เมื่อการประชุม จี-8 ต้องหยุด เพราะอังเกลา แมร์เคิล อยากดูบอลแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง
ใครที่เป็นแฟนฟุตบอลคงจะรู้ดีว่านัดชิงชนะเลิศของการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถือเป็นเกมใหญ่ที่สุดเกมหนึ่งในรอบปี แน่นอนว่ามันคือเกมที่แฟนฟุตบอลไม่ว่าจะทีมใดห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ย้อนกลับไปในปี 2012 อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ถือเป็นแฟนฟุตบอลตัวยง กลับต้องอดชมคู่ชิงปีดังกล่าว ระหว่างทีมประเทศตัวเองอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้เล่นในถิ่นอัลลิอันซ์อารีน ต้อนรับการมาเยือนของทีมอาคันตุกะจากลอนดอนอย่างเชลซี หลายคนอาจจะงงว่าระดับแมร์เคิล ทำไมถึงพลาดชมเกมดังกล่าว คำตอบก็คือวันนั้นเธอดันติดประชุมผู้นำจี-8 อยู่นั่นเอง
ช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2012 สถานการณ์ปัญหาในประเทศซีเรียทวีความตึงเครียดขึ้นทุกที นั่นจึงทำให้เหล่าผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 8 ชาติ หรือ จี-8 ต้องมาถกกันถึงปัญหาต่าง ๆ ที่แคมป์เดวิด รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งการประชุมนี้มีขึ้นวันและเวลาเดียวกันกับนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกพอดิบพอดี ทำให้แมร์เคิลที่ชอบตามเชียร์ทีมจากเยอรมนีต้องอดเชียร์ทีมเสือใต้ไปโดยปริยาย
แต่...เพราะความอยากดูจัดของเธอ สุดท้ายนายกฯ หญิงเหล็กก็ได้ดูสมใจอยาก เพราะหลังจากการประชุมเริ่มไปหลายชั่วโมง แมร์เคิลที่คอยแอบดูสกอร์การแข่งขันในไอแพดของตัวเองตลอด ก็เห็นว่าเกมคู่ดังกล่าวเพิ่งแข่งจบ 120 นาที และดูเหมือนว่าต้องมาชิงดำกันถึงการดวลจุดโทษ ทันใดนั้นเองเธอก็ตัดสินใจหันไปบอก บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฯ ขณะนั้นว่า “ฉันขอพักไปดูบอลก่อน”
โอบามาในฐานะเจ้าภาพก็ไม่รอช้า สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเตรียมทีวีและเปิดเกมคู่ดังกล่าวในห้องรับรองด้านนอกเพื่อให้แมร์เคิลออกไปดูบอล หลังจากนั้นโอบามาก็หันไปถาม เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ว่า “แล้วคุณไม่สนใจออกไปเชียร์ทีมบ้านเกิดตัวเองบ้างเหรอ” ซึ่งนายกฯ อังกฤษก็ตอบกลับมาว่า “โหย ไม่เอาอะ ดูไปทำไม เราไม่ชนะหรอก”
สาเหตุที่คาเมรอนตอบกลับไปแบบนั้น เพราะเขาเคยอกหักจากการเชียร์ทีมชาติอังกฤษแข่งกับเยอรมนีในศึกฟุตบอลโลก 2010 ระหว่างกำลังประชุมจี-20 ที่แคนาดา ซึ่งเกมนั้นจบลงที่ทีมสิงโตคำรามโดนถล่มไป 4-1
ขณะที่ผู้นำส่วนใหญ่กำลังลุ้นช่วงการดวลจุดโทษอย่างออกรสชาติ คาเมรอนที่ได้ยินเสียงกรี๊ดสุดลุ้นของแมร์เคิล สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวเดินออกไปร่วมเชียร์ทีมจากบ้านเกิดตัวเองบ้าง
งานนี้เหล่าผู้นำจี-8 หลายคนลุกขึ้นเชียร์ด้วยความลุ้นสุด ๆ นำทีมโดย แมร์เคิล, คาเมรอน, ฟรองซัวส์ โอลลองด์ (ประธานาธิบดีฝรั่งเศส) เจ้าภาพอย่างโอบามา รวมไปถึง ดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ที่แอบเชียร์เชลซี เพราะเจ้าตัวสนิทสนมกับ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมสิงโตน้ำเงินคราม
มีการรายงานว่าในจังหวะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางของทีมเสือใต้พลาดจุดโทษ แมร์เคิลถึงขั้นอุทานด้วยภาษาบ้านเกิดว่า "scheisse" หรือแปลว่า “ฉิบหาย” เลยทีเดียว ก่อนที่จังหวะต่อมา ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าของเชลซีจะสังหารจุดโทษปิดกล่องเข้าไป
ขอ recap เกมในวันนั้นสักเล็กน้อย โธมัส มุลเลอร์ โหม่งทำประตูให้ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียขึ้นนำไปก่อน 0-1 ก่อนที่ดร็อกบาจะโหม่งตีเสมอในเวลาต่อมา เกมวันนั้น เชลซีร่อแร่จะแพ้สุด ๆ เพราะช่วงต่อเวลาพิเศษ ดร็อกบาคนเดิมดันไปแซะขา ฟรองก์ ริเบรี่ จนทำให้ทีมเสียจุดโทษ แต่เดชะบุญที่ อาร์เยน ร็อบเบน ดันยิงทีมเก่าไม่เข้า จบ 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 และทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนเป็นเชลซีที่แม่นกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไปครองเป็นสมัยแรก
“มันน่าตื่นเต้นมาก มันคือสิทธิพิเศษเลยนะที่ได้ลุ้นระหว่างช่วงยิงจุดโทษกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แล้วสุดท้ายชนะด้วย” คาเมรอนให้สัมภาษณ์แอบขิงเล็กน้อย
หลังจบเกม แมร์เคิลแสดงความเป็นผู้แพ้ที่ดี เธอกับคาเมรอนสวมกอดกันเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปประชุมเครียดต่อโดยที่ไม่มีใครได้ดูพิธีการรับถ้วยหลังจากนั้น แม้คาเมรอนจะเป็นแฟนเดนตายของทีมแอสตัน วิลล่า แต่งานนี้ชัยชนะเหนือทีมจากเยอรมนีกลายเป็นความสุขเล็ก ๆ ของเขาตลอดช่วงการประชุมที่เหลือ
“มันเป็นช่วงเวลาที่เป็นมิตรมากเลย เรามีกอดกันแป๊บ ๆ หลังจากนั้นด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษอย่างมากในการดูช่วงจุดโทษระหว่างทีมจากอังกฤษกับเยอรมนี และผลลัพธ์ก็ออกมาด้วยชัยชนะ” คาเมรอนเล่า
นอกจากไฮไลต์เหตุการณ์พักการประชุมมาเชียร์บอลแล้ว หลังจากนั้นคำพูดที่คาเมรอนคุยกับแมร์เคิลเกี่ยวกับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี ก็กลายเป็นประเด็นร้อนในเวลาต่อมาด้วย
แมร์เคิลถามคาเมรอนว่า “จอห์น เทอร์รี่ ไม่ได้ลงเหรอ?” ซึ่งนายกฯ อังกฤษตอบว่า “ดีแล้วแหละ” ด้วยความสงสัย แมร์เคิลจึงถามกลับอีกว่า “อ่าว คุณไม่ชอบเขาเหรอ?” ซึ่งคาเมรอนก็ทิ้งท้ายว่า “เขา (เทอร์รี่) เคยพูดอะไรไม่ดีไว้”
หลายคนมองว่าเหตุผลที่คาเมรอนพูดถึงเทอร์รี่แบบนั้น เพราะไม่เห็นด้วยกับการที่เทอร์รี่ พูดเหยียดผิวใส่ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ เมื่อเดือนตุลาคนปี 2011