10 ต.ค. 2562 | 18:45 น.
แม้ฟอร์มของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลชื่อดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะอยู่ในช่วงขาลงสุด ๆ ภายใต้การทำทีมของตำนานอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ระยะหลัง ๆ ทำทีมจนแฟนบอลต้องเบือนหน้าหนี มิหนำซ้ำสนามเหย้าของพวกเขาอย่างโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่อดีตเคยเป็นเหมือนกับนรกบนดินของคู่แข่ง ทุกวันนี้ก็สิ้นลายหมดความขลังจนถูกล้อเลียนว่าเป็น “รีสอร์ท แอนด์ สปา” ไปเสียแล้ว
ความน่ายินดีอย่างเดียวของทีมในรอบปีที่ผ่านมา คงจะเป็นเรื่องของรางวัลแชมป์ “หญ้าสวย” ประจำปี ที่แฟนบอลดูจะไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่นัก ซึ่งแม้ฟอร์มในสนามจะไม่ค่อยดี แต่เรื่องของการดูแลแขกบ้านแขกเรือนของทีมไม่เคยเป็นสองรองใครในเกาะอังกฤษ เพราะล่าสุด ยูไนเต็ด ได้ยกครัวเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่สนามใหม่ทั้งหมด และว่าจ้างให้เชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังอย่าง ทอม เคอร์ริดจ์ (Tom Kerridge) เข้ามาดูแลทั้งหมดแทน เรียกได้ว่าผู้บริหารยูไนเต็ดเล็งเห็นถึงปัญหาหลักของทีม และเดินหน้าพัฒนาโอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้เป็นรีสอร์ท แอนด์ สปา ห้าดาวภายใต้คอนเซ็ปต์ "สนามหญ้าสวย ที่มีอาหารดี ๆ รอบริการท่านอยู่!"...เอิ่มม
คอลเล็ตต์รอชกรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการของทีมให้สัมภาษณ์ว่าเธอเชื่อว่าการมาของเคอร์ริดจ์จะสามารถเข้ามาเปลี่ยนสโมสรได้
“เราตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะมีทอมมาร่วมกับเรา เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในวันแข่งสำหรับผู้สนับสนุนของเรา ทั้งแฟนบอลทั่วไปและคนที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษ ทอมเป็นแฟนตัวยงของยูไนเต็ด และมีความสุขที่จะมอบอาหารสุดพิเศษให้กับผู้คนที่มาเยือนสนามของเรา ซึ่งมันสำคัญกับเรามากจริง ๆ เรารู้ว่าทอมเป็นที่ต้องการมากแค่ไหน และเชื่อว่ารางวัลด้านอาหารต่าง ๆ ที่เขาเคยได้รับมาจะเปลี่ยนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปอย่างมากเลยทีเดียว”
[caption id="attachment_12887" align="aligncenter" width="1080"] เคอร์ริดจ์ และทีมงานผู้เนรมิตโอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งใหม่[/caption]หน้าที่หลัก ๆ ของ เคอร์ริดจ์ คือเข้ามาดูแลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มในวันที่ยูไนเต็ดมีการแข่งขัน โดยเฉพาะคนที่ซื้อแพ็คเกจพิเศษของสโมสร อย่าง “No.7 at Old Trafford” ก็จะได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารจากฝีมือของเคอร์ริดจ์แบบสดใหม่ นอกจากนี้เขายังหอบเมนูพายสูตรสุดพิเศษของเขามาเตรียมเสิร์ฟให้แฟนบอลตามตู้กดรอบสนามอีกด้วย โดยเคอร์ริดจ์จะเริ่มงานกับทีมอย่างเป็นทางการในเกมที่ทีมจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้
เรื่องราวการมาเปลี่ยนแปลง (อาหาร) ของเคอร์ริดจ์ ทำให้แฟนบอลหลายคนเป็นกังวลว่า เขาจะนำเมนูยอดฮิตของสนามอย่าง “แซนด์วิชกุ้ง” ออกไปจากโปรแกรมด้วยหรือไม่ซึ่งคงต้องรอดูว่าเชฟคนดังจะเปลี่ยนแปลงเมนูระดับตำนานของทีมไปในทิศทางไหน
[caption id="attachment_12890" align="aligncenter" width="1080"] ทอม เคอร์ริดจ์[/caption]แฟนบอลยูไนเต็ดหลายคนยังจดจำเรื่องราวของ “แซนด์วิชกุ้ง” ในตำนานได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2000 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ดินาโม เคียฟ แม้สุดท้ายจบเกมทีมปีศาจแดงจะสามารถเอาชนะทีมดังจากยูเครนไปได้ แต่ รอย คีน ในฐานะกัปตันของทีม ก็เกิดอาการไม่สบอารมณ์แฟนบอลของตัวเอง ที่ตลอดทั้งเกมดูจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมและสนับสนุนทีมเท่าที่ควร หลังเกม คีน ได้จัดหนักใส่แฟนบอลทำนองว่า บางคนสนใจมาหาอะไรกินที่สนามมากกว่าจะสนใจเกมซะอีก
“ตอนนั้นเรานำอยู่ 1-0 แต่กลับไม่มีเสียงเชียร์จากแฟนบอลเราเลย ผมว่านักเตะควรได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลมากกว่านี้ แฟนบอลที่ตามไปดูเราแข่งเป็นกลุ่มคนที่น่าทึ่งเสมอ ผมมักจะเรียกพวกเขาว่าเป็นพวกแฟนบอลเดนตาย แต่พอกลับมาเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาก็จะดื่มกัน บางทีก็กินแซนด์วิชกุ้ง จนไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามเลย ผมไม่รู้ว่าบางคนที่มาโอลด์ แทรฟฟอร์ด จะสามารถสะกดคำว่าฟุตบอล หรือเข้าใจความหมายของมันได้”
[caption id="attachment_12894" align="aligncenter" width="275"] ของดีขึ้นชื่อย่านโอลด์ แทรฟฟอร์ด[/caption]กลับมาพูดถึงเรื่องของ เคอร์ริดจ์ สักหน่อย เขาเกิดที่กลอเซสเตอร์เชียร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ในวัยเด็ก เคอร์ริดจ์ เริ่มต้นฝึกทำอาหารด้วยตัวเองที่บ้าน โดยอาศัยช่วงที่แม่ของเขาไปทำงาน และพออายุได้ 18 ปี เขาก็ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือทำอาหารของมาร์โก ปีแอร์ ไวต์ ที่มีชื่อว่า “White Heat” และผลักดันตัวเองให้เข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทำอาหารที่เชลต์นัม
“ผมมาจากเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งบริเวณนั้นปลาถือเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย และมีคุณภาพด้วย อีกทั้งชีส เนย นม หรือครีม ก็เป็นอะไรที่มีครบจนให้คุณได้สามารถทดลองทำอะไรได้ ผมโชคดีที่เกิดมาในย่านนั้น”
เคอร์ริดจ์ เป็นเชฟที่มีอาชีพน่าอิจฉา เขาเป็นเจ้าของผับสามแห่งในเมืองมาร์โลว์ และได้มิชลินสองดาวจากร้าน The Hand & Flowers และหนึ่งดาวจาก The Coach, The Butcher’s Tap และร้านของเขาเองในโรงแรมโครินเธีย กรุงลอนดอน อย่าง Kerridge’s Bar & Grill และเป็นเชฟที่ได้ออกทีวีมานับครั้งไม่ถ้วนอีกทั้งยังมีงานเขียนหนังสือทำอาหารที่ขายดิบขายดี
“ผมมาลงเอยอยู่ในครัวตั้งแต่อายุ 18 ปี มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจะทำ จุดเริ่มต้นของผมก็เหมือนกับหลายคน ผมเริ่มจากการเป็นเด็กล้างจาน ทำความสะอาดมาก่อน และ ณ จุดนั้นผมก็เริ่มหลงรักในงานของอุตสาหกรรมนี้ เรียกได้ว่าผมเติบโตขึ้นมาจากสิ่งนั้น มันเป็นงานที่ผมตกหลุมรักมาเสมอ การเป็นเชฟและอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในห้องครัว มันไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการทำอาหาร มันเกี่ยวข้องกับผู้คนและแพสชันของพวกเขาต่องานนี้ด้วย
การเป็นเชฟอาชีพ ต่างจากการทำอาหารทั่ว ๆ ไป มันเป็นเส้นทางของชีวิตที่สำคัญจริง ๆ การได้สองดาวมิชลิน เปรียบเป็นไฮไลท์ของชีวิตผม ในฐานะเชฟมันเป็นอะไรที่เหมือนกับมงกุฎหรือความรุ่งเรืองของอาชีพนี้เลย”
เคอร์ริดจ์ ยังเป็นแฟนบอลยูไนเต็ดตัวยงอีกด้วย เขาถือตั๋วปีของสโมสรมานานและมีที่นั่งประจำของตัวเองในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เรียกได้ว่างานนี้สโมสรได้คนที่มีใจเต็มร้อยมาทำงานให้กับทีมจริง ๆ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาอันยอดเยี่ยมของทีมในปีนี้เลย
“ผมเป็นแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาทั้งชีวิต ตั้งแต่ที่ผมเป็นเชฟมานี่เหมือนกับความฝันที่เป็นจริงที่ได้ทำงานร่วมกับสโมสรสุดพิเศษแห่งนี้ และตอนนี้ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ทำ มันคงแตกต่างไปเล็กน้อยที่ไม่ได้นั่งที่ประจำเวลามีแข่ง แต่ผมรอที่จะเริ่มไม่ไหวแล้ว อยากให้แฟน ๆ ได้ลิ้มรสอาหารของผม ผมหวังว่าความร่วมมือกันครั้งนี้จะเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น” เคอร์ริดจ์ แสดงความรู้สึกหลังได้เซ็นสัญญาร่วมทีม
เร็ว ๆ นี้ เคอร์ริดจ์ กำลังจะร่วมธุรกิจกับสองตำนานของทีมอย่าง แกรี่ เนวิลล์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ในการเปิดร้านอาหารชื่อ The Bull and Bear ที่โรงแรมลักซ์ชูรี รีเลสแอนด์ชาโตว์ ของพวกเขา ในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งร้านดังกล่าวมีคิวเปิดตัวเดือนพฤศจิกายนนี้
คำถามยอดนิยมที่หลายคนมักจะถามเชฟคนเก่งเสมอ นั่นก็คือเมนูโปรดของเขาคืออะไร ซึ่งสำหรับ เคอร์ริดจ์ มันไม่ใช่ทั้ง ไก่เคียฟ กับชีสกะหล่ำดอก หรือหัวหมูทอด กับเซเลอรี่แอค รามูเรลซอส เมนูโปรดของ เคอร์ริดจ์ เป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก ๆ
“ที่ผมชอบทานคือองุ่นกับชีส”