นับตั้งแต่เพลง ‘One Sweet Day’ ของ มารายห์ แครี่ (Mariah Carey) และวง Boyz II Men ถูกปล่อยสู่หูคนฟังเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 1995 บทเพลงดังกล่าวได้กลายเป็นผลงานแห่งทศวรรษ 90s ของทั้งคู่ และทำให้อัลบั้ม Daydream ของมารายห์มียอดขายสูงกว่า 20 ล้านแผ่นทั่วโลก อีกทั้งตัวเพลงยังขึ้นไปครองอันดับหนึ่งบนชาร์ท Billboard Hot 100 ยาวนานที่สุดตลอดกาลอีกด้วย
เนื้อหาของเพลงถ้าฟังแบบผิวเผินอาจเป็นเพียงเพลงรักเศร้า ๆ ธรรมดาเพลงหนึ่ง แต่รู้หรือไม่เบื้องหลังของเพลงนี้แฝงไปด้วยเรื่องราวแสนเศร้า และเต็มไปด้วยความสูญเสียของทั้งมารายห์ และ Boyz II Men
จุดเริ่มของเพลงนี้มาจากมารายห์อยากจะอุทิศเพลงสักเพลงให้ เดวิด โคล เพื่อนของตัวเองที่เสียชีวิต ตอนนั้นเธอมีไอเดียเพียงแค่ทำนองในท่อนคอรัสเท่านั้น ก่อนต่อมาจะได้รับความช่วยเหลือจากโปรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง วอลเทอร์ อะฟานาเซียฟ (Walter Afanasieff) มาเนรมิตให้เพลงนี้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่ทั้งหลายทั้งปวงมันก็ยังไม่ตรงใจกับสิ่งที่มารายห์คาดหวังเอาไว้สักเท่าไหร่
เวลาเดียวกัน Boyz II Men ที่กำลังโด่งดังอย่างมากกับเพลง ‘End of the Road’ และ ‘I’ll Make Love to You’ ก็ต้องพบเรื่องน่าเศร้าเช่นกัน เพราะพวกเขาได้สูญเสียผู้จัดการทัวร์คนสำคัญอย่าง ร็อดเดริก “คาลิล” ราวนด์ทรี (Roderick Khalil Roundtree) จากการถูกยิงที่โรงแรมในชิคาโก โดยตำรวจสันนิษฐานว่าคาลิลเสียชีวิตเพราะการต่อสู้กับมือปืนเพื่อป้องกันเช็คค่าตัวของ Boyz II Men
การตายของคาลิลกลายเป็นคดีใหญ่ในตอนนั้น และส่งผลต่อสภาพจิตใจของวงอย่างมาก Boyz II Men ประกาศยกเลิกโชว์ที่เหลือของพวกเขาทั้งหมดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
[caption id="attachment_23670" align="aligncenter" width="1536"]
Boyz II Men[/caption]
“ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ในฐานะสมาชิกดั้งเดิมของ Boyz II Men เรามีอัลบั้มแรกที่ประสบความสำเร็จและมีทัวร์เยอะมาก อย่างไรก็ตามวันหนึ่งในชิคาโกได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาอันแสนยากลำบากของเรา เรายังเด็กมาก ๆ ในตอนนั้น อายุแค่ 16 และ 21 เท่านั้น แต่ชายที่ชื่อ คาลิล ราวนด์ทรี ได้กลายมาเป็นพ่อคนที่สองของพวกเราทั้งสี่
“เราทั้งสี่รวมถึงครอบครัวเชื่อใจเขาให้ดูแลพวกเราขณะออกทัวร์ และเขาก็ทำมันได้ดีมาก ๆ ตอนที่เรามีปัญหากับผู้จัดบางราย เขาก็คือคนที่แก้ปัญหาให้พวกเรา แต่ในค่ำคืนของวันต่อมาเขาก็ถูกยิงเสียชีวิตในลิฟต์ของโรงแรม และนั่นกลายเป็นวันที่เรารู้สึกสูญเสียที่สุดในอาชีพการเป็นนักร้อง” เนธาน มอร์ริส หัวหน้าวง Boyz II Men กล่าวถึงคาลิล
หลังงานศพของคาลิล ระหว่างการออกทัวร์ เนธานกับเพื่อนร่วมวงอีกสามคนได้เริ่มต้นเขียนเพลงให้กับคาลิล แต่จู่ ๆ วันหนึ่งเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก ทอมมี่ มอตโตล่า (Tommy Mottola) ผู้บริหารของค่ายโคลอมเบีย (สามีของมารายห์ในตอนนั้น) ทอมมี่ถามเนธานว่า เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะมาร่วมงานกับ มารายห์ แครี่ ซึ่งหลังวางสายจากผู้บริหารคนดัง สมาชิกทั้งสี่ก็มุ่งหน้าไปหามารายห์ที่สตูดิโอในนิวยอร์กทันที แน่นอนว่านี่กลายจุดเริ่มต้นของเพลง ‘One Sweet Day’
ณ สตูดิโอชื่อดังในนิวยอร์กอย่าง the Hit Factory ทั้งสองฝ่ายเริ่มแลกเปลี่ยนแนวคิดในการทำเพลงของตัวเอง ก่อนจะตกใจขั้นสุดเพราะเดโม่ทั้งสองเพลงมีหลาย ๆ อย่างที่เหมือนกันอย่างน่าประหลาด โดยมารายห์เผยว่าการได้ Boyz II Men มาร่วมงานเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปของเธอ
[caption id="attachment_23669" align="aligncenter" width="1536"]
มารายห์[/caption]
“เธอร้องเมโลดี้ในท่อนคอรัสให้เราฟัง มันน่าทึ่งมากเพราะมันคล้ายกับเพลงที่ผมเขียนอยู่ ผมบอกกับเธอว่าผมกำลังแต่งเพลงที่มีทำนองและเรื่องราวแบบเดียวกันเลย เราต่างเติมเต็มเพลงนี้ซึ่งกันและกัน และสุดท้ายมันก็ออกมาสมบูรณ์” เนธาน เล่า
มารายห์ได้นิยามเพลงนี้ว่าเป็นเพลงสำหรับการสูญเสีย “ไอเดียของเพลงนี้ทั้งหมดเกิดจากการสูญเสียคนที่คุณใกล้ชิด ซึ่งมันเปลี่ยนชีวิตและทัศนคติของคุณไปเลย”
‘One Sweet Day’ สร้างสถิติขึ้นไปครองอันดับหนึ่งบนชาร์ท Billboard Hot 100 ยาวนานที่สุดตลอดกาลกว่าสิบหกสัปดาห์ แต่น่าเสียดายที่เพลงดังกล่าวต้องมาอกหักจากการคว้ารางวัลบันทึกเสียงยอดเยี่ยมบนเวทีแกรมมี เมื่อปี 1996 โดยผู้ชนะในปีนั้นคือเพลง ‘Kiss from a Rose’ ของนักร้องชาวอังกฤษอย่าง ซีล
เนธานทิ้งท้ายว่า แม้เพลงจะโด่งดังมากเพียงใด แต่พวกเขาก็แทบไม่มีโอกาสได้หยิบเพลงนี้ขึ้นมาร้องเท่าไหร่นัก
“มันแย่นะที่เราไม่ได้แสดงได้มากอย่างที่หวัง เราเคยแสดงด้วยกันแค่สองครั้งเท่านั้นในอดีตน่ะ เราพยายามจะลองอะไรที่แปลกไปจากการแสดงเดิม ๆ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผล มีครั้งหนึ่งพวกเรา Boyz ll Men แสดงอยู่ห่างจากมารายห์ที่กำลังถ่ายทำ DVD สำหรับอัลบั้มของเธอแค่ไม่กี่บล็อค เราเลยตัดสินใจไปแจมกับเธอเลยทันที พวกเราขึ้นไปบนเวทีและร้องกับเธอ และอัดไว้สำหรับ DVD ด้วย
“มีหลายครั้งที่เราอยากเล่นเพลงนี้อีก แต่โชคไม่ดีที่มารายห์ไม่ว่างสำหรับพวกเราเลยตลอดระยะเวลา 10 หรือ 20 ปีนี่แหละ เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ มันก็เป็นอย่างที่ควรเป็นนั่นแหละ แต่เราหวังว่ามันจะไปได้ดีกว่านี้ เพลงที่มีพลังและยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ควรจะได้แสดงมากกว่าแค่ครั้งเดียว”
มารายห์ และ Boyz II Men ตัดสินใจร่วมกันว่าจะถ่ายภาพโปรโมทเพลงนี้ที่ลิฟต์แห่งหนึ่งในแอล เอ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคาลิล