โซ จีซอบ: พระเอกมาดเซอร์ ทูตสันถวไมตรี สมบัติแห่งชาติเกาหลี ผู้หลงรักดนตรีฮิปฮอป

โซ จีซอบ: พระเอกมาดเซอร์ ทูตสันถวไมตรี สมบัติแห่งชาติเกาหลี ผู้หลงรักดนตรีฮิปฮอป
ใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000s น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาพระเอกมาดเซอร์ที่เริ่มโด่งดังเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการอย่าโซ จีซอบ (So Ji Sub) ภาพลักษณ์ที่ค่อนไปทางแบดบอย สบาย ๆ ไม่ได้เนี้ยบเรียบหรู โซ จีซอบจึงกลายเป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์โดดเด่น จนคว้าใจเหล่าแฟน ๆ และกลายมาเป็น 1 ใน 4 สมบัติชาติเกาหลี ร่วมกับ กงยู ฮยอนบิน และ คัง ดงวอน ได้ คล้ายกับพระเอกดังคนอื่น ๆ ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง และหน้าตาค่อนข้างดี เขาจึงถูกทาบทามให้เข้าวงการโดยเริ่มจากอาชีพนายแบบ หลังถูกเลือกเป็นนายแบบให้กับแบรนด์กางเกงยีนส์ชื่อ STORM โซ จีซอบก็ก้าวเข้าสู่อาชีพนักแสดงจากซีรีส์ซิทคอมเรื่อง Three Guys and Three Girls และ Model แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้เขาเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ โซ จีซอบวิ่งวนอยู่ในวงการนานหลายปี ตั้งแต่ช่วงปี 1998-2000 เขาได้รับแต่บทละครเล็ก ๆ เส้นทางการพัฒนาชื่อเสียงดูจะยากลำบากไม่น้อย เขาถึงกับคิดว่าหรืออาชีพนี้จะไม่ใช่ทางที่ถูก? เพราะก่อนหน้านี้สาเหตุที่เขาตัดสินใจเข้ามาเป็นนายแบบ โซ จีซอบแค่อยากทำงานร่วมกับ คิมซองแจ แรปเปอร์จากวง Deux ศิลปินฮิปฮอปที่เขาเป็นแฟนคลับก็เท่านั้น “ผมไม่เคยสนใจเรื่องการเป็นคนดังเลยจริง ๆ” โซ จีซอบ กล่าว “ชีวิตของผมมีแต่เรื่องว่ายน้ำแล้วก็เพลงฮิปฮอป ผมมาถ่ายแบบเพราะผมอยากเจอคิมซองแจ และก็เพราะมันดูเป็นช่องทางที่หาเงินได้ง่าย ๆ” โซ จีซอบ: พระเอกมาดเซอร์ ทูตสันถวไมตรี สมบัติแห่งชาติเกาหลี ผู้หลงรักดนตรีฮิปฮอป ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ โซ จีซอบเกือบได้เป็นนักโปโลน้ำทีมชาติ เขาเรียนว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก และยังเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเกาหลี (Korea National Sport University) ระหว่างเรียนเขายังใช้เวลาว่างเป็นครูสอนว่ายน้ำให้กับเด็ก ๆ เพราะต้องการหาเงินแบ่งเบาภาระที่บ้าน แต่เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วงการ เขาก็ตัดสินใจบอกลาความฝันที่อยากเป็นนักกีฬาไป ปี 2004 เขาจะมาถึงจุดที่เรียกว่าแจ้งเกิดอย่างแท้จริง เพราะละครสุดฮิตเรื่อง What Happened in Bali แม้จะไม่ได้เล่นเป็นพระเอก แต่บทบาทชายหนุ่มเงียบขรึมเย็นชา ก็พาให้เขากลายเป็นที่พูดถึงไม่หยุดหย่อน เขายังได้เล่นซีรีส์เรื่อง I’m Sorry, I Love You ในบทบาทพระเอกที่มีชีวิตสุดแสนจะดราม่าผลงาน 2 เรื่องนี้เองที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงแถวหน้าของเกาหลี เขาสามารถกวาดรางวัลใหญ่จากเวที KBS Acting Award ในปี 2004 มาได้ถึง 4 รางวัลรวด ก่อนที่ปี 2005 จะถึงเวลาที่ โซ จีซอบต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในกรมทหาร หลังออกจากกรมได้ไม่นาน เขาก็เริ่มรับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Rough Cut (2008) โซ จีซอบได้รับบทบาทเป็น คัง แพ หนุ่มอันธพาลที่ฝันอยากเป็นนักแสดง แต่เพราะเป็นผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับจาง ฮุน มันจึงมีต้นทุนที่ต่ำแสนต่ำ ทั้งโซ จีซอบ และ คัง จีฮวาน นักแสดงร่วม ถึงขนาดต้องช่วยกันออกทุนค่าถ่ายทำเพื่อเข็นให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายจนจบ ทั้งสองได้มีเครดิตเป็นผู้สร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย “หลายคนถามผมว่าทำไมถึงรับงานที่มีต้นทุนต่ำแบบนี้ หายหน้าจากวงการไป 2 ปี ไม่กลัวจะกู้ชื่อเสียงกลับมาไม่ได้หรือ สำหรับผม มันไม่สำคัญเลยตราบใดที่งานออกมาดี ตอนผมอ่านสคริปต์เรื่องนี้ มันเยี่ยมมาก ผมมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกับตัวละครคัง แพ เพราะเขาอยากจะเป็นนักแสดง ตัวผมเองก็เป็นนักแสดงที่อยากจะเป็นนักแสดง ‘ที่แท้จริง’ ด้วย ความคล้ายคลึงกันแบบนี้ทำให้ผมเลือกที่จะรับเล่น” โซ จีซอบ: พระเอกมาดเซอร์ ทูตสันถวไมตรี สมบัติแห่งชาติเกาหลี ผู้หลงรักดนตรีฮิปฮอป ระหว่างนี้เองที่โซ จีซอบมีโอกาสกลับมาคลุกคลีกับสิ่งที่เขารัก นั่นก็คือเพลงฮิปฮอป เขาได้ร่วมแรปในเพลง ‘Lonely Life’ และ ‘Foolish Love’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Rough Cut และซีรีส์เรื่อง Cain and Abel ที่เขารับแสดงต่อจากนั้น ในปี 2011 เขายังได้ปล่อยดิจิทัลซิงเกิลเพลง ‘Pick Up Line’ ซึ่งแม้จะทำยอดขายได้น้อย แต่ก็ถือเป็นก้าวที่เขาเข้าใกล้ความฝันของตัวเองไปอีกก้าวใหญ่ ๆ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนเขาทุ่มเทกับการทำเพลงฮิปฮอปอย่างจริงจัง เพราะเขาออกผลงานอย่างน้อยปีละ 1 อัลบั้มเลยก็ว่าได้ ทั้ง Corona Borealis (2012), 6 PM...Ground (2013) และ 18 Years (2014) ผลงานเพลงครั้งสุดท้ายของเขาเป็นซิงเกิลชื่อ ‘Are You With Me?’ ที่ปล่อยมาในปี 2017 แม้โซ จีซอบจะได้รับคำชมจากศิลปินที่ทำงานร่วมกันมาบ้าง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่คิดทำอาชีพนี้จริงจัง เพราะนอกจากในงานแฟตมีตติ้ง เขาก็ไม่เคยแสดงเพลงของตัวเองสด ๆ ที่ไหนอีก “ผมทำเพลงฮิปฮอปเพราะผมชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ ผมทำเพลงเพื่อแฟน ๆ ที่ชอบผม และจะแสดงมันต่อหน้าแฟน ๆ ของผมเท่านั้น” นอกจากผลงานเพลงฮิปฮอปที่โซ จีซอบเลือกทำเพราะรักแล้ว การท่องเที่ยวและถ่ายภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักแสดงหนุ่มชอบทำ เขาเก็บภาพสวย ๆ มาฝากเหล่าแฟนคลับ โดยทำออกมาเป็นหนังสือภาพ และนิตยสารแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และการไดเอ็ทให้แฟน ๆ ได้ตามรอยเขาไปอีกด้วย หนึ่งในเล่มที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นหนังสือสารคดีภาพชื่อ So Ji Sub's Journey ที่บันทึกภาพตอนเขาเดินทางไปท่องเที่ยวในเขต DMZ (Demilitarized Zone) หรือเขตปลอดปฏิบัติการทหารของจังหวัดกังวอน พื้นที่ดังกล่าวคือบริเวณที่ตั้งประจันหน้ากันระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ หนังสือเล่มนี้ก็ขายดีเป็นน้ำเทท่า ทั้งยังทำให้มีคนสนใจตามไปเที่ยวพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น เพื่อแทนคำขอบคุณ จังหวัดกังวอนจึงประกาศแต่งตั้งให้ โซ จีซอบ เป็นทูตสันถวไมตรีประจำจังหวัด แถมเส้นทางท่องเที่ยวยาว 51 กิโลเมตรที่ปรากฏในหนังสือของเขา ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า “ถนนสายโซจีซอบ” นี่จึงทำให้เขากลายเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่มีชื่อถนนเป็นของตัวเอง โซ จีซอบ: พระเอกมาดเซอร์ ทูตสันถวไมตรี สมบัติแห่งชาติเกาหลี ผู้หลงรักดนตรีฮิปฮอป กลับมาที่งานแสดง หลังจากผลงานภาพยนตร์ทุนต่ำอย่าง Rough Cut เขาก็ยังได้ร่วมแสดงในซีรีส์ชื่อดังอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Cain and Abel (2009), Road No.1 (2010) กระทั่งปี 2013 โซ จีซอบตัดสินใจพลิกบทบาทจากบทพระเอกสายดราม่า มารับงานสายโรแมนติกคอเมดี้ เขาได้ร่วมงานกับนางเอกแถวหน้าอย่าง กง ฮโยจิน ใน Master's Sun ซึ่งก็นับว่ามีกระแสตอบรับที่ดี เพราะเขาสามารถถ่ายทอดบทละครออกมาได้อย่างตลกและมีเสน่ห์ การพลิกบทบาทหันมาเล่นละครคอเมดี้ดูเหมือนจะทำให้เขาได้รับความนิยมจากคนดูทั้งในและต่างประเทศ พระเอกตาปรือของเราจึงมีผลงานเรื่องต่อมาเป็นแนวนี้อีก คราวนี้ในเรื่อง Oh My Venus เขารับบทเป็นเทรนเนอร์ชื่อดัง ที่เข้ามาช่วยทนายสาว (รับบทโดย ชิน มินอา) ลดน้ำหนักและหาความงามภายในของเธอ โซ จีซอบยังมีผลงานซีรีส์และภาพยนตร์กระแสดีตามมาอีกหลายเรื่อง คราวนี้ขอแค่มีชื่อของเขาอยู่ในลิสต์นักแสดง ก็สามารถการันตีผลตอบรับจากแฟน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย เขากลายมาเป็นท็อปสตาร์ระดับ A List เป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศเกาหลี มันจึงดูเหมือนจะแปลกดีที่ตลอด 24 ปีในชีวิตการทำงานของโซ จีซอบ เขาไม่เคยมีข่าวคบหากับใครมาก่อน อาจจะมีข่าวลือว่าเขากำลังดูใจกับดาราหรือไอดอลสาวคนนั้นคนนี้บ้าง แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องจริงจากทางต้นสังกัด แน่นอนว่านี่คือเหตุผลที่ภาพหลุดเมื่อกลางปี 2019 ที่เขาอยู่ระหว่างการเดตกับผู้ประกาศข่าวสาวโจ อึนจอง วัย 26 ปี ทำเอาแฟนคลับช็อคกันอยู่ไม่น้อย เพราะหลังจากที่ภาพดังกล่าวออกมาได้ไม่นาน โซ จีซอบก็ออกมายอมรับว่าพวกเขากำลังคบหาดูใจกันจริง ๆ เพราะอายุที่ห่างกันมากถึง 17 ปี (โซ จีซอบ อายุ 43 ปี) ทำให้หลายคนคาดเดาว่าคู่นี้อาจจะอยู่กันได้ไม่ยืด แต่ก็คงต้องช้ำใจกันไปอีกยาว ๆ เพราะในวันที่ 7 เมษายน 2020 ต้นสังกัดของโซ จีซอบออกมายืนยันแล้วว่า แม้จะไม่สามารถจัดพิธีแต่งงานใหญ่เพราะติดสถานการณ์โควิด-19 แต่เขาและโจอึนจองก็ได้จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นคนแรกจาก 4 สมบัติแห่งชาติเกาหลีที่เปิดฉากแต่งงาน โซ จีซอบ เขียนจดหมายถึงแฟน ๆ ใจความส่วนหนึ่งระบุว่า “ผมกลัวว่าทุกคนจะเซอร์ไพรส์กับข่าวนี้ อย่างไรก็ตามมันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของผม ผมหวังว่าทุกคนจะยังคงสนับสนุนผมอย่างดีเหมือนที่เคยเป็นมา ผมจะพยายามให้ดีที่สุดในการเป็นนักแสดงที่ดี ผมหวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพดี และหวังว่าจะได้พบกับทุกคนในอีกไม่ช้านี้ ขอบคุณเสมอ"     ที่มา  https://www.thefamouspeople.com/profiles/so-ji-sub-34193.php https://channel-korea.com/so-ji-sub-profile-dating/ https://factmandu.com/so-ji-sub http://www.kdramastars.com/articles/10144/20130809/five-fun-facts-ji-sub.htm https://channels.vlive.tv/EBF267/celeb/0.11132125 https://www.soompi.com/article/1137151wpp/ji-sub-talks-love-hip-hop-new-perspective-acting