“ฉันคิดว่าคงไม่มีใครในโลกนี้หรอกที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัส ฉันเองก็ด้วย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันว่างงาน” ทัล คาไล (Tal Kalai) นักแสดงและแดร็กควีนชาวอิสราเอล วัย 35 ปี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ถึงสภาวะยากลำบากที่เธอกำลังประสบ
เป็นที่รู้กันดีว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลต่อกิจการร้านอาหาร และสถานบันเทิงทั่วโลก เพราะเป็นสถานที่ชุมนุมอันสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ เหล่าผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องตัดสินใจปิดกิจการ หรือเลิกจ้างพนักงานบางส่วนไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
แน่นอนว่าการตัดสินใจนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของเหล่าแดร็กควีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นดาวเด่นสร้างความบันเทิงบนเวทีของคลับหลายแห่งทั่วโลก เพื่อปากท้องและความอยู่รอด ทั้งอุตสาหกรรมถึงขั้นต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ทัล คาไล ในฐานะ ‘ทาลูลา โบเนต’ แดร็กควีนชื่อดังแห่งอิสราเอลก็เช่นกัน
“ฉันก็พยายามมองให้มันเป็นความท้าทายนะ ว่าจะสามารถขึ้นโชว์ได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีเวทีให้แสดง ผู้คนเองก็ต้องกักตัวอยู่บ้าน คงเดินทางมาดูโชว์เราไม่ได้ ตอนนั้นล่ะที่ไอเดียการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กผุดขึ้นมา” ทัล คาไล เล่า
เธอตัดสินใจชวน ยูเวล อีเดลมาน (Yuvel Edelman) หรือชื่อในวงการ ‘ซิโอนา แพทริออต’ เพื่อนร่วมอาชีพวัย 45 มาร่วมแสดงโชว์ด้วย ก่อนหน้านี้ยูเวลทำงานเป็นแดร็กควีนแบบเต็มเวลาในเมืองเทลอาวีฟ เมืองเศรษฐกิจที่คึกคักและมั่งคั่งที่สุดของอิสราเอล “ก่อนหน้าโควิด-19 ฉันมีตารางแสดงโชว์ถึง 4-5 งานต่ออาทิตย์ แถมยังมีชื่อเสียงมาก เพราะแสดงในบาร์หลายแห่ง แต่หลังจากมีโรคระบาดเข้ามา ฉันก็ทำได้แค่อยู่บ้านเฉย ๆ”
[caption id="attachment_22120" align="aligncenter" width="640"]
ทัล คาไล (ซ้าย) ยูเวล อีเดลมาน (ขวา)[/caption]
จากทีแรกที่เป็นเพียงการแสดงโชว์เพื่อแก้เบื่อ กลับกลายเป็นว่าโชว์ของพวกเธอมีกระแสตอบรับดีเกินคาด หลายคนต่างก็ตั้งตารอรายการชื่อ ‘Quarantined’ ที่เข้ามาช่วยสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้คนท่ามกลางสถานการณ์อันโหดร้าย ยูเวลบอกว่า เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนสนใจโชว์มากขนาดนี้ “มันเหมือนกับทุกช่วงเวลาคือช่วงไพร์มไทม์ เพราะใคร ๆ ต่างก็ออนไลน์อยู่บนเน็ตเวิร์ค พวกเขาตั้งตารอดูโชว์ของเรา แถมดูจบแล้วยังแสดงออกว่ารักมันมาก ในฐานะนักแสดง มันไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว”
อาจเพราะก่อนหน้านี้ สื่อหลักในอิสราเอลต่างก็เน้นนำเสนอข่าวอัพเดทสถานการณ์โรคระบาดที่ดูแล้วมีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ ไหนจะผลกระทบที่ทำเอาเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนต่างก็ค่อย ๆ สูญเสียงานและรายได้ พอมีโชว์ตลก ๆ เกิดขึ้นท่ามกลางความกดดันทั้งหลาย ก็เหมือนทุกคนได้ผ่อนคลายจากความเครียดได้บ้าง สอดคล้องกับความคิดของ ทัล คาไล ที่มองว่า กระแสที่พวกเธอได้รับกลับมานี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะผู้คนต่างต้องการเรื่องที่ทำให้มีความสุขในช่วงเวลาตึงเครียดอย่างนี้
ด้วยความสนใจอันท้วมท้นจากผู้คนบนโลกโซเชียล ทำให้ ทัล คาไล และ ยูเวล อีเดลมาน ได้รับการติดต่อจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 24 ซึ่งเป็นหนึ่งในทีวีช่องหลักของประเทศ ให้เปลี่ยนจากการจัดรายการออนไลน์ มาจัดผ่านโทรทัศน์ช่อง 24 แทน
นี่คงนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากตกลงตอบรับข้อเสนอ คนดูจำนวนมากก็แห่ตามมาให้ความสนใจกับรายการนี้ พวกเธอแสดงความสามารถทั้งการร้อง การเต้น และเล่นตลก ในขณะที่มียาฆ่าเชื้อวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ตอนหนึ่งของรายการ ‘ทาลูลา โบเน็ต’ ถึงขนาดสอนวิธีทาลิปสติกบนหน้ากากอนามัย เพื่อให้เรายังดูสวยแม้จะยังต้องป้องกันโรค “อาจเพราะเราไม่ได้แค่มานั่งคุย หรือนั่งสัมภาษณ์กันเฉย ๆ แต่เราทั้งแสดงโชว์ เราเปลี่ยนชุดมากมาย เราส่งต่อแต่ความสุข ความตลก และความสดใส ฉันคิดว่านั่นทำให้รายการของเราทั้งมีสีสันและเปล่งประกาย” ยูเวลกล่าว
ช่วงเวลาที่ผู้คนต่างทำได้แค่นั่งเฉย ๆ กังวลกับเรื่องค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่าย หรือเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่กำลังจะเกิด ทัล คาไล บอกว่า เธออยากให้พวกเขาได้มีโอกาสหัวเราะและหลบหนีจากความคิดแย่ ๆ ได้แม้จะเป็นเวลาเพียงเล็กน้อยก็ตาม แค่ปล่อยให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย ได้หัวเราะ ขอแค่ได้มีความสุขขึ้นมาสักหน่อย แล้วค่อยกลับไปสู้ต่อกับสถานการณ์อันโหดร้าย หากสามารถสร้างผลลัพธ์แบบนั้นได้ ก็นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จของเหล่าแดร็กควีน
ย้อนกลับมาที่เรื่องการแสดงโชว์ออนไลน์ จะว่าไปนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับแวดวงแดร็กควีนเป็นครั้งแรก อย่างที่กล่าวไปว่า โรคระบาดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อกิจการสถานบันเทิงทุกหนแห่ง เมื่อหันไปมองทางฝั่งอเมริกา เหล่าแดร็กควีนชื่อดังล้วนหันมาไลฟ์โชว์ผ่านแอคเคาต์ส่วนตัวบน Instagram, Twitch หรือ Stageit บางคนก็หารายได้จากการเปิดรับบริจาค แต่บางพื้นที่ เจ้าของบาร์ก็หันมาเป็นเจ้าภาพจัดไลฟ์โชว์อาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้เหล่าแดร็กควีนยังมีงานทำ รวมทั้งยังมีพื้นที่สำหรับแสดงออกถึงตัวตนของพวกเธอด้วย
“ก่อนที่เรื่องพวกนี้จะเกิด ฉันแทบจะเดินสายโชว์เมืองนั้นเมืองนี้แบบวันต่อวันเลย เวลาที่เราได้ไปแสดงในเมืองอื่น ๆ เริ่มตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน ได้แต่งเนื้อแต่งตัว ออกไปแสดงโชว์ให้แฟน ๆ เห็น ทั้งหมดนั่นคือช่วงเวลาแห่งความสุข สิ่งที่เราได้กลับมามีทั้งรอยยิ้ม เสียงปรบมือ ตอนนี้เมื่อมองไปที่ตารางงานอันว่างเปล่า มันไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียวที่พวกเราเสียไป แต่เป็นชีวิตของเราด้วย” แม็กเวล เฮลเลอร์ (Maxwell Heller) หรือ ‘มิซ แคร็กเกอร์’ อดีตผู้เข้าแข่งขันรายการ RuPaul's Drag Race กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
‘จิงซ์ มอนซูน’ หรือชื่อจริง เจริค ฮอฟเฟอร์ (Jerick Hoffer) แดร็กควีนที่หันมาแสดงสดบนสตรีมมิงตั้งแต่ช่วงแรกที่ไวรัสโคโรนาระบาด เล่าว่า “ตอนที่ฉันแสดงผ่านไลฟ์ และหันไปเห็นสัญลักษณ์หัวใจลอยขึ้นมามาก ๆ ฉันจะถือว่านั่นเป็นเสียงปรบมือจากคนดู มันก็ยังโชคดีนะที่มีแพลตฟอร์มพวกนี้ ทำให้เราเห็นว่ายังมีคนดูอยู่ แต่ถ้าพูดถึงโชคร้าย ในสังคมนี้ยังมีเด็กอีกมากมายที่มีอิสระได้เฉพาะช่วงเวลาที่เขาอยู่บาร์เกย์ ที่บ้านไม่มีใครเข้าใจเขา เมื่อสถานที่เหล่านี้ปิดไป มันก็เหมือนพรากช่วงเวลาที่เขาได้เป็นตัวของตัวเองออกไปด้วย”
ด้าน ‘อลาสกา’ หรือ จัสติน แอนดรูว์ โฮนาร์ด (Justin Andrew Honard) ก็มองว่ามากกว่าเรื่องรายได้ การไม่มีพื้นที่แสดงโชว์อย่างคลับหรือบาร์ นับเป็นการสูญเสียพื้นที่ทางสังคมของเหล่า LGBTQI+ อีกทางหนึ่ง “เราอาศัยอยู่ในสังคมที่มีการกีดกันทางเพศเกิดขึ้นอยู่เสมอ การมีบาร์สำหรับแสดงก็เหมือนเป็นสถานที่ปลอดภัยที่เราถูกมองอย่างเข้าใจและยอมรับ พอไม่มีที่เหล่านี้ เราจึงมองหาโอกาสที่จะได้เชื่อมต่อไปหาคนอื่น ๆ โดยหันมาจัดรายการออนไลน์ ทั้งหมดก็เพื่อมีตัวตน เพื่อให้ผู้คนมองเห็น นั่นล่ะ คือสิ่งที่เราสู้มาตลอดเพื่อให้ได้มา”
ที่มา
https://www.bbc.com/news/video_and_audio/must_see/52234673/coronavirus-israeli-drag-queens-take-show-online-under-lockdown
https://www.nbcnews.com/feature/nbc-out/quarantined-drag-queens-land-tv-show-israel-n1179031
https://timesofindia.indiatimes.com/travel/things-to-do/drag-shows-go-virtual-as-bars-across-the-globe-shut-down-due-to-pandemic/as75183382.cms
https://www.youtube.com/watch?v=kxskKrXTSZo
https://www.lgbtqnation.com/2020/03/coronavirus-forces-drag-queens-like-laganja-estranja-online/