11 ก.ค. 2562 | 15:20 น.
ก่อนได้รับตำแหน่งคีย์แมนผู้อยู่เบื้องหลังรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับโลกอย่าง MotoGP น้อยคนที่จะรู้ว่า โอ๊ต-ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เคยใช้ชีวิตโชกโชนผาดโผนมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขับมอเตอร์ไซค์รอบอเมริกาคนเดียว จนรถเสียบนเส้นทางระหว่างเมืองสาย 66 หรือรูท 66 จนต้องลงมือซ่อมเองเพราะแทบไม่มีรถผ่านมาเลยสักคัน ประสบการณ์ที่ผ่านมาส่วนมีสำคัญให้คนรุ่นใหม่อย่างเขา ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลโครงการสนามแข่งรถระดับโลกมูลค่ามากกว่าพันล้านบาท ตั้งแต่ไอเดียเริ่มต้นไปจนจบโครงการ ทั้งที่ตอนนั้นเขายังมีอายุเพียง 20 กว่า และแทบไม่มีประสบการณ์ในวงการแข่งรถมาก่อน The People ชวนอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษกับบุรีรัมย์เลือดใหม่คนนี้ เพื่อหาว่าอะไรคือแรงผลักดันให้เขากล้าทำงานใหญ่ที่ผู้ใหญ่หลายคนยังมองว่าเป็นไปไม่ได้ The People : ทำไมคนรุ่นใหม่เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนบุรีรัมย์ ตนัยศิริ : หลาย ๆ คนมองว่าคนรุ่นใหม่ยังไม่เคยผ่านงานใหญ่ ๆ มาก่อน แต่ผมมองว่าคนรุ่นใหม่มีความกระหาย ตื่นเต้น สนุกกับการเรียนรู้ ได้เจอสิ่งใหม่ อยากสร้างผลงาน อะไรอย่างนี้ และยังเหลือเวลาในการทำงานอีกเยอะ เลยมีแรงขับที่จะทำอะไรอย่างนี้มากกว่า ผู้ใหญ่อาจจะผ่านอะไรมาเยอะจนเริ่มอิ่มตัว อีกอย่างการสร้างสนามแข่งรถสเกลนี้ในประเทศไทยยังไม่เคยมีใครเคยทำ แล้วจะเอาผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ตรงนี้มาจากที่ไหน ผมเลยมองว่ามันคือโอกาสที่จะให้คนรุ่นใหม่มาเริ่มต้นทำ พอดีกับได้รับโอกาสเข้ามาทำ ซึ่งโอกาสนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เราต้องคว้าและลองลุยทำมัน เริ่มต้นจากหาดีไซเนอร์ คือ แฮร์มัน ทิลเคอ (Herman Tilke) เขาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในด้านนี้มาช่วยออกแบบ ก่อสร้างสองปี เปิดมาเจ็ดปีแล้วเราก็พยายามจะแตกกิจกรรมต่าง ๆ โฟกัสว่าพื้นที่พันกว่าไร่นี้ให้มากกว่าแค่ใช้จัดมอเตอร์สปอร์ต อย่างเช่น งานกัญชา เรื่องวิ่งด้วย งานปั่นจักรยานเอามาจัดที่นี่ได้หมด The People : เริ่มจากการคิดใหญ่มาก่อนเลยไหม ตนัยศิริ : วันแรกที่เราคุยกัน มันเกิดจากไอเดียเล็ก ๆ ที่มีคนมาเสนอขายที่ประมาณยี่สิบไร่ในราคาถูก ประมาณไร่ละหนึ่งแสน ก่อนหน้าจะมีสนามนี้ที่ดินแถวนี้ราคาถูกมากครับ หลักแสนหมด ไร่ละสองสามแสน ตอนนี้ไปหลักสิบล้านหมด เนื่องจากพวกเราขี่มอเตอร์ไซค์กันบ่อยมาก อย่างคุณเนวิน (เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสร