เพลง ‘She’ ในภาพยนตร์ ‘Notting Hill’ รักหนึ่งครั้งจดจำตลอดไป

เพลง ‘She’ ในภาพยนตร์ ‘Notting Hill’ รักหนึ่งครั้งจดจำตลอดไป
***มีการเปิดเผยเนื้อหาในภาพยนตร์   ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 1999 ท่ามกลางผู้คนที่ขวักไขว่ในย่านร้านค้าริมถนน ‘น็อตติ้งฮิลล์’ ยังมีร้านหนังสือท่องเที่ยวเล็ก ๆ ที่เปลี่ยวเหงาและมักร้างผู้คน ความว่างเปล่าของร้าน The Travel Book Co.  นั้นไม่ต่างอะไรกับชีวิตโสดสนิทเพราะถูกหญิงที่รักทิ้งไปแต่งงานใหม่ของ ‘วิล’ หรือ ‘วิลเลียม แท็กเกอร์’ (William Thacker) เจ้าของร้านเลย จนกระทั่งวันที่ ‘แอนนา สก็อตต์’ (Anna Scott) ดาราฮอลลีวูดเบอร์ต้นของวงการก้าวสองเท้าเข้ามาในร้านโดยบังเอิญ ความรักครั้งใหม่ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้จึงผลิบานในใจชายหนุ่มอีกครั้ง เหล่านี้คือเรื่องราวในช่วงต้นของภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ‘Notting Hill’ (1999) ที่หลายคนยกให้เป็นหนักรักอันดับหนึ่งในดวงใจ ผู้เขียนก็เป็นอีกคนที่ชื่นชอบในรสหวานนิด ขำหน่อย คลีเช่เล็กน้อย ทว่าลงตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่พอผนวกเข้ากับซาวนด์แทร็กดี ๆ อย่างเพลง ‘Ain’t No Sunshine’ ของ Bill Withers, ‘When You Say Nothing At All’ ของ Ronan Keating และ ‘She’ ของ Elvis Costello แล้วก็ยิ่งส่งให้หนัง ‘รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์’ ทวีความ ‘อิ่ม’ เข้าไปอีก โดยเฉพาะเพลง ‘She’ ที่เป็นเพลงเปิดตัวแอนนา สก็อตต์ ตอนก้าวลงจากรถในชุดราตรี ถูกห้อมล้อมด้วยกล้องนับสิบ สายตานับร้อย และยังเป็นเพลงปิดจบฉากสุดท้ายในภาพยนตร์ก่อนที่ end credit จะขึ้น - ผู้เขียนรู้สึกว่า เพลงนี้นี่แหละที่บรรจุความเป็นแอนนาในสายตาวิล และบรรจุความเป็น ‘Notting Hill’ ไว้อย่างเต็มเปี่ยม   / She may be the face I can’t forget The trace of pleasure or regret May be my treasure or the price I have to pay /   บรรจงแต่งโดย ชาร์ลส์ อัสนาวูร์ (Charles Aznavour) และคัฟเวอร์โดย เอลวิส คอสเทลโล (Elvis Costello) ท่ามกลางเพลง ‘She’ ที่ค่อย ๆ เฟดออกจากซีนแรกของหนัง สิ่งที่ยังกรุ่นอยู่หลังฉากนั้นผ่านพ้นคือรอยยิ้มของแอนนา เช่นเดียวกับท่อน ‘She may be the face I can’t forget’ วิลไม่ใช่ชายผู้ติดตามข่าวสังคม ไม่นิยมหนังสือพิมพ์หัว gossip ไม่ใช่ big fan ของแอนนาที่ต้องจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อดูหนังใหม่ของเธอทันทีที่มันเข้าฉายในโรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเห็นเธอในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นจอทีวี แผ่นป้ายบนถนน หรือรถโปรโมตภาพยนตร์คันโตที่วิ่งผ่านหน้าร้านหนังสือ วิลเลียมเห็นใบหน้าเธอผ่านตาเป็นพันครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่แอนนาจะสวยได้เท่าครั้งที่เธอมาอยู่ตรงหน้า - ครั้งที่เขาขายหนังสือท่องเที่ยวห่วย ๆ ให้เธอ ครั้งที่พ่อสุภาพบุรุษสุดเฉิ่มทำน้ำส้มหกใส่เสื้อของดาราสาว และเสนอให้เธอไปเปลี่ยนชุดในบ้านของเขาที่ห่างออกไปไม่กี่คูหา หรือครั้งที่เธอมองตรงเข้ามายังนัยน์ตาของเขา และมอบหนึ่งจูบประทับไว้แทนคำบอกลา หนึ่งจูบที่ชายผู้ไม่คุ้นชินกับรักทำอะไรไม่ได้มากกว่าพลั้งพูดออกมาว่า เหมือนฝัน แต่สวยงาม “surreal, but nice.” และเธอก็ยิ้มรับคำพูดนั้นของเขา เพลง ‘She’ ที่หายไปยังไม่ถึงคราวปล่อยคิวให้บรรเลงเล่นขึ้นมาอีก ในช่วงกลางของเรื่องราวหลังจากหนุ่มสาวคู่นี้เริ่มปลูกต้นรักระหว่างกัน แต่ก็เหมือนกับว่าผู้เขียนจะได้ยินเพลงดังกล่าวเคล้าคลอกับเรื่องราวของเขาและเธออยู่ตลอดเวลา ผ่านสายตาที่มองแอนนาของวิล ทั้งในครั้งที่เธอเป็น ‘the beauty’ ด้วยการทำให้เขาหัวใจเต็มตื้นด้วยความสุข และคราวที่เธอเป็น ‘the beast’ เพราะเธอทำให้เขาเศร้า และเขาเพิ่งได้รู้ความจริงที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังว่าเธอมีคู่รักอยู่แล้ว   / She may be the beauty or the beast May be the famine or the feast May turn each day into a Heaven or a Hell /   อย่างที่เราได้กล่าวไปตั้งแต่ต้น ‘Notting Hill’ เป็นหนังรอมคอม และปลายทางของหนังรอมคอมที่ดีคือฉากสุดท้ายที่ฝ่ายหนึ่งในรักโยนทุกอย่างทิ้งไปและเปลือยความรู้สึกตัวเองต่อหน้าอีกคน “ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ต่อหน้าชายอีกคน และอ้อนวอนให้เขารักเธอ” (I’m just a girl, standing in front of a boy, asking him to love her.) คือประโยคคลาสสิกของแอนนา ที่ยืนตรงหน้าและร้องขอความรักจากวิล หลังจากที่รู้ตัวว่าเธอได้ทำร้ายความรู้สึกเขาไปหลายครั้ง เพียงเพื่อจะได้รับคำปฏิเสธกลับมา “เราจะไม่ติดต่อกันอีก” วิลเลียมบอกแบบนั้น และแอนนาจากไป - ความรู้สึกสุดท้ายของเราหลังดู Notting Hill คงค้างอยู่กลางทางไม่น้อย ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่พาเราเข้าไคลแมกซ์ที่พระเอกและก๊วนเพื่อนต้องซิ่งฝ่าการจราจรบนถนน ไปให้ทันงานแถลงข่าวสุดท้ายของแอนนา ก่อนที่เธอจะลาเกาะอังกฤษกลับอเมริกา และอาจไม่ได้มาเยือนน็อตติ้งฮิลล์อีกเลย   / She maybe the reason I survive The why and wherefore I’m alive The one I’ll care for through the rough in many years /   ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 1999 เพลง ‘She’ ดังขึ้นในภาพยนตร์อีกครั้ง ยิ้มของแอนนายังสวยไม่สร่าง ม้านั่งตัวเก่าในสวนที่เขาและเธอเคยแอบเข้ามาเดินเล่น บัดนี้กลายเป็นม้านั่งของเรา ที่เขาใช้ตักของตัวเองต่างหมอนให้เธอหนุนนอน และมีพยานรักตัวน้อย ๆ หลายคนวิ่งซนอยู่รอบกาย ‘Notting Hill’ พาเราเดินทางมาจนสุดม้วนฟิล์ม ความรักของ ‘เธอ’ ที่เป็นดาวค้างฟ้า และเขาที่เป็นคนธรรมดา ได้ปิดม่านลงอย่างที่ภาพยนตร์รักชวนยิ้มควรจะเป็น แม้ว่า ‘ฮิวจ์ แกรนต์’ (Hugh Grant) ดารานำชายที่แสดงเป็นวิลเลียมจะเคยเอ่ยติดตลกไว้เมื่อปี 2020 ว่า “ผมอยากทำหนังให้พวกเขาเลิกกัน ผมอยากให้คนดูได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นหลังตอนจบ เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องโกหก ไอ้ ‘happy ending’ น่ะ ผมอยากเขียนให้ผมกับจูเลีย (จูเลีย โรเบิร์ตส์ นักแสดงที่รับบทแอนนา) หย่ากัน จ้างทนายแพง ๆ มาแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงลูก ร้องไห้จนน้ำตาท่วม เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ ผมอยากทำหนังแบบนั้นนะ” แน่นอนว่านั่นคงเป็นตอนจบแบบ alternative version ที่แฟนหนัง Notting Hill หลายคนไม่ปรารถนา แต่ไม่ว่าเราจะตีความหรือคาดเดาเรื่องราวหลังฉากสุดท้ายในภาพยนตร์ไว้แบบไหน สุขหรือเศร้า รักกันตลอดกาล หรือหย่าร้างเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง หากสิ่งที่ผู้เขียนแน่ใจได้คือภาพทรงจำของ ‘She’ ที่สวยงาม และเขา (สำหรับเวอร์ชันของฮิวจ์ แกรนต์ อาจต้องใช้คำว่า เคย) ยกให้เป็น ‘the meaning of my life’ จะอยู่ในใจเจ้าของร้านหนังสือในตรอกไปตลอดกาล