ย้อนไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส เชื่อหรือไม่ว่าทีมชาติอังกฤษ เคยเป็นที่หมายหัวของกลุ่มผู้ก่อการร้ายระดับโลกอย่างอัลกออิดะฮ์ ซึ่งครั้งนั้นนักเตะคนดังของทีมสิงโตคำรามอย่าง เดวิด เบ็คแฮม และ ไมเคิล โอเว่น กลายเป็นเป้าหมายหลักในการสังหารด้วย
ช่วงเช้าก่อนเกมรอบแบ่งกลุ่มคู่อังกฤษพบตูนิเซีย แฟนบอลอังกฤษจำนวนมากได้ก่อความวุ่นวายในเมืองมาร์กเซย ทั้งโจมตีคาเฟ่, บาร์ หรือรถยนต์ตามท้องถนน เป็นเหตุให้กรมตำรวจฝรั่งเศสต้องควบคุมความสงบด้วยการใช้แก๊สน้ำตา มีรายงานว่าพบตั๋วผีจำนวนมากกระจายว่อนเมือง เพราะแฟนบอลอังกฤษกว่าสองหมื่นคนไร้ตั๋วเข้าชมเกมนัดดังกล่าว ซึ่ง โทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษตอนนั้น ได้ออกมาประณามการกระทำของประชาชนตัวเองว่า “การกระทำเหล่านี้เป็นความอับอายของประเทศอังกฤษ”
แม้นอกสนามจะเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก แต่ขุนพลสิงโตคำรามก็สร้างผลงานในเกมเปิดสนามได้อย่างยอดเยี่ยม จบเกมพวกเขาสามารถเอาชนะตูนิเซียไปได้ 2-0 จากผลงานของเท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม กับ พอล สโคลส์ โดยมี เกล็น ฮ็อดเดิ้ล เป็นผู้จัดการทีม
ท่ามกลางความปลื้มปิติในชัยชนะอันสวยหรู พวกเขาไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้วเกมนัดนั้นเกือบถูกเปลี่ยนจากสมรภูมิฟุตบอลเป็นสมรภูมินองเลือดเสียแล้ว มีการเปิดเผยออกมาว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ นำโดย โอซามา บิน ลาเดน แกนนำ วางแผนจะสังหารหมู่แฟนบอลอังกฤษและนักเตะทีมชาติท่ามกลางสายตาของคนทั้งโลก ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากนักเขียน, นักข่าวที่ทำงานอยู่ในตะวันออกกลางมาหลายปีอย่าง อดัม โรบินสัน
โรบินสัน เขียนเรื่องราวดังกล่าวโดยอ้างอิงจากเอกสารในปี 1997 ของชายที่มีความเกี่ยวข้องกับอัลกออิดะฮ์อย่าง อาเหม็ด ซาวอี บวกกับข้อมูลของ โยส์เซฟ โบเดนสคี ผู้อำนวยการคณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งรัฐสภาในเรื่องการก่อการร้ายและสงครามนอกแบบของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ชายที่ดำรงตำแหน่งยาวนานกว่า 16 ปี และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รับรู้แผนก่อการร้ายต่าง ๆ ของบิน ลาเดน มากมาย โดยหนึ่งในแผนอุกอาจสุดที่เกือบจะเกิดขึ้นก็คือ “การวางแผนสังหารหมู่ทีมชาติอังกฤษ”
[caption id="attachment_23434" align="aligncenter" width="1507"]
อลัน เชียเรอร์[/caption]
บิน ลาเดน เป็นผู้วางแผนและให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธอิสลาม หรือ GIA ในการทำภารกิจครั้งนั้น โรบินสันเรียกแผนการของ บิน ลาเดน ว่า “ความโหดเหี้ยม อุกอาจ และเต็มไปด้วยการนองเลือด”
บิน ลาเดน วางแผนการของเขาไว้ว่า จะให้นักฆ่าจำนวนสามคนลักลอบเข้าไปปะปนกับฝูงชนกว่าหกหมื่นคนในสนามสตาดเวลอดรอม โดยอาศัยตั๋วปีของทีมโอลิมปิก มาร์กเซย ในการเข้าสู่สนามฐานะอาสาสมัครประจำสนาม และหลังจากนั้น 20 วินาทีหลังเกมเริ่ม หนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่มีระเบิด TNT ติดอยู่รอบตัวจะพลีชีพตัวเองไปพร้อมกับ เดวิด ซีแมน นายทวารของทีมชาติอังกฤษ ก่อนที่ผู้ก่อการร้ายคนที่สองจะใช้ระเบิดมือขว้างไปยังจุดเป้าหมายสองแห่ง หนึ่งคือบริเวณแฟนบอลอังกฤษ สองคือซุ้มม้านั่งสำรองทีมชาติอังกฤษ เป้าหมายอยู่ที่นักเตะชื่อดังอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิล โอเว่น และ เกล็น ฮ็อดเดิล ผู้จัดการทีม สุดท้ายผู้ก่อการร้ายคนที่สามจะลั่นกระสุนไปที่ อลัน เชียเรอร์ ในสนามเพื่อหวังสังหารเขาต่อหน้าคนทั้งโลก
เกล็น ฮ็อดเดิล อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเคยให้สัมภาษณ์ในปี 2009 เกี่ยวกับข่าวลือนี้ว่า “ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเราจะโดนขว้างระเบิดใส่ และผมก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา”
หลังจากข้อมูลที่โรบินสันเขียนเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง หลายคนมองว่านี่เป็นเพียงแค่แง่มุมหนึ่งจากคนที่ใกล้ชิดเรื่องราวการก่อการร้ายเท่านั้น เพราะที่สำคัญคือ “เรื่องนี้ดูไม่มีหลักฐานมากพอ”
อดีตผู้บัญชาการตำรวจในลอนดอน เมโทโปลิแทน เซอร์ไบรอัน เฮย์นส เคยออกมาปฏิเสธข่าวลือการโจมตีในครั้งนี้เช่นกัน “ผมเรียกทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยทีมและนักเตะรายบุคคลมาบรีฟกันอีกครั้ง ตอนนั้นเราตรวจสอบทุกสถานที่ที่เราไป ซึ่งหลังจากเราลงพื้นที่สืบสวนก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับข่าวลือการก่อการร้ายนี้”
อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าแผนการที่ล้มเหลวนี้ของบิน ลาเดน กลายเป็นชนวนเติมเชื้อไฟให้เขาออกคำสั่งทิ้งระเบิดสถานทูตสหรัฐฯ สองแห่งในเมืองไนโรบี ประเทศเคนย่า และเมืองดาร์-เอส-ซาลาม ประเทศแทนซาเนีย เมื่อเดือนสิงหาคม 1998 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 250 คนและบาดเจ็บกว่า 5,500 คน
[caption id="attachment_23433" align="aligncenter" width="1536"]
เดวิด เบ็คแฮม และไมเคิล โอเว่น[/caption]
โรบินสัน ยังเผยอีกว่า บิน ลาเดน ถือเป็นแฟนบอลตัวยงของอาร์เซน่อล ทีมดังจากศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เขาเคยไปลอนดอนหลายครั้ง รวมไปถึงเคยเข้าชมเกมระหว่างอาร์เซน่อลพบโตริโน่ที่ไฮบิวรี่มาแล้ว นอกจากนี้ ก็ยังมีการเจอตั๋วเข้าชมเกมระหว่างอาร์เซน่อลพบเปแอสเชในศึกยูโรเปี้ยนคัพ วินเนอร์คัพ ในถ้ำลับของเขาที่เมืองโตรา โบรา ประเทศอัฟกานิสถาน และจากหนังสือ 'Bin Laden: Behind the Mask of Terror' ที่โรบินสันเขียน ยังระบุอีกว่า ขณะที่กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ บุกฐานลับแห่งหนึ่งของบิน ลาเดน ในปี 2001 พวกเขาพบกับเสื้ออาร์เซน่อลสกรีนชื่อ เอียน ไรท์ ด้านหลัง ซึ่งเป็นของขวัญที่ บิน ลาเดน ตั้งใจชื้อมาฝากลูกชายของเขา
ช่วงปี 1990s ถือเป็นยุคที่ บิน ลาเดน แข็งกร้าวขึ้นจนสร้างความน่ากลัวไปทั่วโลก เขาเดินหน้าแผนการก่อการร้ายทั่วตะวันออกกลาง, ยุโรป และแอฟริกาตอนเหนือ ในตอนนั้นเขาเป็นที่รู้จักในชื่อ “หัวหน้า”
บิน ลาเดน ถูกหมายหัวเป็นผู้ก่อการร้ายเบอร์หนึ่ง หลังจากเป็นตัวการของเหตุโศกนาฏกรรม 9/11 ที่ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก บิน ลาเดน ถูกกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ บุกเข้าวิสามัญฆาตกรรม ณ ฐานที่มั่นของเขาในเมืองอาโบตาบัต ประเทศปากีสถาน ในปี 2011 ซึ่งเรื่องราวกลายมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง Zero Dark Thirty