สมาคมโรงพยาบาลเอกชน รณรงค์มอบภูมิคุ้มกันเป็นของขวัญวันแม่

สมาคมโรงพยาบาลเอกชน รณรงค์มอบภูมิคุ้มกันเป็นของขวัญวันแม่

สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมฉลองวันแม่ ด้วยโครงการ “วันแม่ปีนี้ ภูมิคุ้มกัน คือของขวัญที่ดีที่สุด” ลดผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระดมทีมแพทย์พยาบาลฉีดวัคซีนโมเดอร์นาครอบคลุมสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่สามารถลดความรุนแรงของอาการ ลดผลกระทบทางสุขภาพระยะยาว หรือ Long Covid และลดอัตราการเสียชีวิต

ปัจจุบันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศไทย เนื่องด้วยความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส อีกทั้งระดับภูมิคุ้มกันทั้งในกลุ่มคนที่เคยได้รับวัคซีนเข็มหลักที่มีการทิ้งช่วงมาเป็นระยะเวลานาน และภูมิของผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติมีระดับต่ำลง จึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้นและสามารถเกิดการติดเชื้อซ้ำได้อีก ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยโควิดในไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สมาคมโรงพยาบาลเอกชนสนับสนุนให้ทุกคนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด เนื่องจากการฉีดวัคซีนจะสามารถควบคุมการแพร่กระจายเชื้อและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลวิจัยแสดงให้เห็นแล้วว่า การใช้วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นสามารถเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สมาคมโรงพยาบาลเอกชน รณรงค์มอบภูมิคุ้มกันเป็นของขวัญวันแม่

นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยังน่ากังวล การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยใหม่นี้มีความรุนแรงและน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีความเสี่ยงสูง เพราะมากกว่า 90% ของจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยในกลุ่ม 608 (กลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว 7 โรคและกลุ่มหญิงมีครรภ์) และกว่า 80% คือผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จากผลวิจัยของศิริราชชี้ว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 แต่ในปัจจุบันประเทศไทยมีการฉีดไปเพียง 47.6% เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่มองว่าการได้รับวัคซีนแค่สองเข็มหลักก็เพียงพอแล้ว รวมถึงกลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน ทั้งนี้จากสถิติการฉีดวัคซีนที่มีการเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากนั้น คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และกลุ่ม 608 ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง และส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง

สมาชิกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้ร่วมกันจัดเตรียมทีมงานเพื่ออำนวยความสะดวกการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น  และการฉีดวัคซีนเข็มแรกสำหรับผู้สูงวัยที่ยังไม่เคยรับวัคซีน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงลดผลกระทบทางสุขภาพระยะยาว และที่สำคัญที่สุดคือวัคซีนสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ โดยสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา หรือจองเวลาล่วงหน้าที่จะพาคุณแม่และญาติผู้ใหญ่เดินทางมารับบริการเพื่อลดความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ

การฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อโควิด-19 ไว้ตั้งแต่ต้น ย่อมดีกว่าการมาหาแนวทางการรักษาหากเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในภายหลัง วันแม่ปีนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมกับ องค์การเภสัชกรรม จึงขอรณรงค์ให้มาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับโรคโควิด-19 ให้กับคุณแม่และคนทุกคนในครอบครัว นับว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในวันแม่ปีนี้