18 มิ.ย. 2563 | 14:53 น.
คำกล่าวข้างต้นไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง ในยุคสมัยหนึ่งของอังกฤษเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงเป็นต้นแบบทางแฟชั่นให้กับสุภาพสตรีทั่วทั้งเมือง สื่อหลายสำนักต่างให้ความสนใจว่าการออกงานพระราชพิธีหรืองานสังสรรค์แต่ละครั้งจะสวมฉลองพระองค์แบบไหน หากพระองค์ไม่โดดเด่นและเฉิดฉายจริง ๆ ก็คงจะไม่มีใครหรือสื่อเจ้าไหนให้ความสนใจเจ้าหญิงมากขนาดนี้ เจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน (Princess Margaret, Countess of Snowdon) มีชื่อเดิมว่า มาร์กาเร็ต โรส ประสูติเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1930 ทรงเป็นพระธิดาของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 กับ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งยอร์ค เป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขคนปัจจุบันของสหราชอาณาจักร ก่อนซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของราชวงศ์อังกฤษของเน็ตฟลิกซ์เรื่อง The Crown จะทำให้คนทั่วโลกสนใจจับจ้องไปยังบุคคลที่มีตัวตนจริงในราชวงศ์อังกฤษมากกว่าเก่า เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตกลับได้รับความสนใจจากสื่อและประชาชนอยู่เสมอ พระองค์ทรงพระปรีชาด้านการเต้นบัลเล่ต์ เล่นเปียโน การขับร้อง สนใจเรื่องแฟชั่นและการแต่งตัว ไลฟ์สไตล์ความชอบของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตส่งให้พระองค์โดดเด่นทุกครั้งเมื่อไปเยือนงานสังคม ผู้คนต่างสนใจหญิงสาวชั้นสูงที่มีเสน่ห์ ร่าเริง ยิ้มเก่ง สร้างความรู้สึกเข้าถึงง่ายกว่าพี่สาว ทว่ายังสงวนท่าทีแบบชนชั้นสูง เมื่อเทียบกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน เป็นผู้สืบทอดลำดับหนึ่งเพื่อรับบัลลังก์ต่อจากบิดาที่เป็นพระมหากษัตริย์ ผู้คนต่างเห็นว่าบุคลิกของทั้งสองพระองค์ช่างต่างกันชัดเจนราวกับขั้วตรงข้ามเมื่อนึกถึงเจ้าหญิงที่มีพรสวรรค์ด้านแฟชั่น เป็นดาวเด่นในงานสังคม และทรงเสน่ห์กว่าใคร ๆ …คำตอบที่ได้คงหนีไม่พ้นเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต แห่งราชวงศ์อังกฤษ
“เอลิซาเบธคือความภูมิใจ แต่มาร์กาเร็ตคือความสุข” – สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร
เจ้าชายต่างเมือง ขุนนาง ไปจนถึงหนุ่มผู้มั่งคั่งที่มีโอกาสพบเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตต่างนิยมชมชอบพระองค์ แต่พระองค์กลับตกลงปลงใจกับทหารอากาศราชองครักษ์ของพระบิดาอย่าง ปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ ชายอายุมากกว่าเจ้าหญิงถึง 16 ปี ซ้ำยังเคยแต่งงานแล้วหย่ามาหนึ่งครั้ง พวกเขาต่างตกหลุมรักกันและวางแผนไปถึงขั้นแต่งงาน ทว่าชีวิตรักของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตต้องเจอปัญหาใหญ่ รัฐบาลและคริสตจักรแห่งอังกฤษไม่เห็นด้วยกับความรักของทั้งคู่ เนื่องจากคุณสมบัติของสุภาพบุรุษเคยหย่าร้างถือว่าไม่คู่ควรอย่างยิ่งกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ หากเจ้าหญิงมาร์กาเล็ตตัดสินใจแต่งงานกับนายปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ อาจถูกตัดสิทธิในการสืบราชสมบัติ ถูกตัดเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่าย ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นต้องไปอยู่ต่างประเทศ แม้พระองค์จะมีพระชนม์ 25 พรรษา แต่การตกลงแต่งงานกับชายที่ศาสนามองว่า ‘ไม่เหมาะสม’ จะส่งผลให้พระองค์เสียสิทธิทุกอย่างที่เคยมี การเตือนจากรัฐบาลและกลุ่มเคร่งศาสนา การละทิ้งบรรดาศักดิ์ ประกอบกับสื่อหลายสำนักตีข่าวซุบซิบชีวิตรักของพระองค์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายทางด้วยกัน มีทั้งเฉย ๆ ไม่สนใจ ไปจนถึงไม่เห็นด้วยที่พระองค์จะอภิเษกสมรสกับชายเคยหย่าร้าง เหตุผลทั้งหมดสร้างแรงกดดันให้เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตพอสมควร อีกหนึ่งความจริงที่คนสนิทในรั้ววังอาจไม่ได้แจ้งให้เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทราบ พระองค์สามารถแต่งงานกับทาวน์เซนด์โดยไม่ถูกตัดขาดจากราชวัง กลุ่มนักการเมืองกับข้าราชบริพารต่างจำฝังใจจากปี 1936 กับเหตุการณ์สละราชสมบัติของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เพื่อสมรสกับนางวอลลิส ซิมป์สัน หญิงม่ายที่หย่ามาแล้ว 2 ครั้ง แถมสามีเก่ายังคงมีชีวิตอยู่ เหตุผลหลายประการทำให้พระองค์ตัดสินใจไม่สมรสกับปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ จบความสัมพันธ์กับชายผู้เป็นรักแรก แม้ชีวิตรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่แล้วในที่สุดเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตก็พบรักครั้งใหม่กับช่างภาพหนุ่ม แอนโทนี อาร์มสตรอง-โจนส์ (Antony Armstrong-Jones) รักครั้งนี้ไม่ถูกกีดกันจากศาสนาหรือนักการเมือง นำสู่การจัดงานอภิเษกสมรสขึ้นในวิหารเวสต์มินสเตอร์ เดือนพฤษภาคม 1960 ถือเป็นครั้งแรกที่อังกฤษถ่ายทอดสดบรรยากาศพิธีสมรสของสมาชิกราชวงศ์ทางโทรทัศน์ พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานฐานันดรศักดิ์ใหม่เป็น เจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคานท์เตสแห่นสโนว์ดอน เหมือนอย่างปัจจุบัน แต่ไหนแต่ไรเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตเป็นสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์ที่ไม่ค่อยอยู่ในกรอบ พระองค์สูบบุหรี่ต่อหน้าสื่อและผู้คน โดยไม่สนว่าค่านิยมสมัยนั้นจะตำหนิผู้หญิงที่สูบบุหรี่ต่อหน้าคนแปลกหน้าในที่สาธารณะ การกล่าวสุนทรพจน์ที่ผิดแปลกจากคนอื่น ๆ แถมยังมีข่าวเกี่ยวกับความรักระหองระแหงกับสามีอยู่บ่อยครั้ง ท้ายที่สุดทั้งสองตัดสินใจหย่าในปี 1973 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ราชวงศ์อังกฤษ นับจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เคยหย่าร้างกับพระนางแคทเทอรีนแห่งอารากอน เมื่อประมาณ 400 ปีก่อน การหย่าของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตถือเป็นเรื่องใหม่ของราชวงศ์ หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ควงคู่กับชายหนุ่มอายุน้อยมากหน้าหลายตาให้สื่อตามเก็บภาพอยู่เสมอ นอกจากชีวิตรักที่น่าสนใจ เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตกลายเป็นไอคอนแฟชั่นให้กับสตรีอังกฤษยุค 50s สาว ๆ จำนวนไม่น้อยมักคอยดูข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ว่าฉลองพระองค์เป็นของแบรนด์ไหน รองเท้าส้นสูงสีอะไร แว่นตากันแดดเป็นทรงอะไร พระองค์สามารถหยิบไอเทมแฟชั่นมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้น่าประทับใจ [gallery size="large" link="none" ids="24086,24084,24088"] การปรากฏตัวแต่ละครั้งทำให้วัยรุ่นจนถึงสุภาพสตรีวัยทำงานแห่กันไปซื้อเสื้อผ้าเหมือนกับพระองค์ สร้างกระแสแฟชั่นให้กับเกาะอังกฤษ เมื่อไหร่ที่พูดถึงแฟชั่นของราชวงศ์ วลี “The Margaret Look” จะต้องอยู่ในบทสนทนาด้วยเสมอ ถึงแม้จะเป็นเจ้าแม่ของวงการแฟชั่น เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตไม่ได้มีแบรนด์แฟชั่นเป็นของตัวเองแต่อย่างใด ทว่าโด่งดังจากการรู้ว่าใส่อะไรแล้วสวย บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการกับช่างตัดเย็บส่วนพระองค์ นอกจากนี้ ยังทรงเป็นแฟนคลับตัวยงของคริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) แบรนด์แฟชั่นและเครื่องแต่งกายจากฝรั่งเศส ทำให้เมื่อพระองค์เสด็จไปไหนมักมีแฟนคลับกับคนคอแฟชั่นตามไปรับเสด็จเพื่อได้ยลโฉมด้วยตาตัวเอง แฟชั่นออกสื่อที่เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับการถูกจ้องมองผ่านสายตานับร้อย โดดเด่นจนถึงขั้นที่หนังสือพิมพ์อังกฤษเคยเขียนชมว่า “มีเสน่ห์เย้ายวน” และพระองค์ก็เคยเป็นข่าวดังโดยไม่ได้ตั้งใจ มีคนแอบบุกเข้าห้องพักของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตเมื่อเสด็จเยือนต่างแดน เพื่อดูว่ายาทาเล็บที่เจ้าหญิงเลือกใช้เป็นของแบรนด์อะไรสิ่งที่ยืนยันถึงพรสวรรค์ด้านแฟชั่นของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตคือกาลเวลา ดังเช่นปี 1960 เจ้าหญิงและแอนโทนีถูกเชิญไปงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งในลอนดอน เผยให้เห็นการแต่งตัวจัดจ้านดูดี สุภาพสตรีในงานเลี้ยงต่างมุ่งความสนใจไปยังชุดกระโปรงกระเป๋าใบเล็กของเจ้าหญิง ต่อมาปี 1970 เสด็จไปยังเกาะมัสติค (Mustique Island) แฟชั่นของพระองค์เข้ากับสถานที่และบรรยากาศของดินแดนเขตร้อน สวยงามมีชีวิตชีวาเสียจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์ Christopher Kane คอลเลกชัน Spring/Summer 2011 โดยใช้ชื่อว่า “Princess Margaret on acid” เพื่อให้เครดิตแก่เจ้าหญิงแห่งสหราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นสาวสังคมที่ดื่มสุราควบคู่กับการสูบบุหรี่จัด พระองค์ประชวรด้วยโรคตับอักเสบและมะเร็งปอดจนต้องตัดปอดออกหนึ่งข้าง ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องพระพลานามัย แต่เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตยังคงออกงานด้านสาธารณสุขกับพระราชพิธีต่าง ๆ แถมแฟชั่นในวัยกลางคนจนถึงวัยชราก็ยังคงน่าสนใจและเป็นตัวของตัวเองเช่นเคย เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตสิ้นพระชนม์เมื่อปี 2002 สิริพระชนมายุ 71 พรรษา แม้พระองค์จะมากด้วยข่าวฉาวและไม่ยอมอยู่ในกรอบ แต่คนส่วนใหญ่มักจดจำเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตว่าเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ทางด้านแฟชั่น มีไหวพริบในการตอบคำถาม กลายเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับวงการแฟชั่นจนถึงปัจจุบัน ที่มา https://www.marieclaire.com.au/princess-margaret-fashion-over-the-decades https://graziadaily.co.uk/fashion/shopping/princess-margaret-forgotten-fashion-icon-royal-family/ https://www.vogue.com/fashion-shows/spring-2011-ready-to-wear/christopher-kane https://screenrant.com/the-crown-hidden-details-princess-margarets-costume/ เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงเป็นแฟชั่นไอคอน มากด้วยเสน่ห์ นำความงามในรูปแบบฮอลลีวูดที่เป็นของใหม่มาสู่ราชวงศ์