20 ก.ค. 2563 | 18:33 น.
ประโยคชวนให้ขบคิดเบื้องต้นเขียนโดย โธมัส เพน (Thomas Paine) เป็นส่วนหนึ่งในบทความนามว่า ‘สามัญสำนึก’ (Common Sense) เอื้อนเอ่ยถึงปัญหาการเมืองการปกครองอังกฤษที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว (ค.ศ. 1776) รวมถึงปัญหาระหว่างชาวอาณานิคมอเมริกาผู้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังโลกใหม่เพื่อแสวงหาโอกาสทางชีวิตที่ดีกว่า แต่รัฐบาลอังกฤษที่เชื่อมโยงกับระบอบกษัตริย์อย่างแยกไม่ออก กลับไม่ได้มองชาวอาณานิคมว่าเป็นบุคคลที่ต้องดูแลเอาใจใส่เท่าไหร่นัก โธมัส เพน เป็นหนึ่งในชาวอังกฤษจำนวนมากที่เดินทางมายังดินแดนอเมริกา แม้เขาจะไม่ได้มาพร้อมกับคนกลุ่มแรก ๆ แต่เมื่อเดินทางมายังอาณานิคมเพนซิลเวเนียที่เต็มไปด้วยกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายเควกเกอร์ พบเจอกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติแต่อยู่ด้วยกันอย่างสันติ กลุ่มกระฎุมพีและช่างฝีมือที่พยายามผลักดันให้สังคมมองว่าความเท่าเทียมเป็นเรื่องธรรมดา แถมยังก่อเกิดแนวคิดประชาธิปไตยในชุมชน เกิดการตั้งโรงเรียนที่ไม่เชื่อมโยงกับศาสนา เพนซึ่งเป็นชายที่เพิ่งมาจากอังกฤษก็ได้มองเห็นพร้อมกับรับฟังแนวคิดสมัยใหม่อันน่าสนใจในอาณานิคมแห่งนี้ เมื่อรัฐบาลอังกฤษมีปัญหาเรื่องเงินทอง พวกเขาส่งข้อความข้ามน้ำข้ามทะเลมายังอาณานิคมอเมริกา แจ้งเก็บภาษีหลายประเภท ทั้งการนำเข้าน้ำตาลที่ทำให้ธุรกิจเหล้ารัมหลายเจ้าล้มละลาย กระดาษ แก้ว ใบชา แสตมป์ รวมถึงการออกพระราชบัญญัติเดินเรือหลายต่อหลายฉบับ ทำให้อังกฤษเป็นผู้ค้าเพียงเจ้าเดียวที่สามารถซื้อ-ขาย กับชาวอาณานิคมอเมริกาอย่างถูกกฎหมาย การบีบบังคับรีดไถมากจนเกินไปเริ่มก่อให้เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างรัฐบาลอังกฤษและชาวอาณานิคมอเมริกามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่มีมนุษย์คนไหนพึงมีสิทธิยกยอตระกูลตัวเองถาวรเหนือคนอื่นตลอดไป แม้คนรุ่นก่อนอาจสมควรถูกยกย่องนับถือพอประมาณ แต่ลูกหลานของเขาอาจหล่นไกลต้นเกินกว่าจะถูกนับถือ เพราะเหตุใดทำไมถึงมีคนกลุ่มหนึ่งเกิดมาพร้อมกับอภิสิทธิ์ต่าง ๆ และสูงส่งแตกต่างจากมนุษย์ผู้อื่นราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่’
สิ่งที่เพนย้ำเสมอในจุลสารการเมือง ‘สามัญสำนึก’ คือความผิดปกติของการสืบทอดบัลลังก์ทางสายเลือดของระบอบกษัตริย์ เขายกตัวอย่างน่าสนใจอย่างกรณีของดินแดนอิสราเอล ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้วบนแผ่นดินที่ประชาชนถูกกดขี่ มีนักรบมากความสามารถคนหนึ่งพากองกำลังขับไล่คนพาลออกไป ชาวบ้านจึงศรัทธาถึงขั้นเชื้อเชิญให้เป็นกษัตริย์ ทั้งยังบอกอีกว่านอกจากตัวท่านที่จะได้ปกครองพวกเรา บุตรชายของท่าน บุตรชายของบุตรชายของท่าน บุตรชายของบุตรชายของบุตรชายของท่าน ก็จะได้ปกครองชาวบ้านต่อไปเรื่อย ๆ ข้อเสนอน่าสนใจไม่ได้ให้แค่บัลลังก์ ทว่าเอื้อประโยชน์ให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานสืบไปสุดแสนจะเย้ายวนใจ เพราะความกระหายต่ออำนาจคือโรคร้ายทางธรรมชาติที่อยู่คู่กับระบอบกษัตริย์มาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม นักรบกลับคิดว่าชาวบ้านพวกนี้ไม่มีสิทธิมอบเกียรติยศดังกล่าวให้แก่เขา การยกใครสักคนขึ้นเป็นกษัตริย์ถือเป็นเรื่องใหญ่มากเกินการตัดสินใจของคนกลุ่มเดียว หรือคนจากยุคสมัยเดียวที่จะพรากสิทธิของคนรุ่นถัดไป การขึ้นเป็นใหญ่จากการเชื้อเชิญของคนบางกลุ่มเป็นเพียงแค่กรณีแรกเท่านั้น ยังไม่รวมถึงการขึ้นมาเป็นใหญ่ด้วยการจับสลาก เลือกตั้ง หรือการยึดอำนาจของต้นตระกูล ล้วนเคยเกิดขึ้นจริงบนโลก โธมัส เพน บรรยายถึงการมีอยู่ของกลุ่มการเมืองเก่า ๆ และระบอบกษัตริย์ว่า “ฉันทาคติที่ชาวอังกฤษมีต่อรัฐบาล กษัตริย์ ขุนนาง สามัญชน เกิดจากความหยิ่งทะนงในความเป็นชาติมากกว่าการใช้เหตุผล” ในรัฐบาลสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หากวันหนึ่งประชาชนทนทุกข์ พวกเขาจะรู้ทันทีว่าต้นตอความทุกข์นั้นมาจากไหน ความโอหังของกษัตริย์นำมนุษยชาติพบเจอกับความอลหม่าน แต่ระบบการเมืองและรัฐธรรมนูญอันซับซ้อนของอังกฤษสร้างความสับสนแก่ประชาชน พวกเขาจะต้องทนทุกข์หลายปีขณะพยายามหาว่าความบกพร่องเกิดจากจุดไหน จนวันหนึ่งความหิวโหยกับชีวิตย่ำแย่จะทำให้ผู้คนยอมละทิ้งหน้าที่การงานของตัวเองเพื่อทำบางสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น เพนยังได้แสดงความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับการเมืองอังกฤษเพิ่มเติมว่า สังคมอังกฤษและอาณานิคมอเมริกามีผู้คนหลากประเภท บางคนยอมก้มหัวด้วยความกลัว อีกกลุ่มหนึ่งก้มหัวเพราะความงมงาย เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเปิดโปงอดีตอันน่าอดสูของกษัตริย์รุ่นก่อนแรกเริ่ม ถ้ายังมีใครอ่อนหัดจนหลงเชื่อ ก็ปล่อยให้เขาเชื่อต่อไป เขาไม่คิดรบกวนการบูชากษัตริย์ของคนกลุ่มนั้น และตัวเขาเองก็จะไม่ลอกเลียนแบบการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอนกษัตริย์มีหน้าที่สร้างความยากจนให้ประเทศ
สร้างความขัดแย้งบาดหมางแก่ประชาชน
ช่างเป็นภารกิจดีงามสำหรับคนที่ได้เงินมากถึงปีละแปดแสนปอนด์
แถมยังถูกเทิดทูนบูชาอีกต่างหาก
- โธมัส เพน