"ซีพี ออลล์" คว้าที่ 1 ของโลก บริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืน (DJSI) กลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing
ดัชนี DJSI มาตรฐานบริษัทระดับโลก ที่ ซีพี ออลล์คว้ามาครอง
ในแต่ละปี ถ้าแฟนภาพยนตร์จะรอคอยการประกาศผลรางวัลออสการ์ หรือแฟนฟุตบอลต้องตื่นเต้นกับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟีฟ่า แวดวงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เองก็คงไม่ต่างกัน ในทุก ๆ ปี พวกเขาจะรอผลการคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) เพื่อวัดความสำเร็จของบริษัท
คำว่า “ดาวโจนส์” เป็นคำเรียกเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average (DJIA) ที่คิดคำนวณจากหุ้นบลูชิพ ที่ซื้อขายใน New York Stock Exchange และ Nasdaq ในประเทศสหรัฐอเมริกา หากแต่ DJSI แตกต่างตรงที่ไม่ได้นำเอาราคาซื้อขายของบริษัทมาเป็นหลักในการจัดลำดับ แต่ใช้เหตุผลในด้านการเป็นบรรษัทภิบาล คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และมิติสังคม เป็นเกณฑ์ โดยบริษัทต่าง ๆ ที่ได้รับการประเมินความยั่งยืน จะถูกประเมินอย่างเท่าเทียมกันด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Corporate Sustainability Assessment ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำ สม่ำเสมอ และมีระเบียบวิธีที่ชัดเจน
ดัชนี DJSI แยกย่อยออกเป็นหลายกลุ่ม ทั้งดัชนีภาพรวมระดับโลก ดัชนีรายประเทศ รายภูมิภาค หรือแบ่งเป็นรายประเภทธุรกิจ ถึงเช่นนั้นดัชนีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไทยมากที่สุด คือดัชนี DJSI World ซึ่งวัดผลบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ทั่วโลก และ DJSI Emerging Market ซึ่งพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทยด้วย
โดยในปี 2019 นี้ องค์กรของไทยอย่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็น บริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืนอันดับ 1 ของกลุ่ม World Index ประเภท Food & Staples Retailing Industry โดยได้คะแนนอันดับ 1 ของโลกในประเภทเดียวกัน นำความภาคภูมิใจมาให้ในฐานะองค์กรของคนไทย
#บริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืน ที่เป็นรูปธรรม
สำหรับ บมจ.ซีพี ออลล์ การได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่ม World Index ประเภท Food & Staples Retailing Industry คงไม่ได้เกิดขึ้นจากภาพที่ปรากฏเพียงระยะเวลาอันสั้น หากแต่เป็นผลลัพธ์ต่อเนื่องที่ดำเนินมาอย่างยาวนานอย่างเป็นรูปธรรม
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรักษาส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจประเภท Food & Staples Retailing Industry จนถึงการรักษาระดับกิจกรรมที่ครอบคลุมทั้งอาหาร ค้าปลีก และจัดจำหน่าย ซึ่งนับเป็นการดำเนินธุรกิจที่มองอย่างรอบด้าน เพื่อจับมือกันเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยที่ผ่านมายังมีการลงทุนด้านโครงสร้างทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการค้าปลีก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ และพัฒนาการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอีกด้วย
“การลงทุนด้านโครงสร้างทางเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการค้าปลีกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ และพัฒนาการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ทำให้เรามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนให้บริษัทตอบสนองต่อการขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของความต้องการของผู้บริโภคในด้านสุขภาพ และอาหารทางเลือกที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งเกิดผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้ความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ยังหมายถึงการมองเห็นความสำคัญของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง โดยในแง่ของผู้ค้าปลีกอาหาร เราแสดงความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเข้าด้วยกัน ผ่านนโยบายการจัดซื้อที่มีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น รวมถึงสร้างการเติบโตให้แก่ผู้ค้าปลีกในฐานะที่เป็นทางเลือกในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย”
#ที่ 1 ที่เกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง
ความมุ่งมั่นอย่างหนึ่งของ ซีพี ออลล์ ในการดำเนินธุรกิจที่ยึดถือตลอดมาคือ การคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน ภายใต้ปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” โดยได้ดำเนินนโยบายนี้ต่อเนื่องมากว่า 30 ปี นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ในปี 2019 นี้ ซีพี ออลล์ ไม่เพียงได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI กลุ่ม World Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และกลุ่ม Emerging Markets Index ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (ปี 2017-2019) เท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นที่ 1 ในประเภท Food & Staples Retailing Industry ของกลุ่ม World Index โดยได้คะแนนรวมสูงสุดในหมวดนี้
สำหรับการเป็นบริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืนอันดับ 1 ของกลุ่ม World Index ประเภท Food & Staples Retailing Industry จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) ได้มีการพิจารณาการดำเนินงานที่โดดเด่นทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยในหมวดที่ ซีพี ออลล์ ได้รับคะแนนสูงเป็นพิเศษได้แก่ ด้าน Materiality และ CRM ในมิติเศรษฐกิจ ด้าน Packaging และ Water Related Risk ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับด้าน Human Rights ด้าน Health & Nutrition และ Policy influence
นอกจากนี้ ยังมีพัฒนาการอย่างมีนัยยะสำคัญในด้าน Supply Chain Management ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากความพยายามมุ่งมั่นของ ซีพี ออลล์ ในการพัฒนานโยบายและแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความคาดหวังของคู่ค้าให้ครบทุกด้าน ผ่านการสื่อสาร อบรม และประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า เพื่อหาโอกาสพัฒนาให้คู่ค้าเจริญเติบโตไปพร้อม ๆ กับบริษัทอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และมีคุณธรรม รวมทั้ง ด้านมาตรการแรงงาน ซึ่งมาจากการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอีกด้วย
การได้รับยกย่องให้เป็นบริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืนอันดับ 1 ของกลุ่ม World Index ประเภท Food & Staples Retailing Industry ของ บมจ.ซีพี ออลล์ ในครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าความภาคภูมิใจ เพราะนับเป็นเครื่องยืนยันอย่างหนึ่งว่านโยบายในการดำเนินธุรกิจเหล่านี้ได้สร้างคุณค่าให้สังคมจนได้รับการยอมรับในระดับโลก
นอกจากจะเป็นความสำเร็จของบริษัทแล้ว การถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ในกลุ่มผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวน 12 บริษัท ทั้งยังถือเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศในเอเชีย ที่มีจำนวนผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมมากที่สุดอีกด้วย