พฤฒิ เกิดชูชื่น “แดรี่โฮม” ยักษ์เล็ก ผู้บุกเบิกตลาดนมออร์แกนิก

พฤฒิ เกิดชูชื่น “แดรี่โฮม” ยักษ์เล็ก ผู้บุกเบิกตลาดนมออร์แกนิก
ทุกวันนี้แนวคิดรักสุขภาพผสานเป็นเนื้อเดียวกับวิถีชีวิตของหลายคนไปแล้ว แต่ถ้าย้อนไปเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน แล้วมีใครสักคนลุกขึ้นมาประกาศก้องว่าจะทำธุรกิจ “นมออร์แกนิก” ให้เติบโตในเมืองไทยให้ได้ คงโดนยิงคำถามใส่รัว ๆ ว่าท้ายสุดจะไปรอดหรือเปล่า แต่ พฤฒิ เกิดชูชื่น ก็ไม่สนใจเสียงบั่นทอน เขาเลือกจะเดินหน้าเพื่อทำฝันที่อยากจะมีฟาร์มโคนมที่ปราศจากสารเคมีให้เป็นจริง และเขาก็ทำได้ พร้อมกับพาแบรนด์ แดรี่โฮม นมและโยเกิร์ตออร์แกนิกที่เขาปลุกปั้นเข้าไปครองใจคนรักสุขภาพได้อยู่หมัด   ผูกพันฟาร์มโคนม พฤฒิเติบโตในค่ายทหารเพราะมีพ่อเป็นทหาร ส่วนแม่เป็นครู ความสุขในวัยเด็กของพฤฒิคือการได้เที่ยวเล่นในฟาร์มโคนมในอำเภอมวกเหล็ก สระบุรี กลายเป็นความผูกพันและเป็นแรงบันดาลใจว่าวันหนึ่งจะต้องเรียนสาขาที่เกี่ยวข้องให้ได้ พฤฒิเข้ามาเรียนชั้นมัธยมฯ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้นก็เรียนต่อด้านสัตวบาลที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะหาความรู้แค่ในห้องสี่เหลี่ยม เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีในรั้วมหาวิทยาลัย เขาชอบออกค่ายอาสาสมัคร บางปีไป 2-3 ค่ายเลยก็มี เมื่อก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน พฤฒิเลือกทำที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ที่สระบุรี อยู่แผนกผสมเทียมจนได้ขึ้นเป็นหัวหน้า ก่อนไปสร้างแผนกน้ำเชื้อ เมื่อฝึกสอนลูกน้องจนรู้งานพอทำได้คล่อง เขาก็ลาออกเพื่อไปหาความท้าทายอย่างอื่น หนึ่งในนั้นคือการไปทำงานที่ ซี.พี. ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหาร แต่ผ่านไปครึ่งปี พฤฒิก็ลาออกเพราะเบื่อกรุงเทพฯ และตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน   “แดรี่โฮม” นมออร์แกนิก ที่มวกเหล็ก พฤฒิเริ่มธุรกิจเล็ก ๆ เกี่ยวกับโคนม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ วันหนึ่งเขาเกิดความคิดเอากากเบียร์จากโรงเบียร์ในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาขายให้เกษตรกรที่เลี้ยงโคนม เพราะกากเบียร์สามารถเอามาทำเป็นอาหารสัตว์ได้ ช่วงแรก ๆ ยังไม่ค่อยมีใครรู้ประโยชน์ของกากเบียร์เท่าไหร่ พฤฒิจึงต้องใช้วิธีลดแลกแจกแถม จนมีเกษตรกรต้องการมากขึ้น รายได้เริ่มเข้ามาจนพฤฒิพอจะตั้งตัวได้ แต่เมื่อโรงเบียร์เห็นว่าขายกากเบียร์แล้วได้เงินดี จึงเอาไปบริหารจัดการเอง เมื่อธุรกิจขายกากเบียร์เริ่มสะดุด พฤฒิเลยต้องเข้าสู่โหมดทางเลือกทางรอด มองหาลู่ทางว่าจะทำอะไรต่อไป จังหวะนั้นเขาคิดถึงความเชี่ยวชาญที่มีติดตัวอย่างเรื่องนมและคิดถึงความฝันในวัยเด็ก กลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านขายนม ที่วางแนวคิดให้เป็นร้านขนาดเล็กแต่อบอุ่น มีที่นั่งเพียง 3 โต๊ะ ไว้เป็นจุดพักผ่อนหรือจุดนัดพบของผู้คนที่เดินทางไปมาแถวนั้น เขาขอซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรในช่วงแรกที่เปิดร้านเพียง 10 ลิตร กะว่าทำนมโฮมเมดตอนเช้า ขายตอนสาย ตกบ่าย ๆ เย็น ๆ ก็น่าจะหมด แต่ปรากฏว่าต่อมาขายดีเกินคาด จนพฤฒิต้องสร้างเป็นโรงงานเล็ก ๆ ไว้ผลิตนมที่เขาตั้งใจให้เป็นนมคุณภาพดีแบบไม่ใส่สารเคมีใด ๆ   สู้เพื่ออยู่รอด จุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้พฤฒิทุ่มเทกับการทำนมออร์แกนิกแบบสุดตัว เกิดขึ้นในราวปี 2545-2546 เมื่อไทยประกาศทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งมีผลทำให้นมจาก 2 ประเทศนี้เข้ามาตีตลาดเมืองไทยได้ง่ายขึ้นด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก พฤฒิเห็นว่าเกษตรกรรายเล็กอย่างเขาและคนอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงคงสู้ราคานมจากต่างประเทศไม่ได้ เพราะฉะนั้นทางเดียวที่พอจะทำได้คือเลือกสู้ด้วย “คุณภาพ” เขาจึงปรับรูปแบบธุรกิจด้วยการวางตำแหน่งของแดรี่โฮมให้มีภาพลักษณ์การเป็นนมออร์แกนิกที่ชัดเจนขึ้น สอดคล้องกับกระแสรักสุขภาพที่เริ่มมาทีละนิดในสังคมไทย โจทย์ที่พฤฒิต้องแก้ให้ได้คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจนมออร์แกนิกของเขาอยู่รอด ขณะเดียวกันเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายอื่นก็ต้องอยู่รอดด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองรักไปพร้อมกับการไปได้สวยในเชิงธุรกิจ แต่พฤฒิก็สู้ไม่ถอย พฤฒิพัฒนาฟาร์มออร์แกนิกของเขาอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงใด ๆ ให้วัวได้เดินเล่นอย่างอิสระ กินอาหารตามธรรมชาติ ทำให้วัวอารมณ์ดี ไม่เครียด ผลที่ตามมาคือทำให้ได้น้ำนมออร์แกนิกคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ อย่าง โอเมกา 3, โอเมกา 6 ที่มีมากกว่านมทั่วไป และพัฒนาคุณภาพโรงงานจนได้มาตรฐานการผลิตระดับสากล พฤฒิชักชวนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายอื่น ๆ หันมาทำฟาร์มโคนมออร์แกนิก แน่นอนว่าไม่มีเกษตรกรคนไหนตกปากรับคำทันที เพราะการเปลี่ยนรูปแบบการผลิตย่อมหมายถึงมีค่าเสียโอกาสจากการผลิตแบบเดิม และไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเปลี่ยนเป็นฟาร์มออร์แกนิกแล้วจะรุ่งหรือไม่ “ถ้าพูดกันตามตรง ตอนแรกผมก็พยายามจะบอกให้เกษตรกรนึกถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงิน แต่พูดแบบนี้มันก็คงไม่ได้นะครับ คนเรามันต้องกิน ต้องใช้ ชีวิตของเกษตรกรเขาก็ลำบาก เพราะฉะนั้นในช่วงแรก ๆ สิ่งที่เราพยายามบอกเขาคือ เชื่อเถอะ ทำแล้วมันจะดีขึ้น ซึ่งตอนแรก ก็เป็นธรรมดาที่เขาไม่เชื่อหรอกครับ อย่างเช่นฟาร์มแรกเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาไม่เชื่อหรอกเพราะมันยังไม่มีตัวอย่างด้วย แต่เราก็ต้องทำการรับประกันให้เขาเลยว่าถ้าคุณทำแล้ว แล้วได้กำไรน้อยกว่าเดิม ผมจะชดเชยส่วนที่ขาดให้” พฤฒิ ให้สัมภาษณ์กับเจาะใจออนไลน์ เขากระตุ้นให้เกษตรกรลองเปลี่ยน ซึ่ง 3 เดือนแรก เกษตรกรที่ยอมลุยด้วยกับโครงการของพฤฒิก็ต้องเผชิญช่วงยากลำบาก เพราะปริมาณนมลดลงถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลต่อรายได้ที่ลดลง ขณะที่รายจ่ายและหนี้สินยังอยู่ แต่เดือนถัด ๆ มา เมื่อวัวเริ่มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติได้ ก็ให้น้ำนมเพิ่มขึ้น แม้จะไม่เท่าเดิมเหมือนก่อนทำฟาร์มออร์แกนิกก็ตาม ส่วนเกษตรกรก็ค่อย ๆ ปรับตัวเชิงธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ และกลายเป็นว่ามีกำไรเยอะขึ้น เมื่อเกษตรกรรายอื่นเห็นว่าฟาร์มแรกประสบผลสำเร็จก็มาเข้าร่วมด้วย จนถึงตอนนี้แดรี่โฮมมีฟาร์มออร์แกนิกที่เป็นพันธมิตรส่งน้ำนมดิบมาให้แปรรูปแล้วหลายฟาร์ม จากระยะแรกที่จุดขายหลัก ๆ ของแดรี่โฮมอยู่ที่อาคารหลังใหญ่สีแดง รูปร่างหน้าตาคล้ายกับฟาร์มในต่างประเทศ ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ต่อมาเมื่อนมแดรี่โฮมเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมากขึ้น ก็เริ่มมีคนสนใจนำไปขายในร้านเพื่อสุขภาพ รวมถึงวางอยู่บนชั้นขายนมกระทบไหล่แบรนด์ใหญ่ทั้งหลายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำแทบจะทั่วประเทศ เหตุที่แดรี่โฮมขยายตัวได้มากขึ้น เพราะพฤฒิไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ เขาพาแดรี่โฮมไปจับมือทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์นมอย่าง “นมก่อนนอน” ที่มีสารเมลาโทนินจากธรรมชาติสูง ช่วยให้สมองผ่อนคลายและช่วยให้ร่างกายได้หลับพักผ่อนเต็มที่ “นมกราสเฟด” (Grass Fed-น้ำนมที่ได้จากวัวกินหญ้า) ที่มีปริมาณกรดไขมันชนิดซีแอลเอและโอเมก้า 3 สูงกว่าน้ำนมออร์แกนิกทั่วไป รวมถึง “นมฟันดี” ที่พัฒนาสูตรช่วยป้องกันฟันผุ แม้แดรี่โฮมจะเป็นยักษ์เล็ก แต่ด้วยความรักที่อยากผลิตนมออร์แกนิกให้ทุกคนได้ดื่ม กลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้พฤฒิไม่ยอมแพ้ และมาไกลกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้   อีกนิด... โคนมทั้งหมดในไทยมี 670,950 ตัว จำนวนนี้มีแม่โครีดนม 281,621 ตัว ได้ผลผลิตน้ำนมดิบ 1,332,180 ตัน อัตราการให้นมของแม่โค 12.96 กิโลกรัม/ตัว/วัน   ที่มา https://mixmagazine.in.th/view.php?ref=00000387 http://johjaionline.com/talk-lounge/สัมภาษณ์เจ้าของแดรี่โฮม-dairy-home-เขาใหญ่/ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/737442 http://www.komchadluek.net/news/knowledge/170241 http://www.dairyhome.co.th/th/ourfarm.php "สถานการณ์โคนมโลก&ไทย" ปี 2562 โดย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จาก http://dairydevelopmentprogram.weebly.com/blog-36153634361936603617362636403586/-2562)