11 ธ.ค. 2562 | 11:39 น.
รีวิวคอนเสิร์ต ระเบิดความฟินไปกับนักร้องหนุ่มเสียงดี ใน Ruel: Free Time World Tour in Bangkok 2019
จบไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต Ruel: Free Time World Tour in Bangkok 2019 ที่ผู้จัด Live Nation พานักร้องหนุ่มขวัญใจชาวไทย เจ้าของเพลงฮิตอย่าง ‘Dazed & Confused’, ‘Younger’ และ ‘Painkiller’ มาพบปะแฟน ๆ อย่างใกล้ชิดในฮอลล์ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นอย่างโรงภาพยนตร์สกาล่า ที่ต้องบอกเลยว่ารอบนี้หนุ่มรูล (Ruel) จัดเต็มทั้งร้องและเล่นกับแฟน ๆ เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับทั้งดนตรีและความน่ารัก ขี้เล่นของเด็กหนุ่มคนนี้ภายในเวลาสั้น ๆ แค่หนึ่งชั่วโมง
เวลาสองทุ่มตรง เสียงกลองเป็นอย่างแรกที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดต้อนรับจากแฟนคลับที่รออยู่เต็มฮอลล์ ก่อนที่สปอตไลท์จะฉายไปยัง รูล นักร้องหนุ่มที่ออกมาทักทายแฟน ๆ ด้วยเพลงแรกของค่ำคืนนี้อย่าง 'Dased & Confused' ที่นอกจากแฟน ๆ จะส่งเสียงเชียร์แล้วก็ยังร้องตามกันดังคับฮอลล์เลยทีเดียว ต่อด้วยเพลงถัดมา 'Not Thinkin’ Bout You' เพลงจังหวะกลาง ๆ ที่มีเมโลดี้เป็นเอกลักษณ์ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงร้องสดที่เพราะเหมือนกินแผ่นซีดีเข้าไป รับกับเสียงเครื่องดนตรีจากวงแบ็คอัพ ทำให้บรรยากาศของงานดูสนุกสนานขึ้นกว่าเดิม
“สวัสดีครับ ผมรูล” แค่นักร้องหนุ่มเริ่มแนะนำตัวสั้น ๆ เสียงคนดูก็กระหึ่มฮอลล์ทันที จนรูลต้องส่งยิ้มหวานเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ อีกระลอกก่อนจะบอกว่า “ผมดีใจที่ได้กลับมาเล่นที่ไทยอีก ทุกคนจะว่ายังไงถ้าผมจะขออะไรนิดหน่อย ทุกคนยืนขึ้นและขยับมาใกล้ ๆ ผมเลยได้มั้ย”
เสียงตอบรับดังขึ้นจากคนในฮอลล์ ก่อนที่หลาย ๆ คนจะลุกออกจากที่นั่ง เดินไปเกาะกลุ่มอยู่ตรงหน้าเวทีเพื่อที่จะฟังเพลงและชมการแสดงอย่างใกล้ชิด หลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง รูลก็เริ่มต้นร้องเพลงถัดไปที่มีชื่อว่า 'Real Thing' สำหรับเพลงนี้ แฟน ๆ ที่ขยับมาอยู่ชิดติดเวทีก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการร้องตามจนจบเพลง และเข้าเพลงต่อไปด้วยการที่รูลหยิบกีตาร์ขึ้นมาสะพายและเริ่มร้องเพลง 'Pink Matter' ให้คนดูได้ดื่มด่ำกับจังหวะช้า ๆ เสียงเพราะ ๆ ใบหน้าหล่อ ๆ และแสงไฟสวย ๆ ในฮอลล์ ต่อด้วยเพลง 'Face To Face' และ 'Flames' ที่มีจังหวะสนุกสนานขึ้นพอให้คนดูได้โยกตัวและกระโดดตามจังหวะ
“เพลงต่อไปจะเศร้านิดหน่อย เพราะงั้นอย่าร้องไห้กันนะครับ”
รูลพูดแนะนำเพลงสั้น ๆ ก่อนจะนั่งลงที่ขั้นบันไดของเวที ปล่อยให้อินโทรเพลงบรรเลงขึ้นและเริ่มต้นเพลง 'Don’t Cry' ด้วยน้ำเสียงที่ต้องบอกว่าส่งอารมณ์ถึงคนดูได้เป็นอย่างดี ไม่รู้เพราะเพลงที่รูลร้องซึ้งมาก หรือเป็นความตื้นตันที่ได้เจอนักร้องในดวงใจตัวเป็น ๆ แต่ก็แอบเห็นหลาย ๆ คนในฮอลล์ก้มหน้าปาดน้ำตากันไปคนละทีสองที ต่อด้วยเพลง 'Unsaid' ที่ต้องบอกว่าทั้งเศร้าทั้งฟิน เพราะระหว่างร้องรูลก็เดินไปจับมือแฟนคลับโซนหน้าเวทีฝั่งโน้นทีฝั่งนี้ทีอยู่เรื่อย ๆ
“เพลงต่อไปผมแต่งตอนอายุ 12 เป็นซิงเกิลแรกของผมด้วย เพราะงั้นทุกคนต้องร้องไปพร้อม ๆ กับผมนะครับ”
หลังจากหยอดลูกอ้อนแฟนคลับไปแบบนั้น หนุ่มรูลก็เริ่มร้องเพลงใหม่ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟน ๆ เพลงจังหวะเพราะ ๆ อย่าง 'Don’t Tell Me' ที่รูลร้องให้ฟังกันแบบสด ๆ นั้น เมื่อบวกกับเสียงร้องตามของแฟน ๆ แล้วต้องบอกว่าฟังแล้วอินขึ้นอีกเท่าตัว ต่อกันที่ 'Free Time' เพลงนี้พิเศษตรงที่แฟน ๆ พกแท่งไฟสีเขียวกันมาด้วย พร้อมร่วมกันทำโปรเจกต์ด้วยการเปิดแท่งไฟโบกตามจังหวะตั้งแต่เริ่มจนจบ กลายเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามทีเดียว ต่อด้วยเพลง 'Golden Years' ที่หนุ่มรูลทั้งร้องทั้งเต้นและกระโดดไปมาบนเวที เรียกว่าเอนเตอร์เทนกันแบบสุด ๆ
“เพลงต่อไปเพลงสุดท้ายแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลไป ผมจะกลับมาใหม่ปีหน้ากับคอนเสิร์ตวงดนตรีแบบฟูลแบนด์ ทุกคนจะมากันใช่มั้ย”
เสียงตอบรับล้นหลามทีเดียวตอนที่รูลเริ่มเล่นเพลงสุดท้ายก่อนเข้าช่วง encore ที่ถือเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตของปีนี้อย่าง 'Painkiller' ต้องบอกเลยว่านอกจากเสียงร้องตามของแฟน ๆ จะดังมากแล้ว ยังเป็นเพลงที่ใคร ๆ ก็อยากยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพประทับใจเอาไว้ เรียกได้ว่าเพลงดี แสงสีเป็นใจ อะไรประมาณนั้น หลังจากจบเพลงหนุ่มรูลก็โบกมือลาและวิ่งหายไปหลังเวที ปล่อยให้แฟน ๆ ตะโกนเรียกชื่อกันให้ดังสุดเสียงเพื่อเข้าสู่ช่วง encore
รูลกลับมาอีกครั้งเพื่อเล่นสองเพลงสุดท้าย 'Hard Sometimes' และ 'Younger' ที่รูลเลือกมาเป็นเพลงปิดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ และยังพูดสำทับให้แฟน ๆ อย่าลืมซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตที่ไทยปีหน้า พร้อมทั้งบอกว่า “ผมรับประกันว่าทุกอย่างในคอนเสิร์ตนั่นจะบ้าคลั่ง โอเคไหมครับ” เรียกได้ว่าเป็นการจบคอนเสิร์ตสั้น ๆ ในเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มได้อย่างงดงาม
ภาพรวมแล้วต้องบอกว่าทำได้ดีทั้งในแง่สถานที่จัดงาน แสงสีเสียง และแน่นอน นักร้องอย่างรูลและวงแบ็คอัพเป็นพระเอกของงานที่ทำให้คอนเสิร์ตในครั้งนี้ออกมาน่าประทับใจมากทีเดียว
เรื่อง : จิรภิญญา สมเทพ
