"มาเถอะ คุณโฟรโด ผมแบกภาระแทนท่านไม่ได้ แต่ผมแบกท่านได้”
ความเป็น ‘เดอะ แบก’ ของ แซมไวส์ แกมจี หรือ ‘แซม’ ที่แบก โฟรโด แบ็กกินส์ เจ้านายของเขาขึ้นหลังแล้วพาเอาแหวนเอกธำมรงค์ไปทิ้งที่ปล่องภูเขาไฟเมาท์ดูม สร้างความประทับใจให้กับทั้งนักอ่านนิยายและผู้ชมภาพยนตร์ The Lord of the Rings เป็นอย่างมาก
แซมคือลมใต้ปีก ผู้สนับสนุนและประคับประคองโฟรโดไปทำภารกิจจนสำเร็จ แซมกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและเพื่อนแท้ของชีวิตที่ทุกคนอยากมี เขาไม่ใช่แค่เพื่อนหรือลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ที่พร้อมตายถวายชีวิตอย่างเดียว แต่เขายังเป็นเครื่องเตือนใจถึงสิ่งดีงามที่ยังคงเหลืออยู่ เมื่อโฟรโดท้อใจและถูกอำนาจแห่งแหวนเข้าครอบงำจนแทบครองสติไว้ไม่อยู่
“ผมรู้แล้วว่าทำไมผู้คนในเรื่องราวการผจญภัยเหล่านั้นมีโอกาสมากมายที่จะหันหลังกลับ แต่พวกเขาไม่ทำ พวกเดินหน้าต่อไป เพราะว่าเขามีบางสิ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว” แซมกล่าว
“แล้วมีสิ่งใดให้เรายึดเหนี่ยวอยู่หรือแซม?” โฟรโดถามกลับ
“ยังมีความดีอยู่บนโลกนี้ขอรับ คุณโฟรโด และมันคุ้มค่าที่จะสู้” แซมตอบ
คำตอบของแซมทำให้โฟรโดสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้ง เป็นข้อพิสูจน์ว่า แม้แซมไม่ได้มีพลังวิเศษอันใด แต่หัวใจของเขาคือทองคำ
[caption id="attachment_24365" align="aligncenter" width="710"]
'เดอะ แบก' เมื่อแซมแบกโฟรโดเพื่อไปทำภารกิจให้สำเร็จ (ภาพ:
https://www.camelotmagazine.com/camelot/2017/7/5/frodo-baggins-is-the-real-hero-of-lord-of-the-rings)[/caption]
‘แซมไวส์ แกมจี’ นี้มีที่มา
อาจจะเป็นการตั้งชื่อที่โหดร้ายไปหน่อย แต่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (J. R. R. Tolkien) นักประพันธ์ชั้นบรมครูของอังกฤษ ก็ตั้งชื่อเพื่อนผู้แสนดีของเราว่า แซมไวส์ (Samwise) แปลว่า halfwit หรือ คนโง่ ในภาษาอังกฤษเก่า (Old English หรือ OE) เพื่อแสดงบุกคลิกของเขาที่เป็นฮอบบิทบ้าน ๆ อวบอ้วนหน่อย ขี้กลัว และไม่ค่อยฉลาดเท่าไรนัก
โทลคีนเคยอธิบายไว้ในจดหมายที่เขาเขียนถึง คริสโตเฟอร์ โทลคีน ลูกชายของเขาว่า ที่มาของชื่อแซมไวส์ เพราะบิดาของเขาคือ ‘พ่อเฒ่าแกฟเฟอร์’ หรือชื่อจริงว่า แฮมฟาสต์ แกมจี โดยคำว่า hamfast ในภาษา OE แปลว่า stay-at-home หรือพวกติดบ้านไม่เคยไปเปิดหูเปิดตา แซมอาศัยอยู่กับพ่อที่แบ็กช็อตโรว์ ซึ่งอยู่ใกล้กับแบ๊กเอนด์ บ้านของตระกูลแบ็กกินส์ ซึ่งก็คือครอบครัวของโฟรโด และครอบครัวของแซมก็เป็นคนสวนประจำแบ๊กเอนด์มาตลอด ด้านนามสกุลแกมจี (Gamgee) โทลคีนเคยเผยว่า แต่เดิมเขายังไม่พอใจเท่าใดนักกับคำนี้ และอยากจะเปลี่ยนเป็น Goodchild แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยน และสุดท้ายแล้ว แซมไวส์ แกมจี คนนี้ก็กลายเป็นที่รักของผู้อ่าน ถึงขั้นที่ว่าแฟน ๆ ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษตัวจริงของเรื่องเลยทีเดียว
เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะแซมเป็นผู้ที่มีการเติบโตมากสุดของการเดินทาง จากจุดเริ่มต้นแค่ฮอบบิทคนสวนผู้อวบอ้วน สู่กำลังสำคัญของพันธมิตร เอาชนะสัตว์ร้ายอย่างแมงมุมชีล็อบ ต่อสู้กับเหล่าออร์คเพื่อช่วยชีวิตโฟรโด เขาครอบครองแหวนในเวลาสั้น ๆ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อปกป้องไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายชั่วร้าย และคืนมันให้กับผู้ได้รับมอบหมายอย่างชอบธรรมอย่างโฟรโดโดยทันทีไม่มีอิดออด โฟรโดซะเปล่าที่ถูกอำนาจแหวนครอบงำเข้าอย่างจัง ถึงขั้นดุด่าแซมอย่างหยาบคาย แต่คำร้ายเหล่านั้นก็ทำลายความจงรักภักดีของแซมที่มีต่อโฟรโดไม่ได้
แซมคือผู้ถือแหวนหนึ่งในสองคนที่มีการส่งมอบแหวนให้ผู้อื่นโดยเต็มใจ (คนอื่น ๆ มีการฆ่ากันตายเพื่อชิงมา) อีกคนหนึ่งคือ บิลโบ ผู้ส่งต่อให้โฟรโด (โดยมีการลังเลและอิดออดบ้าง) ส่วนแซมคืนแหวนให้โฟรโดอย่างไม่รีรอ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแม้แต่น้อย เขาคือผู้ถือแหวนเพียงคนเดียวของมิดเดิลเอิร์ธที่พลานุภาพร้ายแห่งเอกธำมรงค์มิอาจครอบงำ
ในหนังสือ The Letters of JRR Tolkien จดหมายของโทลคีน ที่รวบรวมโดย ฮัมฟรีย์ คาร์เพนเตอร์ โทลคีนระบุไว้ว่า “โฟรโดล้มเหลวในการเป็นวีรบุรุษ เนื่องจากแหวนได้ส่งอำนาจเหนือเขา และเขาไม่อาจต้านทานได้จนจบ” โฟรโดได้รับผลจากอำนาจแหวน เขาได้รับบาดแผลที่ไม่มีวันจางหาย จนสุดท้ายเมื่อเขาบันทึกการเดินทางของเขาเสร็จสิ้น จึงได้ส่งต่อหนังสือปกแดงให้แซม เพื่อบันทึกการผจญภัยของตนเองสืบต่อไป ซึ่งแซมก็ได้ทำหน้าที่ของเขาอย่างสมบูรณ์และใช้ชีวิตอย่างที่ควร ก่อนจะจากมิดเดิลเอิร์ธไปยังวาลินอร์ด้วยฐานะหนึ่งในผู้ถือแหวนอย่างเต็มภาคภูมิ
จดหมายจากแซม
คำยืนยันถึงความเป็นวีรบุรุษฮอบบิทของแซมนั้นมีเป็นลายลักษณ์อักษร จากการที่โทลคีนระบุว่า แซมไวส์ แกมจี คือคนดีศรีมิดเดิลเอิร์ธ ในการเขียนจดหมายตอบไปยัง แซม แกมจี ตัวจริง!!
เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนดั่งโชคชะตาฟ้าบันดาลนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 1956 โทลคีนได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากชายผู้ระบุว่าเขาชื่อ แซม แกมจี ซึ่งตัวเขาไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้ เพียงแต่ได้ยินเรื่อง The Lord of the Rings ซึ่งสมัยนั้นได้รับการดัดแปลงเป็นละครวิทยุ และเขาสงสัยว่าโทลคีนได้ที่มาของชื่อนี้มาอย่างไร เพราะชื่อของเขาค่อนข้างเฉพาะและไม่ค่อยมีใครเหมือน
โทลคีนได้ตอบจดหมายกลับไปในวันที่ 18 มีนาคม ว่า “ถึงคุณแกมจี รู้สึกเป็นเกียรติมากที่คุณเขียนถึงผม คุณคงนึกออกว่าผมประหลาดใจมากแค่ไหนเมื่อผมเห็นลายเซ็นของคุณ ผมได้แต่หวังว่าคุณจะสบายใจได้ ว่า “แซม แกมจี” ในเรื่องราวของผมนั้นเป็นตัวละครที่เป็นวีรบุรุษที่สุด และตอนนี้เป็นที่รักของผู้อ่านจำนวนมาก แม้ว่าเขาจะมีต้นกำเนิดที่ไม่ดีนัก หวังว่าคุณจะไม่ถือสากับความบังเอิญในการตั้งชื่อตัวละครในจินตนาการ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในอดีตเมื่อหลายศตวรรษก่อนหน้านี้ มีชื่อเดียวกับคุณนะครับ”
จากนั้นโทลคีนยังอธิบายถึงที่มาของ ‘แกมจี’ ที่เขานำมาใช้ว่า นำมาจากการที่เขาอาศัยอยู่ที่เบอร์มิงแฮม ซึ่งสมัยนั้นเรียกผ้าก๊อซหุ้มสำลีปลอดเชื้อว่า แกมจี มาจาก Gamgee Tissue วัสดุที่ใช้ในทางการแพทย์ ที่คิดค้นขึ้นโดยด็อกเตอร์ แซมพ์สัน แกมจี ศัลยแพทย์แพทย์ในเบอร์มิงแฮม ผู้ใช้ชีวิตระหว่างปี1828-1886 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า แซม แกมจี ของเขาจะได้ชื่อมาจากนายศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจ แต่แซมของเขาคือแซมไวส์ หาใช่แซมพ์สันหรือแซมมูเอล ในจดหมายโทลคีนยังขอบคุณที่ แซม แกมจี สนใจงานของเขา จึงเสนอว่าหากไม่รังเกียจ เขาจะส่งหนังสือทั้งสามเล่มพร้อมลายเซ็นไปให้ ในฐานะของขวัญสำหรับตระกูลแกมจีอีกด้วย
[caption id="attachment_24366" align="aligncenter" width="640"]
แซม โฟรโด และกอลลัม (ภาพ:
https://indianexpress.com/article/entertainment/hollywood/the-struggle-to-make-lord-of-the-rings-two-towers-5882916/)[/caption]
วีรบุรุษตัวจริงหรือเปล่า?
แม้ว่าทั้งโทลคีนและแฟนคลับจะยกให้ แซมไวส์ แกมจี คือวีรบุรุษตัวจริงแห่งมิดเดิลเอิร์ธ แต่เมื่อ สตีเฟน โคลแบร์ พิธีกรชื่อดังผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคลับ The Lord of the Rings ชั้นเอกอุ ถาม ฌอน แอสติน ผู้รับบทแซมในเวอร์ชันภาพยนตร์ ในรายการ The Late Show with Stephen Colbert ปี 2017 ว่า เขาคิดว่า แซมเป็นวีรบุรุษตัวจริงของเรื่องหรือไม่ แอสตินตอบว่า
“ผมคิดว่าไม่ว่าจะกี่ร้อยล้านปี แซมคงไม่มีวันอยากเป็นฮีโร่ในเรื่องราวนั้นหรอกครับ เพราะงั้นผมคงคิดว่าไม่ แต่ผมมีตัวละครโปรดอยู่สองตัวนะ นั่นก็คือกอลลัม ไอ้ตัวเหม็นที่ชอบด่าว่าผม ว่าไอ้ฮอบบิทอ้วนโง่เง่า เป็นตัวละครที่น่าสนใจกว่า และอีกตัวคือทรีเบียร์ด ผมรักทรีเบียร์ด เพราะในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ถ้าคุณเดินไปในอังกฤษ คุณต้องเจอกับปล่องพ่นควันไฟอยู่เสมอ ประชาชนต่างต้องทนกับปัญหาโรคปอด แล้วโทลคีนก็สร้างตัวละครต้นไม้เหล่านี้ขึ้นมา เจ้าต้นไม้เชื่องช้า ทั้งเคลื่อนไหวช้า พูดช้า คิดช้าพวกนี้ แต่แล้วจู่ ๆ พวกมันก็ลุกขึ้นสู้เพื่อป่าไม้อย่างน่าทึ่ง ผมรักไอเดียที่ว่า ไม่ว่ามนุษย์จะไปยุ่มย่ามเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน แต่ธรรมชาติไม่เคยแคร์ พวกมันจะลุกขึ้นและปกป้องตัวเองเมื่อถึงเวลา”
คำตอบของ ฌอน แอสติน ได้ใจแฟนคลับ The Lord of the Rings ไปเต็ม ๆ เพราะเขาตอบได้สมกับเป็น ‘แซม’ ที่สุด คนสวนผู้รักสงบจากไชร์ แซมผู้ไม่เคยคิดที่จะได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษผู้กู้มิดเดิลเอิร์ธ เขามองตัวเองว่าเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของการเดินทางครั้งนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวที่โดดเด่นในการเดินทางของพันธมิตรแห่งแหวน ทุกคนต่างมีภาระและหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบแตกต่างกันไป
เช่นเดียวกับคำกล่าวว่าทุกคนต่างเป็น ‘ตัวเอก’ ในเรื่องราวของตนเอง ใน The Lord of the Rings หากวิเคราะห์ดูแล้ว ในพันธมิตรแห่งแหวน ทุกคนล้วนเป็นวีรบุรุษ ขึ้นอยู่กับว่าจะมองจากมุมมองใด และจากเรื่องราวของใคร ทั้งหมดมาประสบพบกันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ และพวกเขาก็ทำมันได้ บ้างก็เสียชีวิต บ้างได้เป็นกษัตริย์ บ้างก็บาดเจ็บจนเกินรับไหว
แต่สำหรับแซมแล้ว เขาคือตัวละครที่ผู้ชมและผู้อ่านเข้าถึงได้มากที่สุด เพราะเขาคือผู้ที่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ เพื่อที่จะหวนคืนสู่ ‘บ้าน’ และความสงบสุขของเขานั่นเอง
ที่มา
Sean Astin Knew Nothing About 'Lord Of The Rings' Once Upon A Time
https://www.youtube.com/watch?v=Rq9-mW6HgQE
https://medium.com/@kelsilynelle/analysis-of-heroism-in-lord-of-the-rings-an-essay-881fa04bd5ed
https://apilgriminnarnia.com/2017/06/29/letter-from-sam-gamgee/
https://www.thevintagenews.com/2017/11/21/j-r-r-tolkien-named-the-kind-and-protective-hobbit-samwise-gamgee-after-a-pioneering-british-surgeon/
เรื่อง: เพจผู้ชายคนนั้นจากหนังเรื่องนี้