19 พ.ย. 2562 | 16:21 น.
สี่สาว BLACKPINK กลายเป็นปรากฏการณ์ความนิยมของคนรุ่นใหม่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วงเดบิวต์สู่สาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2016 ด้วยเพลง ‘BOOMBAYAH’ และ ‘Whistle’
“5ปี” คือระยะเวลาโดยเฉลี่ยของสี่สาว กับการเป็นศิลปินฝึกหัดภายใต้ค่าย YG ค่ายเพลงที่ขึ้นชื่อว่าคัดโหดและซ้อมโหดที่สุดค่ายหนึ่งของเกาหลีใต้ ทั้งสี่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทั้งการร้อง การเต้น การแร็ป รวมถึงทักษะภาษาต่างประเทศที่ต้องเตรียมตัวสำหรับการเดบิวต์ในต่างประเทศ จากเด็กฝึกมากมายในค่าย จนเหลือเป็น 4 ตัวจริงที่ผ่านมาตรฐานของ YG และพร้อมสำหรับการเดบิวต์สู่สาธารณชน
BLACKPINK คือส่วนผสมและเคมีที่ลงตัวของสี่สาว ประกอบไปด้วย จีซู (คิม จีซู) อายุ 23 ปี ตำแหน่ง Lead Vocalist และ Visual, เจนนี่ (เจนนี่ คิม) อายุ 22 ปี ตำแหน่ง Main Rapper และ Vocalist, โรเซ่ (พัค แชยอง) อายุ 21 ปี ตำแหน่ง Main Vocalist และ Lead Dancer และ ลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) อายุ 21 ปีตำแหน่ง Lead Rapper, Sub Vocalist และ Main Dancer
คำว่า BLACKPINK คือการนำเอาสีสองสี ที่ให้คาแรคเตอร์ต่างกันอย่างสิ้นเชิงมารวมกันอย่างลงตัว แน่นอนว่าสีชมพูมักสื่อถึงความงดงาม ความสดใจ ส่วนสีดำคือโทนของความมืดที่น่าค้นหา ซึ่งพอนำทั้งสองมารวมเข้าด้วยกัน ได้กลายเป็นตัวตนของทั้งสี่ที่พวกเธอต้องการจะนำเสนอออกมา BLACKPINK คือการสะท้อนให้เห็นว่าความสวยไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะพวกเธอเป็นวงที่ไม่ได้มีดีแค่รูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์
“เพราะเรานั้นเป็นทั้งสีดำและชมพู ตอนที่เราอยู่บนเวทีเราจะแสดงด้านความสามารถออกมา แต่ตอนที่เราไม่ได้อยู่บนเวที เราจะมีความเป็นเด็กสาวและมีภาพลักษณ์ที่น่ารักมากกว่า ฉันคิดว่านี่เป็นเสน่ห์คนละขั้วของเรา” เจนนี่ หนึ่งในสมาชิกของวงเคยออกมาให้สัมภาษณ์ เมื่อถูกถามว่าเสน่ห์ของ BLACKPINK คืออะไร
ปัจจุบัน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักบทเพลงหรือบทบาทของพวกเธอทั้งสี่ในวงการดนตรี สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้จากกระแสของวงที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลักฐานชั้นดีคือยอดเข้าชมในยูทูบระดับ 1,000 ล้านวิว จากเพลง ‘DDU-DU DDU-DU’ ที่เรียกได้ว่าคือความสำเร็จ “เกินฝัน” ของพวกเธออย่างแท้จริง ดั่งคติที่ว่า “believe and do it” ความเชื่อมั่นในตัวเองก่อน คือก้าวแรกของการทำฝันให้เป็นจริง เมื่อคุณเชื่อว่าคุณทำได้ และบวกกับการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบททดสอบที่ยาก ฝันที่หวังก็ไม่ไกลเกินฝัน แม้ฉากหน้าของวงในวันนี้อาจจะมีแต่เรื่องของความสำเร็จ แต่ถ้าพูดถึงคำว่า BLACKPINK จริง ๆ หลังม่านคือเรื่องราวของสี่สาวที่สู้เพื่อความฝันของตัวเอง
#BeyondYourself การก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองเพื่อไปให้ถึงจุดหมายของ เจนนี่
ความทรงจำในวัยเด็กของเจนนี่ ไม่ได้อยู่ที่โซลมากนัก เมื่ออายุได้เพียง 10 ขวบ เธอต้องย้ายจากประเทศบ้านเกิดเพื่อไปศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์ ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตเป็น “นักเรียนต่างชาติ” เจนนี่ มักจะถูกตั้งคำถามเสมอว่า ชีวิตที่เธอคาดหวังไว้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร คำตอบเดียวที่ออกจากปาก ด.ญ. เจนนี่ ในตอนนั้นคือ เธอฝันที่จะได้ทำงานในวงการบันเทิง โดยเฉพาะวงการเพลงเค-ป๊อป และด้วยความหลงใหลในเสียงเพลง สุดท้ายมันก็พาเธอกลับมาสู่ชีวิตที่เธอหวังไว้จริง ๆ ต่อมา เจนนี่ เดินทางกลับมาที่โซลและเริ่มต้นออดิชั่นกับ YG จนได้เป็นเด็กฝึกหัดของ YG สมใจ และสามารถก้าวขึ้นมาทำฝันให้เป็นจริงได้ในฐานะหนึ่งในนักร้องของวง BLACKPINK
สำหรับ เจนนี่ การทำงานหนักเข้าไว้ ดูเหมือนจะเป็นคติประจำใจที่เธอยึดมาใช้เสมอ นับตั้งแต่เธอเริ่มก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองตอนที่เริ่มร้องเพลงของ เอมี ไวน์เฮาส์ หรือเต้นเหมือนบียอนเซ่ครั้งแรก และดูเหมือนว่าตอนนี้เธอค้นพบความสุขที่มากขึ้นแล้วจากการทำงานหนักของตัวเอง “ฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะแสดงความสุขออกมาได้ดีเท่าไหร่ แต่ฉันมีความสุขมากจริง ๆ ฉันจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อจะได้มีความสุขมากกว่านี้”
#NeverStop อย่าหยุดที่จะเรียนรู้และฝึกฝน อย่ายอมให้อะไรมาหยุดความสำเร็จ บทเรียนชีวิตของโรเซ่
ย้อนกลับไปในปี 2012 มีเด็กสาวชาวเกาหลีใต้อายุประมาณ 16 ปี ที่ชื่อ โรเซ่ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศออสเตรเลียกับครอบครัว โรเซ่ เป็นเพียงเด็กสาวที่รักในการร้องเพลง และมองว่าดนตรีคืองานอดิเรกสำหรับเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะเป็นนักร้องอาชีพในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจะเป็นไอดอลเกาหลี แต่แล้ววันหนึ่งโอกาสก็วิ่งตรงเข้าหาเธออย่างจัง ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล หลังได้เข้าไปออดิชั่นในโครงการ YG Audition in Australia และฝ่าฟันผู้คนกว่า 700 คน ที่ต้องคัดเหลือเพียง 1 คนเท่านั้น ที่จะได้ไปเป็นศิลปินฝึกหัดของ YG ซึ่งสุดท้ายความพยายามของเธอก็นำเธอไปสู่ฝันที่เป็นจริง
โรเซ่ บ่มเพาะความสามารถ ฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเหตุใดค่ายถึงเลือกเธอ ตอนนั้นคงไม่มีใครสามารถตอบได้ว่า เด็กคนนี้จะเติบโตมาเป็นดาวได้จริง ๆ แต่ตอนนี้เธอพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า แม้เธออาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นดาวตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นดาวได้เพราะการฝึกฝนตัวเองอย่างแท้จริง
“ฉันเคยอยู่ที่ย่านชนบทในเมืองเล็ก ๆ ของออสเตรเลีย ตอนนั้นฉันเริ่มร้องเพลง และเล่นเปียโน กีตาร์ ที่บ้าน ซึ่งคุณพ่อก็สนับสนุนและบอกให้ฉันลองไปออดิชั่นดู ก่อนหน้านี้ฉันมองว่าการเล่นดนตรีเป็นเพียงงานอดิเรก แต่พอได้มาที่เกาหลี ฉันรู้สึกว่าตัวเองต้องฝึกฝนมากกว่านี้ ซึ่งฉันมีไฟและพยายามกับมันมาก ๆ ฉันอยากเป็นนักร้องที่ไม่หยุดอยู่กับที่ ฉันไม่ต้องการที่จะสูญเสียการมองเห็นความฝันของฉันไป ฉันต้องการจะเป็นคนที่ทำตามเส้นทางอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง”
#KeepWinning ลิซ่า กับการเอาชนะทุกบททดสอบด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท
มีอยู่วันหนึ่งทาง YG ได้ปล่อยคลิปวิดีโอตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า “Who’s That Girl” โดยภายในคลิปเป็นการซ้อมเต้นของสาว ๆ กลุ่มหนึ่ง แต่มีเพียงหนึ่งคนที่มีการเต้นที่พลิ้วไหว ดูแข็งแรงสวยงามโดดเด่นขึ้นมา แม้จะไม่มีการเปิดเผยว่าสาวคนนั้นเป็นใคร แต่แล้วในเวลาต่อมาทุกคนทั่วโลกก็ได้รู้จักชื่อของเธอเป็นครั้งแรก ในฐานะศิลปินฝึกหัดของ YG นามว่า “ลิซ่า”
การเป็นศิลปินฝึกของค่ายเพลงในประเทศเกาหลีใต้ มาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองภายใต้บททดสอบที่หนักหน่วง คุณต้องทุ่มเทเวลาชีวิตมากกว่าวันละ 10 ชั่วโมงต่อวันเพื่อการฝึกร้องเต้นให้ออกมาสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ภาษาก็กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในช่วงแรกที่ทำให้ความฝันของ ลิซ่า ไกลออกไปจากเดิม
“ย้อนกลับไปมันคือเวลากว่า 6 ปี นับตั้งแต่หนูมาอยู่ประเทศเกาหลี ตอนแรกหนูไม่สามารถสื่อสารกับคนที่นี่ได้เลย มันแย่มากสำหรับหนู เพราะหนูไม่รู้จะสื่อสารกับพวกเขายังไง? อีกทั้งทางค่ายก็บังคับให้ใช้แต่ภาษาเกาหลีเท่านั้น ไม่ยอมให้ใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทักษะภาษาเกาหลีพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่หนูก็เรียนภาษาเกาหลีทุกวัน และโชคดีมาก ๆ ที่เพื่อนในวงก็ช่วยเทรนภาษาเกาหลีให้หนู ซึ่งมันช่วยได้มากจริง ๆ”
แม้การแข่งขันเพื่อความเป็นหนึ่งจะมาพร้อมกับบททดสอบที่ยากเสมอ แต่เพราะความทุ่มเทเพื่อความฝัน และความพยายามที่จะเป็นดังสิ่งที่ตนหวัง ทำให้ลิซ่าดึงความสามารถของตัวเองออกมาจนกลายเป็นศิลปินต่างชาติคนแรกของค่าย และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เด็กสาวผู้มีความฝันคนนี้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลกได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
"หลายคนมีความฝันที่อยากจะเป็นศิลปิน เค-ป๊อป ที่จริงหนูเป็นคนขี้อายนะคะ หนูพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ความสามารถบนเวที ซึ่งหนูคิดว่านี่คือเอกลักษณ์หรือคำนิยามในความเป็นตัวตนของหนู"
#BeattheImpossible สนุกกับความท้าทายใหม่ ๆ และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงของ จีซู
หากมองย้อนกลับไปหลังประสบความสำเร็จกับ BLACKPINK จีซู แทบจะเป็นคนเดียวในวงที่มีพื้นฐานทางด้านดนตรีมาจากครอบครัวที่รักในเสียงดนตรี จีซู เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ครอบครัวมีส่วนช่วยให้เธอเป็นเป็นนักร้องที่ดีในปัจจุบัน จีซู เล่าว่า เธอหลงรักในการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเวลาที่มีญาติมาที่บ้าน เธอก็มักจะโชว์ความสามารถในการร้องและเต้นของตัวเองต่อหน้าทุกคนเสมอ เธออาจจะไม่ใช่นักร้องที่เก่งกาจในตอนนั้น แต่ จีซู สัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นจากครอบครัวที่มีให้กับเธอ ซึ่งมันกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เธอตัดสินใจทำในสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิต นั่นก็คือการไปออดิชั่นกับ YG จนสุดท้ายวันนี้เธอทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงได้ ด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกของ BLACKPINK และได้ใช้เสียงร้องและความสามารถของตัวเองสร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลก
“ฉันอยากจะให้ทุกคนลองสร้างต้นแบบจากตัวคุณเอง แทนที่จะไล่ตามความสมบูรณ์แบบของคนอื่น ฉันเคยหลงทางเพราะพยายามจะเป็นแบบคนอื่น หากคุณวิ่งตามความฝันของตัวเองอย่างตั้งใจ ฉันเชื่อว่าทุกคนจะสามารถสร้างต้นแบบในแบบของตัวเองได้”
ทั้งหมดนี้คือการเดินทางล่าฝันของทั้งสี่ ที่พุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายผ่านแนวคิดและความเชื่อที่ว่า หากมีความเชื่อ ความพยายาม หรือความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น ทั้งหมดคือพลังที่จะส่งต่อให้คุณทำความฝันเป็นจริงได้ จะสังเกตได้ว่าแต่ละคนจะมีมุมมองและบทพิสูจน์ความท้าทายที่ต่างกันออกไป ซึ่งนี่คือแนวคิดของคนรุ่นใหม่ ที่กล้าจะเชื่อในความฝันของตัวเองอย่างแท้จริง
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจคท์ KBankxBLACKPINK ได้ที่ http://bit.ly/2pfwAVq
#KBankxBLACKPINK #EmpowerYourBelief #แค่เชื่อก็เป็นได้
ที่มา:
https://korism.com/view/134227
https://www.facebook.com/blackpinkygthailand/posts/690034564663730/
https://pantip.com/topic/36338809