สุรพงษ์ ภูสนาคม “วิลล่า มาร์เก็ท” ยักษ์พรีเมียมในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต
“วิลล่า มาร์เก็ท” เป็นหนึ่งในซูเปอร์มาร์เก็ตแรก ๆ ที่เราจะนึกถึง หากต้องการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนำเข้าซึ่งหาในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอื่นได้ยาก ผู้ก่อตั้งนั้นไม่ใช่บริษัทต่างชาติที่ไหน แต่เป็นคนไทยนามว่า สุรพงษ์ ภูสนาคม ผู้เล็งเห็นช่องว่างตลาดของคนที่ยอมจ่ายสูงขึ้นเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
วิลล่า มาร์เก็ท ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2517 ที่สุขุมวิท 33 เป็นสาขาแรก และยังคงเปิดอยู่จนถึงปัจจุบัน (รวมถึงเป็นสาขาเดียวที่เปิด 24 ชั่วโมง) หลังจากก่อตั้งมาแล้วเกือบครึ่งศตวรรษ ปัจจุบัน วิลล่า มาร์เก็ท ขยายตัวไปแล้วกว่า 30 สาขา กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น พัทยา หัวหิน ภูเก็ต อุดรธานี ฯลฯ และแม้ว่าจะเป็นเชนซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไม่ใหญ่โตนัก รวมทั้งมีการบริหารแบบธุรกิจครอบครัว แต่ วิลล่า มาร์เก็ท ก็สามารถยืนหยัดในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้อย่างไม่หวั่นใคร
ผู้ก่อตั้งวิลล่า มาร์เก็ท คือ สุรพงษ์ ภูสนาคม เขาเป็นลูกร้านขายของชำ และต่อมาได้ทำธุรกิจที่คล้ายกับคุณพ่อ คือการเปิดร้านขายของในฐานทัพทหารอเมริกันในกรุงเทพฯ ในยุคสงครามเวียดนามกำลังปะทุ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปยุคนั้น ซูเปอร์มาร์เก็ตติดแอร์ในไทยยังมีไม่มาก ที่มีก็เช่น “เพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต” ซึ่งต่อมาคือ “ฟู้ดแลนด์” เพราะส่วนใหญ่จะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแบบโอเพ่นแอร์และร้านขายของชำเสียมากกว่า
ขณะเดียวกัน ความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจไทยทำให้มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดตลาดมากขึ้น จำนวน expat หรือนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้น พร้อม ๆ กับการเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติของชาวไทย แต่แทบไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ตไหนที่ตอบสนองความต้องการด้านสินค้าและวัตถุดิบอาหารนำเข้าให้คนกลุ่มนี้เลย สุรพงษ์จึงใช้โอกาสในการทำธุรกิจร้านขายของ ค่อย ๆ สังเกตความต้องการสินค้าของลูกค้าต่างชาติ กระทั่งตัดสินใจก่อตั้งร้านวิลล่า มาร์เก็ท สาขาแรกดังกล่าว
สุรพงษ์ จับช่องว่างตลาดตรงนี้มาเป็นจุดแข็งให้วิลล่า มาร์เก็ท เขาวางสินค้า 70-80% ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ให้เป็นสินค้ากลุ่มวัตถุดิบอาหาร โดยเลือกสรรสินค้าหายากเข้ามาจำหน่าย เช่น เนยถั่วจากสหรัฐอเมริกา เนื้อแกะนิวซีแลนด์ ชีสและไวน์หลายประเภท มีการคัดสรรสินค้าแบรนด์ต่างประเทศหลายแบรนด์เข้ามาจำหน่ายเฉพาะที่วิลล่า มาร์เก็ท ที่เดียวเท่านั้น เป็นการสร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า รวมทั้งพิถีพิถันกับสินค้า เช่น มีการบ่มเนื้อตามระยะเวลาที่เหมาะสมก่อนออกวางขาย ท้ายที่สุดคืออาหารทุกชนิดจะต้องสดใหม่เท่านั้น
เขายังเน้นการสร้างความเป็นกันเองและบริการที่ดี เช่น วิลล่า มาร์เก็ท ในยุคแรกจะมีบอร์ดภายในร้านให้ลูกค้าสามารถนำใบประกาศมาติดได้ ไม่ว่าจะเป็น ประกาศรับสมัครแม่บ้าน ขายรถ ให้เช่าห้อง ไปจนถึงประกาศการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ สร้างบรรยากาศของร้านให้เป็นเสมือนจุดนัดพบของชุมชนมากกว่าจะมุ่งจำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียว
“ที่ผ่านมาแนวทางการทำธุรกิจของเรา คุณพ่อมองลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว สินค้าที่นำเข้ามาขายในวิลล่า มาร์เก็ท เราต้องลองใช้และชิมก่อน สินค้าตัวไหนที่เราไม่ทาน เราจะไม่นำเข้ามา” พิศิษฐ์ ภูสนาคม ทายาทของสุรพงษ์ ที่เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจในบทบาทกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด กล่าวกับ นสพ.ประชาชาติธุรกิจ “สมัยก่อนคุณพ่อจะจำลูกค้าได้ทุกคนว่าคนนี้มาแล้วซื้ออะไร ชอบทานอะไร อาหารแบบไหน ตรงนี้กลายเป็นเสน่ห์ในแบบของ วิลล่า มาร์เก็ท”
การเลือกสรรสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย และยังให้บริการแบบพรีเมียมอันเป็นรากฐานที่สุรพงษ์วางไว้แต่แรก ทำให้แม้ว่าราคาสินค้าในวิลล่า มาร์เก็ท จะค่อนข้างสูง แต่ลูกค้ากลับมีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ และส่งผลให้บริษัทเติบโตได้ต่อเนื่องท่ามกลางสมรภูมิซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ สุรพงษ์จึงนิยามความเป็นวิลล่า มาร์เก็ท ไว้ว่า เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ “Small but beautiful.”
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุผลประกอบการของ บริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด ผู้บริหาร วิลล่า มาร์เก็ท ไว้ว่า ณ สิ้นปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,305 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 376 ล้านบาท ซึ่งรายได้ของบริษัทนี้เติบโตเฉลี่ยปีละ 3.7% ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 27.1% ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา
สำหรับยุคปัจจุบันของวิลล่า มาร์เก็ท ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของบัณฑิต MIT อย่างพิศิษฐ์ บริษัทก็ได้ปรับตัวให้ทันสมัยไม่แพ้ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ตอบสนองลูกค้ากลุ่มพรีเมียมในวิถีที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น มีบริการออนไลน์ช็อปปิ้งส่งสินค้าให้ถึงบ้าน สามารถชำระค่าสินค้าผ่านอี-เพย์เมนต์ได้ ลูกค้าสามารถส่งอีเมลแจ้ง customer service ได้โดยตรงว่าต้องการสินค้าใดให้เข้ามาจำหน่ายที่ร้าน รวมถึงมีระบบเก็บสะสมแต้ม loyalty point ที่ใช้แลกไมล์สะสมของการบินไทยได้ด้วย
วิลล่า มาร์เก็ท แม้จะรุกตลาดเต็มที่มากขึ้นในรุ่นที่สอง โดยตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ปีละ 4-5 สาขา แต่สิ่งหนึ่งที่พิศิษฐ์กล่าวว่าจะไม่ทิ้งอย่างเด็ดขาดก็คือความเข้าใจและใกล้ชิดลูกค้าที่คุณพ่อได้สร้างไว้
ที่มา
https://www.facebook.com/pg/villamarketofficial/about/
https://expatlifeinthailand.com/news-and-event/the-first-in-bangkok/
https://www.prachachat.net/marketing/news-147328
เรื่อง: Synthia Wong