17 ก.ค. 2563 | 17:06 น.
หลายสิบปีที่ผ่านมา ทุกพื้นที่บนโลกต่างต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางการเมือง บางประเทศต้องจมอยู่กับระบบเผด็จการกว่า 20 ปี หลายประเทศเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นแบบสาธารณรัฐ บ้างก็เปลี่ยนไปเป็นคอมมิวนิสต์ ทว่าประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาใต้กลับเดินย้อนกลับหลัง เปลี่ยนการปกครองให้กลายเป็นแบบจักรวรรดิ เพียงเพราะอยากสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ประเทศเจ้าอาณานิคมหลายแห่งต้องยอมปลดปล่อยประเทศเป็นอิสระ รวมถึง สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic-CAR) ถูกปลดปล่อยในปี 1960 หลังได้รับอิสรภาพจากการตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสได้ไม่นาน ใคร ๆ ต่างมุ่งหวังจะเห็นชนพื้นเมืองดูแลกันเอง พยายามผลักดันทำประเทศให้ทันสมัย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกคน ทว่าการมุ่งไปข้างหน้าของแอฟริกากลางกลับต้องหยุดชะงักไปนับสิบปีด้วยชายบ้าอำนาจเพียงคนเดียว ณ็อง เบเดล โบกัสซา (Jean-Bedel Bokassa) ผู้เคยเป็นนายทหารสังกัดกองทัพฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านสนามรบใหญ่ทั้งสงครามโลก สมรภูมิแอลจีเรีย และสงครามอินโดจีน จึงได้รับสัญชาติฝรั่งเศส พอฝรั่งเศสปลดปล่อยแอฟริกากลาง โบกัสซาจึงกลับมาทำงานยังบ้านเกิด ไต่เต้าขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ การก้าวสู่ความสำเร็จในอาชีพของเขาส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประธานาธิบดี เดวิด ดัคโก (David Dacko) ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขาอย่าถามหาเหตุผลกับคนบ้าที่ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ
ซ้อมเด็กไร้เดียงสา
และกินเนื้อคนอย่างโบกัสซาเลย