Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์

Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์
ในสมัยโบราณกาล ณ หลายประเทศทั่วโลก สวนคือสถานที่สำหรับกษัตริย์ พระสันตะปาปา สุลต่าน ผู้นำด้านอุตสาหกรรม และมักใช้เป็นเครื่องแสดงถึงรสนิยมที่ดี อำนาจ รวมถึงยังเคยมีความเชื่อว่าสวนนั้นมีพลังเหนือธรรมชาติด้วย จนเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 จึงเริ่มมีการเปิดสวนแบบเสรีสำหรับชุมชน เปิดเพื่อให้ชื่นชมความงามของธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราบนดาวเคราะห์สีฟ้าเล็กๆ ดวงนี้ และเมื่อไม่นานมานี้ สวนก็ได้กลายเป็นสถานที่จัดงานยุคใหม่ ให้ผู้มาพบปะรวมตัวกัน จึงมีมูลนิธิของทั้งเอกชนและภาครัฐให้เงินทุนสนับสนุนการออกแบบตกแต่งสวนให้สวยสดงดงาม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่แบรนด์ที่มุ่งสู่อนาคตอย่าง Rado จะสร้างสายสัมพันธ์กับองค์กร Great Gardens of the World การเดินทางของ Rado กับ Grandi Giardini Italiani เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2017 และในปัจจุบัน กลุ่มองค์กรนี้ก็มีสถานที่และสถาบันอยู่ในหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีนักออกแบบด้านภูมิทัศน์ที่เก่งที่สุดของโลกรวมตัวอยู่ เรารู้สึกยินดีสำหรับการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์และวิสัยทัศน์ให้แก่โลก และรู้สึกขอบคุณองค์กร Great Gardens of the World สำหรับความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในการสร้างประสบการณ์ให้ผู้คน ทั้งในด้านจิตวิญญาณ องค์ประกอบต่างๆ และภาพที่งดงามสะกดทุกสายตา Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ เมื่อลองย้อนกลับไปมองถึงธรรมชาติของผืนป่า---ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ องค์ประกอบ พื้นผิวของต้นไม้ใบหญ้า รวมถึงสีสันอันน่าทึ่งของธรรมชาติเหล่านี้ ก็จะพบว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ มาอย่างยาวนาน แถมความยิ่งใหญ่และพลังแห่งธรรมชาติก็ยังกล่อมเกลาจิตใจของเราทุกคนมาได้โดยตลอด นอกจากนี้ธรรมชาติที่ทั้งทรงพลัง น่าเกรงขาม และน่าเคารพยังช่วยหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์ชั้นยอดของจิตรกร ประติมากร นักแต่งเพลง ชาวสวน และแน่นอนว่าช่างทำนาฬิกาด้วย ทุกคนล้วนได้รับพลังจากธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ ที่หล่อหลอมให้เราเป็นเรา และแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ การที่ Rado จับมือกับ Grandi Giardini Italiani มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2017 นั้น นับว่าเป็นโอกาสสุดพิเศษที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกากับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสวนได้นำความสนใจของตน ทั้งเรื่องงานออกแบบ ความงาม และธรรมชาติมาผสานเข้าด้วยกันจนได้สิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งคุณค่าของมุมมองจากสองฝั่งที่ต่างกันนี้ก่อให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ และพลังสร้างสรรค์สุดยิ่งใหญ่ที่ทั้งกว้างไกลและสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม ในตอนนั้น พลังงานดีๆ จากการทำงานร่วมกันครั้งแรกจุดประกายให้เกิดคอลเล็กชั่นใหม่ขึ้นมาในชื่อ Rado True Thinline Nature ซึ่งตลอดหลายปีหลังจากนั้นนาฬิการุ่นนี้ก็ได้เติบโต ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่เรากล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าถึงเวลาผลิบานออกดอกออกผลเต็มที่อีกครั้ง กับนาฬิกาสามรุ่นใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้การออกแบบอันยอดเยี่ยม ธรรมชาติเหนือกาลเวลา และวัสดุแห่งอนาคต ภายใต้ชื่อคอลเล็กชั่น Rado True x Great Gardens of the World ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความประณีตและความกลมกลืนของทุกส่วน สะกดสายตาตั้งแต่แรกเห็น มีใบโอ๊กส่งเสียงกระซิบแสดงพลังของธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีไม้หอมอย่างดอกมะลิดึงดูดเราเข้าสู่โลกแห่งเวลาใบใหม่ที่แสนมหัศจรรย์อีกด้วย Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ รุ่นแรกในคอลเล็กชั่นหรือ "Chapter 1" คือนาฬิกาเรือนงามที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ตัวเรือนและสายนาฬิกาทำจากเซรามิกสีเทอร์ควอยซ์ ซึ่งเป็นวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลาและให้ความรู้สึกที่หลากหลายในคราวเดียว ตัวเรือนสีสว่างที่หล่อขึ้นมาเป็นแบบชิ้นเดียว มีหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่เฉดสีเข้ากันอย่างลงตัว พร้อมการตกแต่งอย่างประณีตด้วยเทคนิคพิเศษอย่างการประดับเส้นเงิน และใช้เทคนิคที่เรียกว่าคลัวซองเน่ (Cloisonné) ในการรังสรรค์ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และดอกมะลิ ฝังตัวอยู่หลังเข็มนาฬิกาสีโรสโกลด์ เติมความละเอียดอ่อนให้ตัวบอกเวลาในแต่ละตำแหน่งด้วยเพชร Top Wesselton ที่อยู่ด้านหลังคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ตัวเรือนด้านหลังทำจากไทเทเนียม และมีคริสตัลแซฟไฟร์รมดำที่เปิดให้เห็นกลไกการของสุดยอดเทคโนโลยีอย่าง Rado คาลิเบอร์ R763 Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ นาฬิการุ่นที่สอง หรือ “Chapter 2” ให้ความรู้สึกลึกลับยิ่งขึ้น ราวกับเสียงดนตรีในป่ายามเย็น เหมือนคนพิเศษมาเยี่ยมเยียนยามค่ำคืน ตัวเรือนทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำ เข้ากันเป็นอย่างดีกับหน้าปัดเปลือกหอยมุก และดอกมะลิที่ช่วยเพิ่มความสดใส เข็มนาฬิกาเป็นสีโรสโกลด์ โดยมีเพชร Top Wesselton ประดับบนดัชนีบอกเวลา ราวกับส่องประกายแห่งความสุขให้ท้องฟ้ายามคํ่าคืน ส่วนด้านหลังเป็นไทเทเนียมเคลือบ PVD สีดำ พร้อมคริสตัลแซฟไฟร์รมดำสำหรับเจ้าของนาฬิกาที่มีความสนใจใคร่รู้และอยากสำรวจเบื้องลึกด้านใน ซึ่งใช้กลไก Rado คาลิเบอร์ R763 เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ที่มาพร้อมแฮร์สปริง NivachronTM ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก ทำให้บอกเวลาได้อย่างแม่นยำ Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ รุ่นสุดท้ายคือ "Chapter 3" รุ่นแห่งความลึกลับซับซ้อนในตนเอง ให้บรรยากาศหรูหราเหมือนอยู่ในตัวเมือง ได้เดินเล่นอย่างมีความสุขขณะไปร่วมรับประทานอาหารคํ่าอันอบอุ่น หรือได้อยู่ในสวนศักดิ์สิทธิ์กับคอนเสิร์ตฮอลล์ที่สวยงามตราตรึง นอกจากนี้ยังมีเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับยามบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามราตรี      บ่งบอกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า บริเวณหน้าปัดแกะสลักลายใบโอ๊คขึ้นอย่างประณีตบรรจง สะท้อนภาพธรรมชาติในชีวิตมนุษย์ ส่วนเข็มนาฬิกาที่ปัดผ่านตัวเรือนเซรามิกสุดเรียบเนียนจะมอบความสุขเหนือกาลเวลาให้ทุกคน ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เราเห็นถึงความสามารถของมนุษย์ทั้งเรื่องของนวัตกรรม สเน่ห์ และการปรับตัวได้ตลอดเวลา Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ Rado แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่งานดีไซน์อันเป็นนิรันดร์ Great Gardens of the World คือเครื่องยืนยันถึงพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และสัญชาตญาณ    การเอาตัวรอดตลอดหลายชั่วอายุคนที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่มนุษย์ถูกท้าทาย แต่ด้วยสองมือที่มีก็ยังแก้ไขได้อย่างราบรื่นด้วยความเอาใจใส่และความกล้าหาญ และมือคู่เดียวกันนี้เองที่ขึ้นรูป และแกะสลักชิ้นส่วนเล็กๆ อย่างเชี่ยวชาญจนเกิดเป็นนาฬิกาอันวิจิตรงดงาม และสวนสวยตระการตาที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นต่อไป