29 ก.ค. 2562 | 14:03 น.
หลังสร้างปรากฎการณ์ความฮอตที่ขายหมดเกลี้ยงภายใน 1 วัน และฝากการแสดงสดสุดมันส์ไว้ในใจของแฟนเพลงชาวไทย ปีนี้สามหนุ่ม วง LANY กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งพร้อมกับเวิลด์ทัวร์ภายใต้ชื่อ “Malibu Nights World Tour” แต่ก่อนที่เราจะไปพบกับความมันของพวกเขา วันนี้เราได้มีโอกาสนั่งคุยกับสามหนุ่ม พอล ไคลน์ (Paul Klein), เจค กอส (Jake Goss) และ เลส พรีสต์ (Les Priest) สั้น ๆ ถึงหลายประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นพวกเขาชอบสาวไทยไหม รวมไปถึงอะไรคือสิ่งที่พวกเขาประทับใจบ้านเรา
The People: คุณเคยมีคอนเสิร์ตที่ไทยหลายครั้งแล้ว อะไรทำให้คุณอยากกลับมาอีก
พอล: เราเล่นคอนเสิร์ตกันเยอะมาก แบบเยอะมาก ๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และปีนี้ก็ยังคงเยอะอยู่ เราให้ความสำคัญกับการเล่นดนตรีของเราให้กับคนดูทั่วโลก เราพยายามแสดงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันยอดเยี่ยมมากที่ได้กลับมาอีกรอบเร็วขนาดนี้ เพราะเหมือนบัตรจะ sold out เร็วมาก เราอยากมาอีกหลาย ๆ ครั้งเลยล่ะ
เจ็ค : เราอยากให้โชว์ของเรามีแรงกระตุ้นมากขึ้นในทุก ๆ ครั้ง
The People: อะไรที่คุณสิ่งที่คุณประทับใจเกี่ยวกับกรุงเทพฯ
พอล: แบบสองครั้งที่ผ่านมาที่มากรุงเทพฯ ผมก็ไปโรงพยาบาลทั้งสองรอบเลย
The People: เกิดอะไรขึ้น?
พอล: ก็แค่อยู่ ๆ ก็ไข้ขึ้น เลยต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรับยานิดหน่อยอะไรประมาณนั้น ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นขนาดว่าช็อคเลยนะที่กรุงเทพฯ เนี่ย แต่ยังไงก็แล้วแต่อาหารที่นี่คืออร่อยมาก แล้วผู้คนก็น่ารัก อัธยาศัยดีมาก
The People: ผู้หญิงไทยขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก แล้วคุณว่าผู้หญิงไทยเป็นอย่างไร พวกคุณชอบไหม?
พอล: เราไม่ค่อยได้ไปไหนมาก เหมือนแค่จากสนามบินมาโรงแรม แล้วก็ไปร้านกาแฟนิดหน่อย ผมเลยไม่ค่อยรู้อะไรเยอะเกี่ยวกับสาวไทยมาก เพราะผมไม่ค่อยได้เจอใครมาก เจอก็แต่พวกคุณ (แฟนเพลง) นี่แหละ
เลส: ใช่ และพวกเขาก็สุดยอดเยี่ยมมาก (สวย)
The People: คุณคิดว่าเมืองไหนที่คุณแสดงได้ดีเยี่ยมมากที่สุด
พอล: นี่เป็นคำถามที่ยากมากสำหรับเรา พูดยากมาก จริง ๆ มีหลายโชว์ที่ดีมาก
เลส: โอ้ มีครั้งหนึ่งผมว่าที่กัวลาลัมเปอร์ก็ยอดเยี่ยมนะ
พอล: สำหรับผม ผมว่าเราทำได้ดีขึ้นทุกครั้งที่ได้ขึ้นแสดงแหละ มันเจ๋งมาที่ได้ขึ้นเล่น ไม่แน่คืนนี้อาจจะเป็นแสดงที่ดีที่สุดก็ได้
The People: พวกคุณนิยาม “LANY” ในแบบไหน
พอล: สำหรับผมแล้ว มันคือความจริงใจ
เจ็ค: มั่นคง
เลส: มีเอกลักษณ์
The People: แล้วอะไรที่คุณคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ของวง
เลส: ผมคิดว่าวิธีที่เราทำเพลงแตกต่างจากที่คุณเคยได้ยินในวิทยุหรือที่อื่นน่ะ เราแค่ทำให้มีทางเลือกที่มากกว่า ผมว่าเรามีซาวนด์ที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากคนอื่น
The People: อะไรที่มักจะเป็นคอนเซปต์และแรงบันดาลใจในอัลบัมของคุณ
พอล: ก็ส่วนใหญ่มันมักจะเป็น.. ช่วงขาขึ้นขาลงของชีวิต ความรัก ความสัมพันธ์ ความผิดหวังอะไรประมาณนั้น มันคือการเป็นคนเนี่ยแหละ นั่นแหละคือคอนเซปต์ของเราและมันจะยังคงเป็นคอนเซปต์นี้ตลอดไป
The People: สำหรับคนสร้างเอง คุณคิดว่าเพลงพวกคุณเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาไหม
พอล: แน่นอนมันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแหละ แต่ในระหว่างนั้นผมว่าพวกเราคำนึงถึงสิ่งที่ต้องการจะทำจริง ๆ เสมอ พวกเรานับถือวงอย่าง Coldplay และ U2 อย่างมาก พวกเขาทำสิ่งนี้ (ดนตรี) มานานและพยายามจะหาทางที่ทำให้ดีขึ้นและพิสูจน์ตัวเองให้ได้เสมอ พวกเราอยากเป็นแบบนั้นนะ ดังนั้นผมหวังว่าเพลงของเราในอนาคตจะยังคงเหมือนกับเพลงช่วงแรก ๆ ตอนที่เราเริ่มต้นกัน
The People: ในฐานะนักดนตรีรุ่นใหม่ คุณว่าการฟังเพลงแบบ สตรีมมิ่ง จะทำลายอุตสาหกรรมดนตรีไหม
พอล: ไม่นะ ผมว่าสตรีมมิ่งมันทำให้วงการดีขึ้นด้วยซ้ำ ในมุมหนึ่งมันอาจทำลายบางสิ่งไป แต่ที่สำคัญมันทำให้เราได้เจอแฟนเพลงง่ายขึ้นและนั่นทำให้พวกเราได้มาที่กรุงเทพฯ นี่ไง
ผมว่ามันดีออกที่ การสตรีมมิ่งสร้างโอกาสให้คนทำเพลงแล้วเอามาลง Spotify ได้ง่ายขึ้น จริง ๆ ทุกวันนี้การขายเพลงมันทำได้ง่ายมาก แบบเราทำเพลงเลยตอนนี้ ตั้งชื่อวงและก็เอาลง Spotify ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และมันหมายความว่าคนทำกันเกลื่อนในการตลาดแบบนี้ แต่มันก็ยังโอเค ผมว่าเพลงที่ดีคือเพลงที่อยู่ระดับท็อป และผมว่าคนฟังเพลงรู้ว่าอะไรดี คนเราตัดสินกันเก่งจะตายว่าเพลงแบบไหนที่ดีและจริงใจ
The People: อะไรที่คุณประทับใจเกี่ยวกับแฟน ๆ ของพวกคุณ
เลส: น่าจะเป็นความน่าตื่นตาตื่นใจไงล่ะ
พอล: แฟนที่ดีที่สุดคือแฟนที่ตามเราไปทุกเมือง ท่องเที่ยวพร้อมกันไปกับเรา มันน่าตื่นเต้นมากเลยนะ และแฟนแบบนั้นก็เพิ่มมากขึ้นทุกวันและมันยอดเยี่ยมจริง ๆ
The People: พวกคุณทั้งสามประทับใจในกันและกันอย่างไร
พอล: ก็แบบเราทั้งหมดเข้ากันได้ดีเลย แค่ผู้ชาย ๆ ร้องเพลงกันไป ไม่มีดราม่าและสนุกไปด้วยกัน
เลส: ผมก็รู้สึกแบบเดียวกันเลย
เจ็ค: ผมก็เหมือนกัน พวกเราก็แค่รักกันน่ะ