เบิร์ท และ เออร์นี หุ่นมือ Sesame Street ไอคอนของกลุ่ม LGBTQ
คุณคิดว่า ‘หุ่นมือ’ จะสามารถมีรสนิยมทางเพศเป็นของตัวเองได้ไหม?
พวกเขาจะสามารถตกหลุมรัก และมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวเหมือนมนุษย์ทั่วไปได้หรือเปล่า?
คำถามดังกล่าวยังไม่ต้องการคำตอบในตอนนี้ เพราะหลายคนอาจกำลังสับสนว่าประเด็นนี้มันกลายเป็นคำถามได้ด้วยหรือ แต่ใครจะไปนึกว่าเรื่องราวของ รสนิยมทางเพศของหุ่นมือ กลับเป็นสิ่งที่สังคมอเมริกาถกเถียงกันมากว่า 50 ปี เพราะความสัมพันธ์ของตัวละครสองหนุ่มรูมเมทอย่าง เบิร์ท และ เออร์นี (Bert and Ernie) จากรายการ Sesame Street ดูเป็นอะไรที่ช่างคลุมเครือและสุ่มเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดเหลือเกิน
Sesame Street คือรายการก่อนนอนสำหรับเด็ก ที่เริ่มฉายทางช่อง Public Broadcasting Service (PBS) ของอเมริกามาตั้งแต่ ค.ศ. 1969 เนื้อหารายการส่วนมากเน้นความสนุกสนาน และมักจะมีคติสอนใจ ส่วนใหญ่แล้วมักนำเสนอให้เด็ก ๆ รู้จักยอมรับความหลากหลายโดยใช้ตัวละครหุ่นมือที่มีรูปลักษณ์และสีสันแตกต่างกัน มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง ในบางโอกาสอาจมีแขกรับเชิญเป็นคนจริง ๆ มาร่วมแสดงด้วย ตามความเหมาะสมของบทละคร
เบิร์ท และ เออร์นี คือหนึ่งในตัวละครชุดหลัก ที่มีคาแรคเตอร์เป็นชายหนุ่มสองคน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องพักชั้นใต้ดินของบ้านเลขที่ 123 ถนนเซซามี พวกเขานอนหลับบนเตียงเดียวกันทุกคืน อาบน้ำด้วยกันบางครั้ง และมอบของขวัญให้กันในเทศกาลแห่งความสุข แม้อาจจะมีการทะเลาะเบาะแว้งเพราะนิสัยแตกต่างกันไปบ้าง แต่พวกเขาก็หาทางกลับมาคืนดีกันได้เสมอ
หากพิจารณาจากพฤติกรรมข้างต้น หลายคนคงตีความไปแล้วว่า เบิร์ท และ เออร์นี ตัวละครหุ่นที่โลดแล่นอยู่ในรายการโทรทัศน์ของเด็ก ๆ อเมริกันมากว่า 50 ปี กำลังอยู่ในความสัมพันธ์อันแสนโรแมนติก พวกเขาเป็นคู่รักชาย-ชาย ที่อาศัยอยู่ด้วยกันราวกับคู่แต่งงานมาแล้วกว่า 5 ทศวรรษ ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวก็ตรงกับสิ่งที่ มาร์ค ซัลซ์แมน (Mark Saltzman) ผู้ทำหน้าที่เขียนบทละครให้กับ Sesame Street ระหว่างปี 1985-1998 กล่าวกับนิตยสาร Queerty นิตยสารของกลุ่มเพศที่สามว่า ตลอดเวลาเขาที่เขียนบทละครให้กับเบิร์ท และ เออร์นี เขามักจะจินตนาการว่าทั้งสองคือ ‘คู่รัก’
“ผมไม่มีคำอธิบายอื่นสำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขา” มาร์คบอก แล้วสารภาพว่า เรื่องราวของเบิร์ท และ เออร์นี มีส่วนผสมมาจากชีวิตส่วนตัวของเขาและอาร์โนลด์ กลาสแมน (Arnold Glassman) คนรักเพศเดียวกันซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2003 อยู่หลายส่วน ตลอดเวลาที่เขาทำหน้าที่เขียนบทและแต่งเพลงในทีมของ Sesame Street แม้จะไม่เคยป่าวประกาศว่าคบหากันอย่างเป็นทางการ (เพราะเวลานั้นสังคมยังไม่เปิดกว้าง) แต่เขาและอาร์โนลด์ก็มักจะถูกแซวว่าเป็นเบิร์ท และ เออร์นี ในเวอร์ชันคนจริงจากเพื่อนและทีมงานอยู่บ่อย ๆ
“ในฐานะของนักเขียน คุณก็แค่จับสิ่งที่คุณรู้มาใส่ไว้ในงานของคุณ” มาร์คเสริม แต่อันที่จริงเขาเองก็ไม่ได้มีข้อสรุปตายตัวว่าทั้งคู่เป็นเกย์อย่างที่หลายคนคาดหวัง เขาไม่ได้กะเกณฑ์ด้วยซ้ำว่าเบิร์ท และ เออร์นี จะต้องชอบผู้ชายหรือผู้หญิง เพียงแต่ขณะที่ทำงานเขียนบทอยู่นั้น เขาแค่อยากนำเสนอความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ ทั้งหมดจึงนำมาสู่เรื่องราวของ “คนสองคนที่รักกัน” ซึ่งเป็นคำจำกัดความเดียวที่มาร์คมีให้แก่หุ่นทั้งสอง
คำตอบของมาร์คสร้างความฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ สื่อหลายสำนักต่างก็รายงานไปในทำนองเดียวกันว่า เบิร์ท และ เออร์นี เป็นคู่รักเกย์ ใครที่เคยเชื่อว่าพวกเขามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน ขอแสดงความยินดีด้วย คุณคิดถูกแล้ว! แต่ความยินดีดังกล่าวอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตได้ไม่กี่วัน เพราะหลังจากบทสัมภาษณ์ของมาร์ค ซัลซ์แมน กลายเป็นกระแส ทาง Sesame Workshop ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังรายการ Sesame Street ก็รีบออกแถลงการณ์มาเพื่อปฏิเสธข้อสรุปเหล่านั้น
ข้อความในทวีตแถลงการณ์ของ Sesame Workshop ระบุว่า “อย่างที่เรามักจะบอกเสมอว่า เบิร์ท และ เออร์นี เป็นเพียงเพื่อนรักกันเท่านั้น พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสอนเหล่าเด็ก ๆ ว่าเราสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนที่มีความแตกต่างกับเราได้ และแม้ว่าพวกเขาจะถูกออกแบบให้เป็นผู้ชาย แถมยังมีพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ แต่พวกเขาก็ยังเป็นแค่หุ่น และหุ่นก็ไม่มีรสนิยมทางเพศ”
ประโยคที่กล่าวว่า หุ่นไม่มีรสนิยมทางเพศ นั้น ดูเหมือนจะทำให้แถลงการณ์ของทีมงานเบื้องหลังส่งผลในทางร้ายมากกว่าดี เพราะหุ่นตัวอื่น ๆ ในเรื่องนี้ ต่างก็มีพฤติกรรมที่ส่อถึงรสนิยมทางเพศอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น มิส พิกกี้ (Miss Piggy) ที่รับบทบาทเป็นสาวเปรี้ยวคอยแจกขนมจีบแขกรับเชิญหนุ่ม ๆ อยู่เสมอ หรือเจ้ากบเขียว เคอร์มิท (Kermit) ที่ภายหลังกลายมาเป็นเจ้าบ่าวของมิส พิกกี้ ก็แสดงออกว่าพวกเขาคือคู่รักที่มีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกต่อกัน เหตุผลที่ทีมงานเบื้องหลังนำมาหักล้างความสัมพันธ์ของเบิร์ท และ เออร์นี จึงถือว่าย้อนแย้งกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นใน Sesame Street อย่างสิ้นเชิง
แถมข้อความที่ระบุไว้ในตอนต้นว่า “อย่างที่เรามักจะบอกเสมอ...” ก็ทำให้เราได้ทราบว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการปฏิเสธความสัมพันธ์ของเบิร์ท และ เออร์นี เพราะย้อนกลับไปในปี 1994 บทความหนึ่งในหนังสือพิมพ์ The New York Times ก็เคยพาดหัวในเชิงแดกดันไว้ว่า “ตกลงเราจะถกเถียงกันในเรื่องเพศของหุ่นไปอีกนานเท่าไหร่?” การแสดงออกจากทีมงานของ Sesame Street นั้นไม่ต่างจากการยอมรับกลาย ๆ ว่าทีมงานจะไม่มีวันยอมสนับสนุนความรักเพศเดียวกันให้เกิดขึ้นในพื้นที่รายการเด็กของพวกเขา
แถมการตอบโต้ดังกล่าว ยังราวกับปฏิเสธเรื่องราวจากชีวิตของมาร์ค ซัลซ์แมน คนเขียนบทที่นำเสนอตัวตนของเขาและคนรัก ผ่านตัวละครเบิร์ท และ เออร์นี มากว่า 15 ปี นี่คงเป็นเหตุผลที่มีกระแสต่อต้านจากผู้คนมากมาย ที่พากันต่อว่าทีมงานเบื้องหลังว่าช่างมีทัศนคติเหยียดเพศ แถมยังล้าหลังเสียเหลือเกิน ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน และยังยึดมั่นในความคิดของตัวเองอยู่
แต่ไม่ว่าสรุปแล้วหุ่นเชิดจะสามารถมีรสนิยมทางเพศได้หรือไม่ ในปี 2013 ตัวละครเบิร์ท และ เออร์นี ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของกลุ่มเพศที่สาม หน้าปกของนิตยสารชื่อดังอย่าง The New Yorker นำเสนอภาพพวกเขานั่งเคียงข้างกันอย่างอบอุ่นบนโซฟา พร้อมกับพาดหัวว่า “ช่วงเวลาแห่งความสุข (Moment of Joy)” เนื่องในโอกาสที่มติของศาลฎีกาประกาศให้ร่างกฎหมายการแต่งงานเพศเดียวกัน ผ่านการอนุมัติในมหานครนิวยอร์ก
เบิร์ท และ เออร์นี กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะอันแสนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของอเมริกา ที่ในที่สุดก็ยอมรับตัวตนของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มคนที่เคยถูกปฏิเสธจากสังคมด้วยข้อจำกัดและความเชื่อมากมาย และจุดเริ่มต้นจากชัยชนะเล็ก ๆ นี้ พวกเขาเองก็คงหวังว่า คำแถลงการณ์จากทีมงานของ Sesame Street จะเปลี่ยนมาเป็นการประกาศยอมรับในตัวตนและเรื่องราวความสัมพันธ์ของเบิร์ท และ เออร์นี ในสักวัน
ที่มา
https://www.nytimes.com/2018/09/18/arts/television/bert-ernie-gay-sesame-street.html
https://www.newyorker.com/culture/culture-desk/cover-story-bert-and-ernies-moment-of-joy
https://www.queerty.com/exclusive-bert-ernie-couple-finally-answer-20180916
https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2018/sep/18/sesame-street-bert-and-ernie-remain-puppets-and-do-not-have-a-sexual-orientation
https://www.vox.com/2018/9/19/17877146/bert-and-ernie-gay-history-controversy-explained
https://www.theverge.com/2018/9/19/17879916/bert-ernie-gay-sesame-street-mark-saltzman-controversy