20 พ.ค. 2563 | 20:07 น.
MTM Academy หลัง COVID-19 ที่จะช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วยมวยไทย
วิกฤตโควิด 19 ทำให้พวกเราทุกคนที่ MTM ได้เจอบททดสอบที่หนักที่สุดเท่าที่พวกเราเคยเจอมา จากเดิมที่เราตั้งใจจะขยายสาขาที่ 3 ตามแผนงานปี 2020 แต่พอเกิดวิกฤตินี้ขึ้น มันทำให้เราต้องยกกระดานปรับแผนใหม่หมดทุกอย่าง
ในวันที่ยิมถูกสั่งปิดชั่วคราว รายได้เรากลายเป็นศูนย์ทันที เราพยายามลดรายจ่ายลงทุกอย่าง โดยตั้งโจทย์ไว้ว่าเราจะไม่ลดจำนวนพนักงานแม้แต่คนเดียว ทำให้เราตัดสินใจนำค่าก่อสร้างที่เตรียมไว้มาจ่ายเงินเดือนพนักงานเต็มตลอดช่วงเวลานั้น เพื่อช่วยสร้างขวัญกำลังใจ ให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิต และดูแลคนในครอบครัวของตัวเองต่อไปได้อย่างดีที่สุด
ก่อนรัฐบาลจะประกาศยกเลิกวันหยุด พวกเราขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนไม่เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์พร้อมจ่ายค่าชดเชยให้ เพราะตอนนั้นเราคาดการณ์ว่าโรคระบาดนี้จะรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน เราขอให้ทีมงานทุกคน Check-in เข้างานจากบ้านทุกสามชั่วโมงเพื่อเป็นการ Quarantine ตัวเอง พร้อมอัพเดทสถานที่อยู่แบบ Real time ให้หัวหน้างานตรวจสอบได้ตลอดเวลา ไม่ออกไปเสี่ยงกับการติด และแพร่เชื้อ ลดปัญหาให้กับสังคม และเพื่อเตรียมพร้อมรอวันที่จะกลับมาบริการทุกคนได้อย่างปลอดภัย 100%
แต่จากความไม่แน่นอนหลาย ๆ อย่าง และไม่รู้ว่าการปิดชั่วคราวนี้จะยาวนานถึงเมื่อไร ส่งผลให้การกระทำในวันนั้น MTM ต้องเจอศึกหนักกว่าที่คิดในวันนี้ ทีมบริหารต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อรักษาครอบครัวของเราไว้ ปรับแผนใหม่ทั้งหมด ยอมที่จะต้องตัดใจทิ้งบางอย่างออกไป รวมถึงเลื่อนการก่อสร้าง
ถ้ามองในมุมธุรกิจ หลายคนบอกว่าเราตัดสินใจผิด เพราะเราควรตัดค่าใช้จ่ายทิ้งให้มากที่สุดระหว่างที่ไม่มีรายได้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าด้วยว่าเราจะไม่มีรายได้แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่... เรารู้ และเข้าใจดีทุกอย่าง แต่เราไม่ทำ เราตัดสินใจยอมแบกรับภาระขาดทุนหลักล้าน เพื่อซื้อเวลาหาทางออกที่ดีกว่านี้่ให้กับทุกคน ทั้งหมดนั้นเพราะเหตุผลเดียว
เพราะเราไม่ได้สร้าง MTM ขึ้นมาเพื่อทำกำไรสูงสุด
แน่นอนเราเป็นธุรกิจและเราต้องการกำไร กำไรที่ทำให้เราพออยู่ได้ เพื่อไปทำภารกิจที่ใหญ่ที่สุดของเรา
“ช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยมวยไทย”
คำนี้ไม่ได้เป็นแค่สโลแกนสวยหรูเชิงการตลาด หรือพูดขึ้นมาลอย ๆ
แต่เป็นความเชื่อที่เรายึดถือมาโดยตลอด
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยึดโยงพวกเราทุกคนที่นี่ รวมไปถึงทุก ๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรา ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และเป็นเกณท์ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ของเราที่เกิดขึ้นตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ขัดต่อหลักการทางบัญชี และตัวเลข เช่น การบริจาคอุปกรณ์มวยให้กับทัณฑสถาน และค่ายภูธรตามที่ต่าง ๆ , การจัดกิจกรรมให้กับน้อง ๆ เด็กพิเศษ (ดาวน์ซินโดรม) ได้เรียนหลักสูตรมวยไทย ได้ออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ, ร่างกาย และจิตใจ แม้ในช่วงเวลาที่ยิมของเราปิด เราก็ยังคงสานต่อกิจกรรมนี้ผ่าน ZOOM ให้กับน้อง ๆ ทุกคน
รวมไปถึงบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อให้กับลูกค้าของเราถึงบ้าน และธุรกิจของพวกเค้า ในวันที่เชื้อโควิด 19 นี้ก็กำลังฆ่าเราอย่างช้า ๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้าวันนี้เราไม่ปรับตัวให้เร็วที่สุด เราอาจไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องพวกนั้นอีกต่อไป ถ้าเรายังเปิดยิมไม่ได้แบบนี้ เราจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดแน่นอน
และจะทำยังไงในเมื่อคนคือ ต้นทุนที่สูงที่สุดของเรา และโจทย์ของเราคือไม่ทิ้งใคร นี่เป็นเรื่องท้าทายที่ยากที่สุดที่เราเคยเจอมา
เราพยายามหาทางออก ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบทุกอย่าง เราให้พนักงานทุกตำแหน่งเขียนค่าใช้จ่ายส่วนตัว และภาระทางบ้านที่มีทั้งหมดลงบน Google Sheet เพื่อมาประกอบการตัดสินใจของทั้งบริษัท ให้กระทบทุกคนน้อยที่สุด
ก่อนที่เราจะคิดอะไรออก สิ่งแรกที่เราทำคือ เตรียม Worst Case Scenario (ซึ่งเราหวังว่าคงไม่ได้ใช้ แต่มีไว้มันอุ่นใจกว่า) ด้วยการหาบ้านเช่าที่ใหญ่พอจะให้ทุกคนมาอยู่รวมกันได้พร้อมข้าวสารอาหารแห้งให้ทุกคนกินอยู่ได้สบาย ๆ ต่อไปอีก 6-12 เดือน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
แต่ก็ได้แค่ความอุ่นใจ วิธีนี้ไม่ช่วยให้เราเดินได้ในระยะยาว มันจึงเป็นได้แค่ แผนสำรองฉุกเฉินเท่านั้น เรายังต้องหาวิธีอื่นต่อ และสุดท้ายเราก็หาวิธีที่จะไฟท์กับเรื่องนี้ได้ หลังจากคิดกันจนหัวแทบระเบิด เราเชื่อว่านี่คือทางที่ดีที่สุดและตัดสินใจเดินตามแผนนี้ทันที
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เราวิ่งหางานสำรองให้กับพนักงานทุกคน
ใช่ครับ... “เราหางานชั่วคราวให้กับพนักงานของเราทุกคนเป็นระยะเวลา 3 เดือน”
ตั้งแต่ครูมวย เทรนเนอร์ แม่บ้าน รวมไปถึงพนักงานออฟฟิศบางส่วน เราเริ่มหางานโดยอิงตามความถนัด และประสบการณ์รายบุคคล รวมถึงทักษะที่เราต้องการให้ทุกคนมีในเพิ่มในอนาคตให้มากที่สุด
วิธีนี้มีเป้าหมาย 2 อย่าง
ถึงแม้ว่างานใหม่ชั่วคราวที่น้อง ๆ MTM ทุกคนต้องไปทำมีฐานรายได้น้อยลง เพราะต้องอ้างอิงจากเนื้องานใหม่ แต่ส่วนต่างทั้งหมดนั้น MTM จะร่วมดูแลเพื่อให้ทุกคนได้รับเงินเดือนเท่าเดิม ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณหัวใจที่เสียสละของทีมงานระดับหัวหน้าทุกคน ที่ร่วมใจกันลดรายได้ของตัวเองลงตั้งแต่ 30-60% เพื่อนำมาเป็นส่วนต่างให้กับน้อง ๆ ทุกคน ยังไม่รวมถึงพี่ ๆ ผู้ใหญ่อีกหลายคนที่เรายังไม่มีโอกาสได้กล่าวถึง ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ช่วยให้พวกเราใช้วิธีนี้ได้สำเร็จเป็นอย่างดี
วันนี้เราหางานให้ทุกคนได้ครบแล้วครับ และน้อง ๆ จะเริ่มงานนี้ในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม มีกำหนดไปอีกสามเดือน
แผนนี้ทำให้ MTM ยังสามารถลงทุนตามแผนเดิมได้ ถึงจะทุลักทุเลไปบ้าง แต่ก็ทำให้พวกเราผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปพร้อมกันได้ โดยไม่มีใครต้องตกงาน และทุกคนจะได้กลับมาทำสิ่งที่รักอีกครั้งเมื่อ MTM เปิดทำการ 100% ภายใน 3 เดือนนี้อย่างแน่นอน
จริงอยู่ที่โควิด 19 เปลี่ยนทุกสิ่งภายในชั่วข้ามคืน แต่สิ่งเดียวที่มันเปลี่ยนไม่ได้ คือความเชื่อของพวกเรา
ระหว่างนี้ที่เรารอวันกลับมาเปิดยิมอีกครั้ง เราขอใช้โอกาสนี้ย้ายบ้านของพวกเราจาก สาขาพระราม 4 ไปยังบ้านใหม่ใกล้ ๆ เดิม เพิ่มเติมคือเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ติดทางออกประตู 2 MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่โครงการ The PARQ (หัวมุมถนนพระราม 4 ตัดถนนรัชดาภิเษก ตรงข้ามตึก FYI Center) เพื่อทุ่มทรัพยากรทุกอย่างที่เรามีไปที่นั่น รวมถึงการปรับ สาขา The Street รัชดา ของเรา ให้สมบูรณ์พร้อมทั้งสถานที่ และการบริการเพื่อรองรับวิถีการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด
เพื่อให้ชาว MTM ทุกคนสามารถกลับมาสนุกกับเราได้อย่างปลอดภัย และสบายใจที่สุด
แล้วพบกันที่ MTM สาขา The Street (มิถุนายน)
และ MTM สาขา The PARQ (กรกฏาคม) นี้ครับ!
(เร็ว ๆ นี้เราจะมีรูปแบบ 3D มาให้ทุกคนได้ชมกันนะครับ)
ขอขอบคุณจากใจครับ
MOOMTM
ผู้บริหาร และทีมงาน MTM ทุกคน
- ทำให้ MTM ประหยัดต้นทุนเงินเดือนไปได้ 3 เดือน (หลักล้านบาท) เพื่อลงทุนต่อ และทำธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นมา
- ทุกคนจะได้เรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมเพื่อเอามาปรับใช้กับธุรกิจใหม่ที่เราจะทำในอนาคต โควิด 19 ทำให้เราเห็นแล้วว่าทุกอย่างมันไม่แน่นอน และเราจะมีธุรกิจเดียวต่อไปอีกไม่ได้ คนที่เคยเชื่อว่าเก่งแค่อย่างเดียวก็พอวันนี้มันไม่ใด้แล้ว นับจากนี้เราจะเร่งสร้างตะกร้าใบที่ 2 ให้พนักงาน และองค์กรอย่างเร็วที่สุด
