15 ก.ค. 2562 | 13:14 น.
“ไอ้ห่_นั่นแม่งโคตรเนื้อร้าย สมควรถูกกำจัด หลีกเลี่ยง ชนิดที่ไม่ควรมีใครอยู่ข้าง ๆ หรือซัพพอร์ตมันเลยด้วยซ้ำ”
นี่คือคำพูดที่ แอ็กเซิล โรส (Axl Rose) นักร้องนำจอมระห่ำจากคณะปืนและกุหลาบ Guns N’ Roses ใช้ก่นด่าสาดเสียเทเสียใส่อดีตเพื่อนร่วมวงที่เคยรักกันปานจะกลืนอย่าง สแลช (Slash) มือกีตาร์คู่ใจ เจ้าของริฟฟ์เทพ ๆ มากมายที่เป็นลูกส่งลูกรับให้พี่ แอ็กเซิล แกแหกปากใส่ไมค์อย่างถึงใจแฟนคลับอยู่นานปี
แต่วันดีคืนดีทั้งคู่ก็มีอันแตกคอกันอย่างยากจะกลับมาจับมือถือไมค์ สไลด์กีตาร์ร่วมกันได้ แถมพี่แอ็กเซิลยังเคยสาปส่งสแลช เจ้าของฉายามือกีตาร์หัวฟูว่าเป็น “มะเร็งเนื้อร้าย” ขนาดนี้ เป็นใครใครก็คงคิดว่า อนาคตของ Guns N’ Roses ก็น่าจะจบที่ยุบวง หรือไม่ก็เหลือเพียงลุงแอ็กเซิล ที่ขึ้นเวทีกับ Guns N’ Roses พร้อมกับไลน์อัพใหม่ที่ไร้แววพี่ฟูและเพื่อน ๆ ที่เคยร็อคมาด้วยกันในยุครุ่งเรือง
แน่นอนว่าถ้าย้อนกลับไป 3 – 4 ปีก่อนหน้า ด้วยความระหองระแหงของสองร็อคสตาร์ข้างต้น ก็คงไม่มีแฟนคลับหน้าไหนกล้าคิดฝันถึงการ reunion ของวงร็อครุ่นเก๋าวงนี้ เพราะเมื่อถามทีไร สมาชิกในวงก็เอาแต่ส่ายผมยาว ๆ กันดุกดิก พร้อมกับบอกว่า “ไม่เกิดในชาตินี้หรอกเพื่อนเอ๋ย” กันทุกคน
[caption id="attachment_10011" align="aligncenter" width="946"] แอ็กเซิล โรส และ สแลช[/caption]แต่ใครจะรู้ว่าไอ้วลี ไม่เกิดขึ้นในชาตินี้ นี่แหละ ที่กลายมาเป็นคอนเสิร์ต reunion ครั้งใหญ่ที่รวมสามสมาชิกดั้งเดิมอย่าง แอ็กเซิล โรส (ร้องนำ), สแลช (มือกีตาร์) และ ดัฟฟ์ แมกคาแกน (Duff McKagan) มือเบส ภายใต้ทัวร์รอบโลกครั้งใหม่ที่มีความหมายแซะวลีในอดีตที่ว่าอย่าง “Not in This Lifetime..Tour” (หรือ ไม่ใช่ชาตินี้หรอกเพื่อนเอ๋ย ทัวร์) ในปี 2016 พร้อมด้วยกระแสข่าวลือหนาหูอย่าง “มันมารวมตัวกันเพราะตังค์มันหมดกระเป๋าแล้วไงล่ะ”
ย้อนกลับไปในวัยละอ่อน Guns N’ Roses เป็นวงร็อคสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1985 โดยสองเพื่อนซี้ แอ็กเซิล โรส และ อิซซี สแตรดลิน (Izzy Stradlin) ที่ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างวงด้วยกันมาพร้อมกับการสลับสับเปลี่ยนสมาชิกหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม สมาชิกที่ถือเป็นไลน์อัพคลาสสิกของวงนี้ได้แก่ แอ็กเซิล โรส ร้องนำและเปียโน, สแลช และ อิซซี สแตรดลิน มือกีตาร์, ดัฟ แมกคาแกน (Duff McKagan) มือเบส และ สตีเวน แอดเลอร์ (Steven Adler) มือกลอง รวมเป็น 5 ชีวิต ที่ช่วยกันหวดเครื่องดนตรีหนักหน่วงตามแบบฉบับวงฮาร์ดร็อค รับกับเสียงร้องแหลมที่แผดสูงได้สะใจของแอ็กเซิลที่พาวงทะยานขึ้นฟ้าราวกับพลุไฟ
[caption id="attachment_10012" align="aligncenter" width="902"] Guns N’ Roses[/caption]พวกเขามีภาพลักษณ์ดุดัน รุนแรง ตั้งแต่แนวเพลงไปจนถึงเสื้อผ้าหน้าผมที่ออกไปทางหนุ่มผมยาวแต่งตัวรุงรัง คาบบุหรี่ไว้ที่ปากตลอดเวลา พฤติกรรมสุดห่ามของคณะปืนลายกุหลาบที่เรียกได้ว่าถอดแบบความห่ามจากบนเวทีมาแบบ 100% ตั้งแต่ สุรา ยาเสพติด หรือการแกว่งปากแกว่งเท้าไปชวนตีชาวบ้าน ยกตัวอย่างเช่นวีรกรรมเอาขวดไวน์ฟาดหัวเพื่อนบ้านจนกลายเป็นเพลงอย่าง 'Right Next Door to Hell' (ที่นักร้องนำสุดห่ามของเราก็ออกมาปฏิเสธภายหลังว่า กูไม่ได้ทำโว้ย!) ทำให้พวกเขาได้รับฉายา “วงร็อคที่อันตรายที่สุดในโลก” จากนิตยสารหัวดังอย่าง Rolling Stone ไปได้อย่างไม่น่าแปลกใจอะไร
Guns N’ Roses กลายเป็นวงแห่งการทำลายล้างที่มีผลงานโด่งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘Welcome To The Jungle’, ‘Paradise City’ และ ‘Sweet Child O’ Mine’ จากอัลบั้มขึ้นหิ้งอย่าง Appetite For Destruction (1987) เพลง ‘Don’t Cry’ และ ‘November Rain’ จากอัลบั้ม Use Your Illusion I (1991) ไปจนถึงเพลง ‘Since I Don’t Have You’ จากอัลบั้ม The Spaghetti Incident (1993) ซึ่งอัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่เราจะได้เห็นสมาชิกหน้าเก่าอยู่ร่วมกันแบบครบ ๆ ก่อนที่วงจะหายหน้าหายตาไปจากการทำอัลบั้มหลายปี เพื่อนพ้องก็ทยอยออกจากวงไปทีละคนสองคน ปิดฉาก Guns N’ Roses ไลน์อัพแรกด้วยการที่สแลชออกจากวงอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1996
ความระส่ำระสายภายในวงนั้นเรียกได้ว่ามากขึ้นตามเวลา ชนิดที่ว่ายิ่งพวกเขาดังขึ้นเท่าไหร่ ความสนิทสนมกลมเกลียวระหว่างเพื่อนก็ดูจะน้อยลงเท่านั้น โดยหนุ่ม สแลช ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแฉ ไอ้เพื่อนเก่าอย่างแอ็กเซิลอยู่บ่อยครั้ง สรุปรวมเป็นเหตุผลใหญ่ ๆ ของการออกจากวงไว้ 3 ข้อหลักว่า
เมื่อสามสิ่งข้างต้นประกอบกัน ยังไม่นับการที่แอ็กเซิลเองอยากจะให้ภาพลักษณ์ใหม่ของวงมีความเป็นอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งนั่นก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้สแลชโบกมือบ๊ายบาย ทิ้งให้แอ็กเซิลกอดชื่อ Guns N’ Roses ไว้แนบอก และเอาไปยำรวมมิตรตามใจจนออกมาเป็นอัลบั้ม Chinese Democracy (2008) สำหรับอัลบั้มนี้ ด้วยลวดลายที่เปลี่ยนไปจากการสาดความดุดันตามประสา Guns N’ Roses ที่เราคุ้นหู ก็ทำให้นักฟังโดยเฉพาะแฟนคลับเองพากันเบ้หน้าหนี พร้อมกับถามว่า “นี่มัน Guns N’ Roses เหรอวะ”
“แน่นอนว่าไม่ผมก็มัน เราสักคนคงจะตายก่อนจะได้ reunion ช่างน่าเศร้าและโชคร้ายในสายตาพวกคุณใช่ไหมล่ะ” นี่คือคำที่แอ็กเซิลเคยตัดพ้อถึงสแลชแบบแฝงความเด็ดขาดไว้ เมื่อปี 2009
[caption id="attachment_10010" align="aligncenter" width="683"] แอ็กเซิล โรส[/caption]แม้หลังบ้านของคณะปืนลายกุหลาบจะมีการแก่งแย่งชิงดีแบบละครไทยอยู่บ้าง แต่ด้านคุณภาพแล้ว Guns N’ Roses ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงร็อคที่มีส่วนขับเคลื่อนวงการ และเป็นวงที่ยืดระยะเวลาให้โค้งสุดท้ายของยุคเมทัล ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคกรันจ์ โดย Guns N’ Roses ได้ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเพื่อบรรจุชื่อลงใน Rock and Roll Hall Of Fame ซึ่งตาแอ็กเซิลเจ้าเก่าก็ออกมาอาละวาด เกรี้ยวกราดตามประสาว่า “กูไม่ต้องการรางวัลนั่น และ Guns N’ Roses ก็ไม่ต้องการมันเว้ย !” โดยไม่ถามเพื่อนเก่าสักคำ (อีกแล้ว)
หากเรื่องราวของวง Guns N’ Roses เป็นหนังสักเรื่อง ก็คงกล่าวสรุปสวย ๆ ได้ว่าหนังเรื่องนี้จบลงอย่าง Happy Ending เพราะจากที่ร้าย ๆ ใส่กันมาตลอด กลับกลายเป็นหักมุมซะนี่ และคนที่ยอมอ่อนข้อให้ก่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตัวร้ายตลอดบทความของเราอย่างตาแอ็กเซิลนี่แหละ ที่ลงทุนโทรศัพท์ไปง้อสแลชในขณะที่มือกีตาร์หัวฟูกำลังมีทัวร์อยู่กับวงใหม่
“เขาโทรมา เรานัดเจอกัน แล้วหลังจากนั้นเราก็กลับมาเล่นด้วยกัน มันคือช่วงเวลาที่เยี่ยมยอด” สแลชกล่าว พร้อมกับเสริมว่าความบาดหมางในอดีตได้จบลงแล้ว เขาทั้งคู่คือเพื่อนกัน และการได้เล่นดนตรีกับแอ็กเซิลและสตีเวนอีกครั้งคือสิ่งวิเศษ
[caption id="attachment_10013" align="aligncenter" width="672"] สแลช[/caption]ส่วนสำหรับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่สื่อหลายสำนักต่างตั้งข้อสงสัย ริชาร์ด ฟอร์ตัส (Richard Fortus) มือกีตาร์ที่เข้ามาร่วมวง Guns N’ Roses ตั้งแต่ปี 2002 เล่าว่า “ถ้าถามว่าเงินเป็นแรงจูงใจให้คนอย่างแอ็กเซิลคิดเรื่อง reunion ไหม ผมบอกเลยว่าไม่ ถ้ามันเป็นเพราะเหตุผลนั้น ผมว่าการ reunion มันน่าจะเกิดขึ้นนานแล้วล่ะ”
เคลียร์ใจกันไปขนาดนี้ ก็พอที่จะทำให้เหล่าสาวกวางใจได้ ว่าการรวมตัวกันใหม่ครั้งนี้จะอยู่นาน ไม่ต้องบ้านแตกสาแหรกขาดไปคนละทิศละทางอีก ความตื่นเต้นก็คือเมื่อปลายปี 2018 พี่มือกีตาร์ สแลช ของเราก็ได้แง้ม ๆ ว่าแอ็กเซิลได้เตรียมเพลงใหม่ ๆ ไว้เพียบ หลังจากนี้ก็เป็นช่วงรอลุ้นแล้วว่าเพลงที่ (ดูเหมือนว่า) จะปล่อยมา จะยังคงความแสบซ่าตามประสาปืนลายกุหลาบไว้ได้สักแค่ไหน
ที่มา :
https://uproxx.com/music/the-story-behind-axl-rose-and-slash-not-speaking-to-each-other-since-1996/
https://www.loudersound.com/features/six-pack-slash-on-drugs-dying-and-axl-rose
https://www.newyorker.com/culture/culture-desk/axl-rose-he-dont-need-no-hall-of-fame
https://headbangkok.com/axl-rose-is-working-on-a-ton-of-new-guns-n-roses-tracks/
เรื่อง : จิรภิญญา สมเทพ (The People Junior)