อเสียงและมียอดผู้ติดตามหลักล้าน แต่สุขภาพของเขากลับตรงกันข้าม เพราะนิคเริ่มตั้งเป้าหมายว่าจะกินจนกว่าน้ำหนักจะถึง 300 ปอนด์ ซึ่งปัจจุบันเขาหนักประมาณ 350 ปอนด์ (ประมาณ 158.7 กิโลกรัม) และในเดือนกันยายน 2021 เขาโพสต์คลิปที่เล่าว่าตนเองต้องไปโรงพยาบาล เพราะอาการบาดเจ็บซี่โครงข้างซ้ายจากการไอรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน รวมทั้งโรคหยุดหายใจขณะหลับ จนต้องสวมเครื่องช่วยหายใจตอนนอน
แต่นิคกลับอัดคลิปวิดีโอตามปกติ โดยวางเฟรนช์ฟรายส์กองโตและน้ำอัดลมหลายแก้วบนเตียงของเขา พร้อมตั้งชื่อคลิปว่า ‘My New Diet As A Disabled Person’ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นคือสุขภาพจิตของเขาที่หลายคนเริ่มรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่คลิปที่เป็นการแสดงหรือเรื่องตลกอีกต่อไป และนิคควรไปพบนักบำบัดโดยเร็ว
ปัจจุบัน นิคยังคงทำคลิปแบบเดิมออกมาทุกสัปดาห์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้เปิดบัญชี OnlyFans ที่เผยแพร่ภาพวาบหวิวของเขากับแฟนหนุ่ม รวมทั้งจำหน่ายเสื้อที่สกรีนข้อความ บ้างก็เป็นภาพใบหน้าของเขาเอง
ในแง่ตัวเลข นิคประสบความสำเร็จทั้งยอดผู้ติดตาม ผู้เข้าชม รวมทั้งรายได้จากการทำยูทูบ และเขาก็ (อาจจะ) มีความสุขกับสิ่งที่เขาทำอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังตั้งคำถามว่า ตัวเลขที่เขาได้มาทั้งหมดนั้นคุ้มค่ากับสุขภาพที่สูญเสียไปแล้วหรือไม่ และเริ่มไม่แน่ใจว่ารอยน้ำตากับความโกรธเกรี้ยวที่ปรากฏในบางคลิปหลัง ๆ นั้นเป็นเพียงการแสดงหรือมาจากความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเอง
ที่มา:
https://naibuzz.com/much-money-nikocado-avocado-makes-youtube-net-worth/
https://gb.youtubers.me/nikocado-avocado/youtube-estimated-earnings
https://youtube.fandom.com/wiki/Nikocado_Avocado
https://www.insider.com/who-is-youtube-star-nikocado-avocado-2020-1
