ออกแบบ-ชุติมณฑน์: ทิ้งครูพี่ลิน เพื่อพัฒนาสู่บทบาทสาวมินิมัลลิสต์ใน "ฮาวทูทิ้ง"
"ส่วนตัวออกแบบรู้สึกว่าคำชมเชยมันเป็นดาบสองคมค่ะ มันมาทั้งความยินดี แล้วก็คำเยินยอ ก็เลยทิ้งคำชมเชยไว้ข้างหลัง แล้วก็เก็บประสบการณ์ที่ได้รับเดินต่อไปด้วยกัน"
เมื่อ พ.ศ. 2560 ปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์ไทยก็คือ การก้าวไปไกลระดับนานาชาติของภาพยนตร์อย่าง "ฉลาดเกมส์โกง" ที่นำเอาเรื่องการโกงข้อสอบที่มีฉากหลังเป็นเรื่องของโครงสร้างที่ไม่ยุติธรรมของสังคมไทยมาเล่าอย่างออกรส ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งในไทย ประเทศฝั่งอาเซียน และดังเปรี้ยงเหนือความคาดหมายที่ประเทศจีน กับรายได้มากกว่าพันล้านบาทในแดนมังกร
นอกจากบทที่เข้มข้น พลังการแสดงของนักแสดงนำแต่ละคนนับว่าเข้าขั้น "ยอดเยี่ยม" การันตีจากหลายรางวัลคุณภาพ โดยเฉพาะ ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง กับบทบาท "ครูพี่ลิน" นักเรียนอัจฉริยะผู้นำทีมในการโกงข้อสอบ สีหน้าที่เข้มข้น กดดันของเธอ ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละคร (แม้จะรู้ว่าการโกงข้อสอบเป็นเรื่องที่ผิดก็ตาม)
ผ่านไป 2-3 ปีจากวันนั้น ในวันนี้เธอกลายเป็น "จีน" สาวมินิมัลลิสต์ ในภาพยนตร์ "ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไร...ไม่ให้เหลือเธอ" (พ.ศ. 2562) ตัวเอกที่ยึดติดกับการจัดบ้าน เพื่อการทำบ้านให้เรียบโล่งสไตล์สแกนดิเนเวียแล้ว เธอสามารถทิ้งได้ทั้งสิ่งของและความทรงจำที่คิดว่า "ไม่จำเป็น" สำหรับชีวิตได้ แม้ว่ามันจะเจ็บปวดต่อจิตใจมากเพียงใดก็ตาม
"ไม่เหมือนค่ะ เพราะว่าฉลาดเกมส์โกงมีแอ็คติ้งโค้ชใช่ไหมคะ เขาก็จะให้ทำการบ้าน 100 ข้อว่าตัวละครตัวนี้มีแบ็คกราวนด์อย่างไรบ้าง สำหรับตัวออกแบบคิดเองแล้วก็คุยกับผู้กำกับภาพยนตร์ พี่บาส (นัฐวุฒิ พูนพิริยะ) ว่าพี่บาสเห็นตรงกันไหมกับการที่ออกแบบคิดว่าตัวละครเป็นแบบนี้ แต่ของพี่เต๋อ (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์) คือมานั่งคุยกันถึงว่าแก่นความคิดของคนคนหนึ่ง มันเริ่มจากแก่น จากจุดจุดหนึ่งแล้วค่อยกระจายออกไปเป็น mind map มันต่างกันตั้งแต่การเริ่มต้นก้าวแรกแล้วค่ะ" ออกแบบพูดถึงความแตกต่างในการเตรียมการแสดงของทั้ง ฉลาดเกมส์โกง และ ฮาวทูทิ้งฯ ให้ฟัง
เบื้องหลังความสำเร็จทั้งกล่องทั้งเงินของ "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ผลักดันให้ออกแบบได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และนักแสดงภาพยนตร์ดาวรุ่งเอเชียนานาชาติ ในเวทีเทศกาลภาพยนตร์เอเชียประจำนิวยอร์กครั้งที่ 16 เหมือนความทรงจำที่แม้จะงดงาม แต่เธอก็ต้องทิ้งมันเพื่อพัฒนาการแสดงในอีกโหมดหนึ่งใน "ฮาวทูทิ้งฯ" ทำให้เห็นร่องรอยการเติบโตของออกแบบในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจนภายใต้รอยยิ้มของเธอที่ยังมีเสน่ห์เหมือนเดิม
อย่างแรกที่เธอขอทิ้งไว้ก่อน เพื่อ move on ไปข้างหน้า คือ...คำชมเชย
"ส่วนตัวออกแบบรู้สึกว่าคำชมเชยมันเป็นดาบสองคมค่ะ มันมาทั้งความยินดี แล้วไอ้คำพวกนี้มันทำให้เราอัตตาโต ออกแบบไม่ชอบให้ตัวเองอัตตาโต มันทำให้ตัวเองเปลี่ยน บางทีเราจะรู้สึกว่าเราไม่เป็นตัวเองแต่ว่าเราโชคดี ถือว่าเป็นเด็กที่โชคดีมาก ๆ ที่ผู้ใหญ่รอบ ๆ ตัว เพื่อนรอบ ๆ ตัวเป็นคนตรง เวลาที่ออกแบบรู้สึกว่าเปลี่ยนไปแล้ว เขาคอยเตือน พอเรารู้สึกว่าเราเปลี่ยนไปจริง เราสามารถทิ้งอะไรพวกนี้ลงมา กลายเป็นคนเดิมได้ ก็เลยทิ้งคำชมเชยไว้ข้างหลังค่ะ แล้วก็เก็บประสบการณ์ที่ได้รับเดินต่อไปด้วยกันนะคะ"
"ฮาวทูทิ้งฯ เล่าเกี่ยวกับชีวิตคนกับความผูกพันกับสิ่งของค่ะ คือในความที่ว่าตัวละคร ‘จีน’ แบ็คกราวนด์เขาไปอยู่สวีเดนเพื่ออยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วทีนี้ไป ๆ มา ๆ ไม่สามารถทำงานที่นั่นได้แล้ว เลยต้องกลับมาที่ไทย พอกลับมาที่ไทย เขารู้สึกว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เลยอยากปรับเปลี่ยนที่บ้านให้เหมือนว่าอยู่สวีเดน ให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น ให้ชีวิตดีขึ้น แต่ว่าบ้านกลับรกมาก ๆ ก็ต้องเอาของออกจากบ้าน พอคนไปผูกกับของมันก็เลยเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้น"
หน้าหนังอาจจะทำให้หลายคนนึกถึง คนโด มาริเอะ คนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงจากการจัดบ้านให้เรียบโล่ง ของชิ้นไหนไม่ spark joy ก็ขอบคุณ แล้วทิ้งมันไว้ข้างหลัง แต่ออกแบบบอกว่า การทำงานกับ เต๋อ นวพล ผู้กำกับเรื่องนี้ เธอไม่ต้องทำการบ้านตรงนั้น
"ตอนแรกออกแบบก็ถามพี่เต๋อว่าจริง ๆ น้องควรไปดูมาริเอะไหม พี่เต๋อก็บอกว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น มันคือใจความสำคัญของเรื่องก็จริงในการจัดบ้าน แต่ว่าไม่ต้องไปดูก็ได้ เลยไม่ได้ไปทำการรีเสิร์ชเรื่องมาริเอะ แต่ว่าพี่เต๋อกลับให้ดูพวก documentary ต่าง ๆ ในสื่อ เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการพูดของคน ให้ออกแบบรีเสิร์ชเวลาคนสัมภาษณ์ เขาจะมีรีแอ็คชันยังไงบ้างให้มันเป็นมนุษย์ที่สุด พี่เต๋อส่งสารคดีมาให้ดูเยอะมาก ๆ เลยค่ะ มีให้ดูเกี่ยวกับคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เขาเป็นมินิมัลลิสต์ซึ่งเขามีเสื้อผ้าอยู่เจ็ดชิ้น มีชุดอยู่เจ็ดชิ้น แล้วก็ใช้แค่นั้นแหละ คือบ้านมินิมัลมาก มีแค่เตียง โต๊ะทำงาน มีแค่ของที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ นอกนั้นเขาทิ้งหมดเลย คือดูอะไรแบบนี้ค่ะ เพื่อเข้าใจคนมากขึ้น ให้เป็นตัวละครมากขึ้น"
ตลอดการสัมภาษณ์ แม้ว่าเราจะเห็นความจริงจังขึ้นของออกแบบกับการพยายามตอบคำถามสื่อ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เธอก็ยังเป็นคนสบาย ๆ ติดขี้เล่นด้วยซ้ำ เมื่อเราถามว่า แล้วห้องของออกแบบรกไหม? "รกมาก ถ้าในความคิดหนูมันจะเป็นรกทั่วไป แต่ถ้าเป็นในความคิดหม่าม้ามันจะเป็นรก extra" แล้วพอเล่นหนังเรื่องนี้เสร็จ ห้องเปลี่ยนไปไหม "รกเหมือนเดิม (หัวเราะ)"
เราคุยกับออกแบบในคอนเซ็ปต์ "ทิ้ง" แต่ที่สุด หากจะต้อง "เก็บ" อะไรไว้สักอย่าง เธอบอกว่า เธออยากเก็บคำขอบคุณไว้ให้กับตัวเอง
"อยากบอกกับตัวเองว่าขอบคุณที่เข้มแข็งค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณที่ยังเป็นคนที่เข้มแข็งแล้วก็สู้มาโดยตลอด เพราะว่าเจออะไรมาเยอะ เยอะมาก ๆ แล้วก็ขอบคุณที่ยังเป็นคนสู้อยู่ ยังคงเป็นตัวเองอยู่ ยังไม่ lost ไปในทางใดทางหนึ่ง แล้วขอมีสติในการเตือนตัวเองเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นตัวเอง ให้กลับมาเป็นตัวเองได้ ขอบคุณมาก ๆ ที่ยังเป็นแบบนี้อยู่ค่ะ"