read
sports
17 ก.ค. 2563 | 16:24 น.
สูงสุดร่วงสู่สามัญ! นักกีฬาผู้เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพ แต่มาพังเพราะ “ตัวเอง”
Play
Loading...
นักกีฬา คืออาชีพที่ติดหนึ่งในห้าของอาชีพที่ทำเงินได้สูงสุดในโลก อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่ใช้ร่างกายเป็นองค์ประกอบหลักในการประกอบวิชาชีพ และต้องแลกมาด้วยการสึกหรอของร่างกาย อย่างไรก็ตาม แม้อายุการใช้งานจะที่น้อย แต่ผลตอบแทนที่ได้นั้นมหาศาล
ในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา เราอาจเคยเห็นภาพของนักกีฬาโนเนมสักคนที่วันหนึ่งชีวิตพลิกผันก้าวขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพได้ แน่นอนว่าเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นอาจจะเป็นเรื่องของความพยายามหรือโชคชะตา ขณะเดียวกันการอยู่บนจุดสูงสุดก็ใช่ว่าจะร่วงหล่นลงมาไม่ได้
เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นกับนักกีฬาชื่อก้อง เช่น ไทเกอร์ วูดส์ อดีตโปรกอล์ฟหมายเลขหนึ่ง แลนซ์ อาร์มสตรอง นักแข่งจักรยานอดีตเจ้าของแชมป์ตูร์ เดอ ฟร็องส์ รวมไปถึงยอดอัจฉริยะนักเตะอย่าง พอล แกสคอยน์ ซึ่งรายชื่อที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ชีวิตของพวกเขาในเวลาต่อมาต้องพบบทสรุปคล้าย ๆ กัน นั่นก็คือชีวิตที่สุดพัง ซึ่งความพังที่ว่านี้ก็มาจากน้ำมือพวกเขาเองทั้งนั้น และต้องใช้เวลานานกว่าพวกเขาจะฟื้นคืนกลับมาสู่จุดที่มั่นคงในชีวิตได้
ไทเกอร์ วูดส์ (Tiger Woods) นอกใจเมีย ติดเซ็กส์ จนชีวิตพัง
อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก ประสบปัญหามรสุมชีวิตอย่างหนักในช่วง 10 ปีหลัง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2017 วูดส์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองจูปิเตอร์ รัฐฟลอริด้าจับกุมข้อหาเมาแล้วขับรถ หลังเจ้าหน้าที่พบวูดส์นอนหลับหมดสติอยู่บนรถเบนซ์สุดหรูของตัวเอง แต่หลังจากตำรวจตรวจปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดของโปรกอล์ฟคนดัง กลับพบว่าโปรกอล์ฟรายนี้มีค่าแอลกอฮอลล์เป็นศูนย์ ซึ่งท้ายที่สุดก็มีการเปิดเผยว่าอาการมึนเมาของวูดส์มาจากผลข้างเคียงของการกินยาเพื่อรักษาอาการเจ็บหลัง
ช่วงนั้นอดีตเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ไม่ได้ลงเล่นกอล์ฟอาชีพมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 เพราะต้องเข้ารับการผ่าตัดที่แผ่นหลัง เขาต้องผ่าตัดถึง 4 ครั้งในรอบ 3 ปี จนต้องพักยาวมาแล้ว
ชีวิตของวูดส์ตกต่ำมาโดยตลอด นับตั้งแต่โดนเปิดเผยว่านอกใจภรรยาคือ เอลิน นอร์เดเกรน ไปคบชู้กับผู้หญิงอื่นกว่า 100 คน ชนิดที่ว่าต่อมาเขาต้องเข้ารับการบำบัดการเสพติดเซ็กส์และสุราอย่างจริงจังเลยทีเดียว หลังจากเรื่องฉาวทั้งหมด วูดส์มุ่งมั่นอย่างมากเพื่อทำให้ตัวเองกลับมาตีกอล์ฟได้อีกครั้ง เขาใช้เวลาร่วมปีหมดไปกับการทำกายภาพบำบัด และการฝึกวงสวิงให้กลับมาสุดยอดอีกครั้ง ในปี 2018 วูดส์ กลับมาลงแข่งอีกครั้งในรายการใหญ่อย่าง ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์เข้าวินคว้าแชมป์รายการดังกล่าวได้สำเร็จ
พอล แกสคอยน์ (Paul Gascoigne) นักบอลสายลำยอง กินเหล้าจนวินัยหลุด
แฟนบอลยุค 90s คงรู้จักอดีตกองกลางตำนานทีมชาติอังกฤษคนนี้ดี สำหรับแกสคอยน์ หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกเขาว่า “แกซซ่า” ถือเป็นกองกลางพรสวรรค์สูงที่สุดคนหนึ่งของลูกหนังแดนผู้ดี สร้างชื่อสมัยเป็นนักเตะของทีมท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ก่อนโด่งดังสุดขีดในยูโร 1996 หลังพาทีมสิงโตคำรามคว้าอันดับ 4 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เหตุใดมิดฟิลด์พรสวรรค์รายนี้ถึงไม่อาจขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของวงการลูกหนังโลกได้ คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือ “เขาติดเหล้า” แกสคอยน์มีอาการติดเครื่องดื่มมึนเมาอย่างหนัก บ่อยครั้งเขาแฮงก์จนไม่สามารถไปซ้อมได้ สุดท้ายก็โดนตัดตัวขายทิ้งตามระเบียบ
หลังแขวนสตั๊ด พอล แกสคอยน์ ต้องเข้าบำบัดการติดสุราหลายครั้ง มีช่วงหนึ่งเขาถูกสื่อจับภาพในสภาพสุดโทรม เกือบเปลือย มีเพียงเสื้อโค้ทคลุมตัว พร้อมขวดเหล้า บุหรี่ และยาแก้ปวด แกสคอยน์ติดทีมชาติอังกฤษ 57 ครั้ง ยิงไป 10 ประตู และไม่เคยได้ลงสนามในนามทีมชาตินัดที่ 58 อีกเลย เพราะพิษร้ายที่ชื่อว่า แอลกอฮอลล์
แม้ชีวิตจะดิ่ง แต่แกสคอยน์ยังใจสู้ ในปลายปี 2018 เขาประกาศเลิกเหล้าได้สำเร็จ และแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตช่วงเลวร้ายเพราะเหล้าให้ผู้คนในสถานบำบัดต่าง ๆ ได้ทราบ เพื่อเป็นแง่คิดและสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่เคยเผชิญวิกฤตอย่างเขา
ไมค์ ไทสัน (Mike Tyson) ห้าวจัด กัดหูซะเลย
ยอดนักมวยเจ้าของฉายา “มฤตยูดำ” กับสถิติชก 58 ชนะ 50 ชนะน็อก 44 แพ้ 6 อดีตเคยเป็นถึงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัย 20 ปี 4 เดือน ชีวิตของไทสันขึ้นสู่จุดสูงสุดและตกต่ำสุด ๆ เช่นกัน เขาถูกตัดสินโทษจำคุก 6 ปี จากคดีข่มขืน เดสิรี วอชิงตัน นางแบบผิวสีชาวสหรัฐฯ หลังถูกปล่อยตัว ไทสันสร้างปรากฏการณ์ให้โลกต้องจดจำเขาอีกครั้ง ด้วยการกัดเข้าไปที่ใบหูของอีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อดีตแชมป์โลก 3 สมัย โดยใบหูของโฮลีฟิลด์ถึงกับแหว่งและเลือดออกไม่หยุด ก่อนที่ในแมตช์นั้นไทสันจะถูกตัดสินให้แพ้ฟาว์ลตามระเบียบ
ชีวิตของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ถูกศาลฟ้องร้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย จากอดีตที่เคยมีทรัพย์สินรวมกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาไทสันพยายามหาทางปลดหนี้ให้ตัวเอง และหลังจากแพ้น็อก เควิน แม็กไบรด์ เมื่อปี 2005 เขาก็ไม่เคยกลับมาชกมวยอีกเลย
ไมเคิล วิค (Michael Vick) เปิดสนามหลังบ้านเป็นที่ให้หมากัดกัน สุดท้ายโดนเข้าคุก
อดีตควอเตอร์แบ็กจอมทัพของทีม แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ในลีกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล ถูกทีมเหยี่ยวดำดราฟต์เข้ามาเป็นอันดับหนึ่งของลีกเมื่อปี 2001 จากนั้นอีกแปดฤดูกาล เขาทำผลงานวิ่งทำทัชดาวน์ 21 ครั้ง ได้ระยะจากการวิ่งถึง 3,859 วิค ถือเป็นควอเตอร์แบ็กที่เด่นในเรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการถือบอลวิ่งเอง แน่นอนผลงานโบว์แดงขนาดนี้ ฟอลคอนส์ก็ไม่รอช้า ตบรางวัลด้วยการมอบสัญญา 10 ปี ค่าตัว 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขากลายเป็นนักอเมริกันฟุตบอลที่มีค่าจ้างแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
วิคยังมีรายได้เข้ามาอีกมากจากการโฆษณาให้ผลิตภัณฑ์กีฬาดัง ๆ อย่าง ไนกี้ หรือ รีบ็อก ซึ่งนี่คือช่วงชีวิตที่วิครุ่งสุดขีด แต่แล้วจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2007 วิคถูกตั้งข้อหาคดีทารุณกรรมสัตว์ และจัดให้มีการพนันแข่งสุนัขกัดกันผิดกฎหมาย ซึ่งเขาใช้บ้านพักของตัวเองเป็นสถานที่แข่งขัน สุดท้ายวิคยอมรับข้อกล่าวหา หลังถูกจำคุก 2 ปี เขากลับมาเล่นให้อีกหลายทีมในลีก จนกระทั่งปี 2016 เขาก็ตัดสินใจรีไทร์อย่างเป็นทางการ
แอรอน เฮอร์นันเดซ (Aaron Hernandez) นักเลงนอกสนาม สุดท้ายพบจุดจบในห้องขัง
ย้อนกลับไปในปี 2010 ทีมนักรบกู้ชาติอย่าง นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ สร้างเซอร์ไพรส์ในการดราฟต์ประจำปี ด้วยการเลือกปีกในดาวรุ่งมากพรสวรรค์อย่าง แอรอน เฮอร์นันเดซ เข้ามาเป็นอาวุธให้ยอดควอเตอร์แบ็คอย่าง ทอม เบรดี้ แน่นอนการดราฟต์เฮอร์นันเดซ ทำให้เพเทรียตส์ถูกสื่อตั้งคำถามถึงเรื่องพฤติกรรมความรุนแรงนอกสนามของเจ้าตัว ซึ่งทีแรก บิล เบลิเช็ค โค้ชที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยบที่สุดคนหนึ่งในลีก คิดว่าด้วยแนวทางของทีมในแบบ “Patriot Way” น่าจะดัดความดิบของเฮอร์นันเดซลงไม่มากก็น้อย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นอีกครั้งที่เบลิเช็คคิดผิด
ผลงานในสนามสุดปัง! เฮอร์นันเดซลงสนามผนึกกำลังกับปีกในดาวรุ่งรุ่นเดียวกันอย่าง ร็อบ กร็องคาวสกี้ (ที่ต่อมาก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ประจำทีม) ได้อย่างลงตัวสุด ๆ จนเขากับเจ้ากร๊องส์ ถูกยกให้เป็นหอคอยคู่สุดอันตราย แน่นอนว่าผลงานเนี้ยบเบอร์นี้ โรเบิร์ต คราฟฟ์ เจ้าของทีมไม่รอช้าเปย์สัญญาใหม่ 5 ปี มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้เฮอร์นันเดซพิจารณาทันที แต่แล้วหลังเฮอร์นันเดซเซ็นสัญญารับเงินก้อนโตเพียงไม่กี่วัน โลกก็ต้องพบกับเรื่องสุดช็อก เมื่อมีข่าวว่าเฮอร์นันเดซตกเป็นผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนฆาตกรรม โอดิน ลอยด์ แฟนหนุ่มของน้องสะใภ้ตัวเอง
เรื่องราวของเฮอร์นันเดซกลายเป็นที่สนใจของคนทั้งโลก เพราะนอกจากคดีฆ่าลอยด์แล้ว ในเวลาไล่เลี่ยกันเขาก็ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีกหนึ่งคดีในข้อหาฆ่าคนตาย เมื่อปี 2012 หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพิเศษบริสตอล เคาน์ตี้ ใช้เวลาสืบสวนไม่นานก็สามารถหาหลักฐานมัดตัวเฮอร์นันเดซได้สำเร็จ เฮอร์นันเดซถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีของลอยด์ ส่วนอีกคดีศาลตัดสินว่าเขาไม่มีความผิด
แต่แล้วในปี 2017 อยู่ดี ๆ เฮอร์นันเดซก็ตัดสินใจใช้ผ้าปูที่นอนแขวนคอตัวเองตายในห้องขัง โดยไม่ทิ้งแม้กระทั่งจดหมายลาตาย เรื่องราวของเฮอร์นันเดซถือเป็นข่าวฉาวที่สุดในวงการเอ็นเอฟแอล นับตั้งแต่คดีฆาตกรรมอดีตภรรยาและเพื่อนชายของภรรยาของโอ.เจ.ซิมป์สัน อดีตซูเปอร์สตาร์แห่งวงการอเมริกันฟุตบอล เมื่อปี 1994
แลนซ์ อาร์มสตรอง (Lance Armstrong) โด๊ปจนไม่เหลืออะไร
นักแข่งจักรยานชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์การแข่งขันตูร์ เดอ ฟร็องส์ ติดต่อกัน 7 สมัย ในช่วงปี1999-2005 ถือเป็นคนที่มีเส้นทางชีวิตไม่ต่างจากรถไฟเหาะ อาร์มสตรองเริ่มต้นสร้างชื่อตั้งแต่อายุยังน้อย เขาสามารถขึ้นไปเป็นแชมป์โลกแห่งวงการจักรยานได้ด้วยอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ผ่านจุดตกต่ำในชีวิตมาหลายครั้ง เขาถือเป็นยอดนักสู้คนหนึ่ง ผ่านการเอาชนะโรคร้ายอย่างมะเร็ง และกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่ กวาดแชมป์มากมาย จนถูกยกให้เป็นยอดนักปั่นตลอดกาลของโลก
แต่แล้วในเดือนมิถุนายนปี 2012 คณะกรรมการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐอเมริกา หรือ USADA ตั้งข้อกล่าวหาต่ออาร์มสตรอง ในการใช้สารกระตุ้นระหว่างแข่งขัน ต่อมาในเดือนสิงหาคมปีดังกล่าว USADA ประกาศสั่งห้ามอาร์มสตรองลงแข่งขันตลอดชีพ พร้อมกับริบตำแหน่งทั้งหมดที่เขาเคยได้รับ ส่งผลให้สหพันธ์จักรยานสากล ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแล ยืนยันคำตัดสินของ USADA ในการสั่งห้ามลงแข่งขันตลอดชีพและริบตำแหน่งทั้งหมดตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1998 ซึ่งรวมไปถึงแชมป์ตูร์ เดอ ฟร็องส์ ที่อาร์มสตรองเคยได้อีกด้วย มิหนำซ้ำสปอนเซอร์รายใหญ่ของเขาอย่างไนกี้ก็กลัวเสียชื่อแบรนด์ตัวเอง จึงตัดสินใจยกเลิกสัญญากับอาร์มสตรองที่ยาวนานกว่าหนึ่งทศวรรษทันที ทุกวันนี้อาร์มสตรองต้องใช้ชีวิตท่ามกลางการถูกตราหน้าว่าชนะเพราะโกง และเป็นสิ่งที่เขาต้องฝ่ามันไปให้ได้
อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) ซ้อมเมีย จนโดนฟ้องล้มละลาย
อดีตการ์ดจ่ายระดับตำนาน เจ้าของท่าครอสโอเวอร์อันโด่งดังของทีมฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส แห่งวงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอ หรือเจ้า “เอไอ” ไอเวอร์สันเป็นอัจฉริยะบาสเก็ตบอลที่ชีวิตส่วนตัวมีทั้งด้านสว่างที่คนรัก และด้านมืดที่คนเกลียด เขาโตมาพร้อมความยากจน ตามพื้นฐานชีวิตชาวอเมริกันผิวสีจำนวนไม่น้อยที่ต้องสู้ชีวิต สิ่งหนึ่งที่ไอเวอร์สันแสดงออกให้ทุกคนเห็นตลอดมาคือ ฝีมือการเล่นบาสเก็ตบอลที่มากไปด้วยพรสวรรค์ แน่นอนฝีมือระดับนี้ทำให้เขาถูกทีมฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ดราฟต์เข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ในปี 1996
ด้วยพรสวรรค์ที่เคยหลอกตัวระดับตำนานอย่าง แชค หรือ ไมเคิล จอร์แดน จนเสียฟอร์มมาแล้ว ทำให้เขาก้าวขึ้นไปเป็นยอดนักบาสด้วยเวลาอันสั้น แต่แล้วชีวิตนอกสนามของเจ้าเอไอก็สร้างปัญหาให้เขาอย่างหนัก ไอเวอร์สันเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทตั้งแต่สมัยเรียน และเคยซ้อมภรรยาจนขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว มีช่วงหนึ่งการเป็นพ่อคนทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น แต่หลังรีไทร์จากวงการยัดห่วง ชีวิตของไอเวอร์สันก็พังลงมาเรื่อย ๆ เขาถูกฟ้องหย่าในปี 2012 และตกอับถึงขั้นไม่มีเงินซื้อแม้กระทั่งชีสเบอร์เกอร์สักชิ้น
ตลอดชีวิตการเล่นอาชีพของไอเวอร์สัน เขาทำเงินได้มากถึง 154 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ ไอเวอร์สันกลับใช้เงินของเขาอย่างฟุ่มเฟือยด้วยการซื้อสิ่งของหรูหรา รวมไปถึงการหลงเชื่อลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ แม้เจ้าตัวจะมีดีกรีเป็นถึงตัวทีมชาติและฮอลล์ออฟเฟรม แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เขาปฏิเสธความจริงที่ว่า ปัจจุบันเขาถูกศาลตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย
นี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งของบทเรียนชีวิตที่ทำให้เรารู้ว่า ความสำเร็จมาคู่กับความไม่แน่นอนเสมอ การเลือกเส้นทางผิดแค่ก้าวเดียวก็นำพาไปสู่ความอิ๊บอ๋ายที่ไม่สิ้นสุดได้เหมือนกัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
แอมเนสตี้-ภาคประชาชนร่วมฉลองวันเกิด 69 ปีอัญชัญที่ถูกขังยาว 43 ปี
22 พ.ย. 2567
เจาะเบื้องหลังความสำเร็จ: ยูนิลีเวอร์กับความเป็นเลิศด้านการผสานข้อมูลและ AI ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
22 พ.ย. 2567
A5 เติบโตครบ 11 ปี พัฒนาโครงการต่อเนื่องรวมมูลค่ากว่า 16,800 ล้านบาท ภายในปี 2569
22 พ.ย. 2567
แท็กที่เกี่ยวข้อง
Sports
ไทเกอร์ วูดส์
พอล แกสคอยน์
ไมค์ ไทสัน
ไมเคิล วิค
แอรอน เฮอร์นันเดซ
แลนซ์ อาร์มสตรอง
อัลเลน ไอเวอร์สัน