01 ส.ค. 2563 | 17:23 น.
สัมภาษณ์ สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ถอดรหัส “Make Living Great Again” ค้นหาความหมายของชีวิต และรู้ว่าวันนี้อยู่...เพื่ออะไร
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภาพแห่งความทุกข์ และการใช้ชีวิตที่ไร้ซึ่งจุดหมายของคนจำนวนมาก กลายเป็นภาพที่สะท้อนให้เราเห็นจนชินตาในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ชีวิตที่ไร้ซึ่งความหมายของชีวิต นำพาให้หลายคนหลงผิด หรือต้องตกอยู่ในภวังค์ของสิ่งที่เรียกว่า “ความทุกข์” การสร้างเกราะป้องกันทางจิตใจกลายเป็นประตูบานใหญ่ที่จะนำเราไปสู่ การค้นหาความหมายของชีวิต และเข้าใจ เรียนรู้ว่าวันนี้เราอยู่...เพื่ออะไร
วันนี้ The People ได้มีโอกาสนั่งคุยกับ สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ชายผู้มาพร้อมแนวคิดการสร้างแรงบันดาลใจท่ามกลางวิกฤตที่เข้ามาเปลี่ยนโลก และกระบอกเสียงสำคัญที่จะมาถอดรหัสความหมายที่แท้จริงของแคมเปญ “Make Living Great Again” ในการสร้างความหมายของชีวิต ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกคร้ัง
The People: จุดเริ่มต้นของแคมเปญ “Make Living Great Again”
สรรพสิทธิ์: สำหรับ เอพี เรา จริง ๆ แล้วความสำคัญของจิตใจมีความสำคัญพอ ๆ กับ quality ของบ้านที่เราสร้างเลย เราตื่นขึ้นมา เราคิดว่าเราผ่านจุดที่น่าจะแน่นอนแล้ว จุดที่ความเปลี่ยนแปลงมันไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว แต่มันก็เกิดขึ้นอีก เราอยู่ในวันที่มันไม่มีอะไรที่แน่นอนเลย สิ่งที่สังคมต้องการที่สุดในวันนี้ก็คือเกราะป้องกันทางจิตใจ อันนี้คือที่มาของการมีแคมเปญ “Make Living Great Again”
แล้วในสภาวะปัจจุบันที่ไม่มีความแน่นอนอยู่เลย วัตถุประสงค์ของแคมเปญนี้ก็คือการที่เราอยากที่จะ empower ภาวะจิตใจของคน เพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจให้เขามีความกล้าที่จะเดินต่อไป หาเป้าหมายของชีวิตตัวเอง กล้าที่จะยังคงใช้ชีวิตต่อไปอย่างมุ่งมั่นเข้มแข็ง และรู้ว่าตัวเองอยู่เพื่ออะไร
The People: ความหมายของคำว่า “Great” ในนิยามของ เอพี
สรรพสิทธิ์: คำว่า great ในที่นี้ของเราไม่ได้หมายถึง glory ไม่ได้หมายความยิ่งใหญ่ อภิมหาความยิ่งใหญ่ แต่เราหมายถึงการเดินหน้าต่อไปด้วยความสมดุล การเดินหน้ามุ่งหาเป้าหมายด้วยความเข้มแข็ง สิ่งที่สำคัญที่สุดของแคมเปญนี้ก็คือการที่เราบอกทุกคนที่ล้มอยู่ว่าคุณไม่ได้เป็นแค่คนเดียวนะ วันนี้ถ้าใครที่ล้มอยู่ บางทีหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของคุณก็คือไม่ใช่ลุกขึ้นมา ถ้าคุณติดลบอยู่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณขึ้นมาที่ 0 ก่อน คือลุกเข้ามาตั้งหลักก่อน คุณไม่จำเป็นต้องขึ้นมาที่เลข 2 เลยจาก -3 การตั้งหลักให้ stable ที่สุดอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณมอบของขวัญให้กับตัวเองได้
message ที่ เอพี บอกในเนื้อเพลงที่ประกอบแคมเปญนี้ (‘เคลียร์อยู่’) ก็จะมีบอกว่า “วันเวลายังคงตั้งคำถาม” จริง ๆ สำคัญที่สุดก็คือว่าเรารู้เป้าหมายของตัวเองก่อน ถ้า once เมื่อเรารู้เป้าหมายแล้วเราเริ่มเดินต่อไป อุปสรรคใหญ่แค่ไหน เราน่าจะท้อได้ยากมาก
The People: “กำลังใจ” หนึ่งในกุญแจสำคัญของการค้นหาความหมายของชีวิต
สรรพสิทธิ์: แคมเปญนี้เราไม่อยากจะแค่ให้กำลังใจในการที่บอกว่าแล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน จริง ๆ เราให้กำลังใจหลายอย่างมากในแคมเปญ เราให้กำลังใจในการบอก brand thought ของเราก่อนว่า หนึ่ง-เราเป็นกำลังใจให้ เราบอกวิธี แล้วเราก็มีกิจกรรมที่ออกมาส่งเสริมวิธีการที่จะช่วยกันให้ move on และเดินก้าวต่อไป
จริง ๆ คำว่าการให้กำลังใจมันเป็นคำที่...ลึกซึ้งนะ เวลาที่จะพูดบอกคนว่าเฮ้ยสู้ ๆ นะ (เฟรดริช) นิทเช ซึ่งเป็นนักปราชญ์คนหนึ่งเคยบอกว่า “He who has a why to live for can bear almost any how” หมายถึงว่าถ้าคนคนนั้นรู้ว่าอยู่เพื่ออะไรเขาสามารถทนได้ทุกอย่าง จะเจอสถานการณ์อะไร จะลำบากแค่ไหน แต่ถ้าเขารู้ว่าเขาอยู่เพื่อใคร หรือวัตถุประสงค์เป้าหมายคืออะไร มันจะยากแค่ไหนมันทนได้แน่นอน
The People: เรียนรู้อะไรจากวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา
สรรพสิทธิ์: วันนี้ global sentiment ของคำว่า New Normal เป็นลบนะ ค่อนข้างเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากที่จะอยู่กับสิ่งนั้น อยากที่จะกลับไปอยู่ในโลกเดิม เพราะว่า New Normal มันบอกกล่าวถึงทั้งความกลัว ความวิตกจริต การที่จะต้องใช้ชีวิตที่มันไม่เหมือนเดิม มันมีความอึดอัด มันไม่ได้เป็นวิถีชีวิตเชิงบวก แต่แน่นอนว่าในแง่ของ attitude ที่เราต้องการสื่อสารผ่านแคมเปญนี้ เราอยาก encourage ให้ทุกคนออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ต่อให้จะเจอกับปัญหาหรืออุปสรรค์อะไร ชีวิตมันสั้น เราต้องอยู่ต่อเพื่อทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม การอยู่เพื่อได้ทำหลาย ๆ สิ่ง
เราทุกคนไม่เคยเห็นปรากฏการณ์นี้มาก่อน ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ที่ครึ่งหนึ่งของสื่อที่เราอ่าน ไม่ได้มาจากสื่อ ทั้งหมดมาจากคนสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เหมือนกับว่าทุกคนมีความอึดอัด มีความอยากที่จะแชร์อะไรบางอย่างออกมา มีความรู้สึกว่าอยากที่จะเชื่อมเข้าหากัน ด้วยสถานการณ์บางอย่างที่มันถูกกดเอาไว้ ก็เป็นปรากฏการณ์อันหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นได้
The People: มองโลกให้บวกขึ้นจากความรู้สึกติดลบ?
สรรพสิทธิ์: ถ้าวันไหนที่ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าติดลบเทคนิคของผมก็คือว่าสร้าง mission เล็ก ๆ ให้กับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น วันนี้จะซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับออกแบบสระว่ายน้ำ การที่เรามีเป้าหมายอะไรอย่างหนึ่งมันจะมานำพาสมองเรา ทำให้เราไม่มีเวลามานั่งคิดว่าชีวิตไม่ดียังไง ตอนนี้อะไรแย่ การที่มันมีเป้าหมายอะไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วมันจะทำให้จิตใจเรารู้ว่าจะเดินทางไปทางไหน
The People: อะไรคือก้าวแรกที่สำคัญสำหรับการค้นหาความหมายของชีวิต
สรรพสิทธิ์: เป็นคำถามที่ตอบยากมาก จริง ๆ การที่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไร จริง ๆ ขอแนะนำให้ทุกคนใช้ชีวิตไปตามที่สังคมได้กำหนดเอาไว้ แล้ววันหนึ่งมันจะมีสิ่งที่ธรรมชาติส่งมาบอกเราว่านี่มันเป็น calling ของเรา มันเหมือนโทรศัพท์ดังแล้วให้เรารับสาย เหมือนตอนที่ คีอานู รีฟส์ ลงมาในหนัง The Matrix แล้วจะต้องเลือกเม็ดสีแดงหรือสีฟ้าล่ะ แล้วมันจะเป็นโมเมนต์ที่คุณต้องเลือกระหว่างไปตามทางธรรมดา หรือว่าไปตามทางที่จะชอบ แล้ววันนั้นคุณก็จะรู้เองว่าโมเมนต์ที่ critical ที่สุดว่าคุณจะกล้าที่จะยอมสละ security ในชีวิต norm อื่น ๆ ในชีวิตเพื่อจะทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบหรือเปล่า ถ้าถามว่าการที่เรานั่งคิดและนั่งตรึกตรองเพื่อจะหาความฝันของตัวเอง หาในสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด มันเกิดจาก journey ของการเดินทางแห่งชีวิตมากกว่า
The People: แนวทางต่อไปของ เอพี ในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สรรพสิทธิ์: ถ้าถามว่าโควิด-19 กับ เอพี ไทยแลนด์ จะอยู่ร่วมกันได้ยังไง สำหรับ เอพี เองเรามีคำคำหนึ่งที่เราใช้ในองค์กรก็คือคำว่า Empower Living หมายถึงว่าของทุกอย่างที่ เอพี ทำ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดฯ ทาวน์โฮม หรือว่าเป็นเซอร์วิสต่าง ๆ แอปพลิเคชันที่เราทำ เราทำขึ้นมาเพื่อที่จะให้ลูกบ้านคนที่ใช้เซอร์วิสเราใช้ชีวิตได้คุ้มกับความหมายของเขาที่สุด ไม่ว่าคุณค่า ความหมายของชีวิตหรือ เป้าหมายของชีวิตเขาคืออะไร
The People: อะไรคือเป้าหมายแรกของทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา
สรรพสิทธิ์: ถ้าเป็นสมัยก่อน อย่างแรกเลยก็คือจะมีโน้ตบุ๊กตรงหัวเตียง แล้วก็จะเอาไว้จดสิ่งที่ต้องทำ สมมติว่ามี 6 ข้อ แล้วก็จะ make sure ว่าตอนเที่ยงขีดไปแล้ว 5 ข้อ แต่ตอนนี้พอโตขึ้น ได้เรียนรู้ชีวิตมาบทหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่า เราเครียดเราเคร่งกับชีวิตจนเกินไปแล้ว บางอย่างเราแค่จำไว้ในสมองก็พอ เราก็รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาอยู่กับปัจจุบัน รีแลกซ์ ได้ยินเสียงห้อง เปิดเพลงนิดหนึ่ง ไปเข้าห้องน้ำ อยู่กับห้องนั้นก่อน เป้าหมายของชีวิตก็คือการที่อยู่กับปัจจุบันตอนนั้นให้นานที่สุด เข้าใจปัจจุบันตอนนั้นให้นานที่สุด เป้าหมายของปัจจุบันก็คือการอยู่กับปัจจุบัน
The People: สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปภายใต้แคมเปญ “Make Living Great Again”
สรรพสิทธิ์: สำหรับแคมเปญ “Make Living Great Again” ถือว่าเป็นแคมเปญที่เราจัดครบทุกองค์ประกอบเลยตั้งแต่ต้น เราเริ่มต้นตั้งแต่งาน visual งานภาพถ่ายก็มี exhibition ที่อยู่ใน อินสตาแกรมของเรา เป็นงานที่เปิดกว้างให้ใครก็ได้ที่ชอบถ่ายภาพ สามารถเข้ามาร่วมเป็นศิลปินของเราใน IG @MakeLivingGreatAgain นอกจากนั้นแล้วเราก็จะมีหนังสั้นซึ่งเราเพิ่งปล่อยออกมาชื่อ “Make Living Great Again” เหมือนกัน ซึ่งในหนังก็จะประกอบไปด้วย 4 คาแรกเตอร์ ซึ่งทั้ง 4 ท่านเป็นคนจริงที่ประสบความสำเร็จและล้มจริง แล้ววันนี้เขาก็ลุกขึ้นมาได้ เราก็เลยนำเรื่องราวเขามาถ่ายทอดออกมาเป็นหนัง
ซึ่งหนังเรื่องนี้จริง ๆ แล้วเป็นคล้าย ๆ กับบัตรเชิญเล็ก ๆ เพื่อจะนำมาที่งาน Symposium งานทอล์กของเราชื่อว่า MIND Symposium ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีการรวบรวมนักคิดแนวหน้าทางด้านคุณภาพจิตใจมาพูดกันบน live ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook APTHAI ของเราเอง
ในส่วนของคนที่ชอบดนตรีเราก็มีวง Yellow Fang ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงในหนังของเรา และ launch ซิงเกิลประกอบหนังโฆษณานี้ด้วย ชื่อว่า ‘เคลียร์อยู่’ อันสุดท้ายเป็นอันที่ผมรู้สึกว่าตื่นเต้นที่สุดเลยก็คือ AP MAKE LIVING GREAT AGAIN PLAYLIST on SPOTIFY ครั้งแรกกับการร่วมมือกับ 40 คิวเรเตอร์จากหลากหลายวงการ สร้างเพลย์ลิสต์พิเศษบนแพลตฟอร์ม Spotify เช่น วี วิโอเลต วอเทียร์, อพาร์ทเม้นท์คุณป้า, เวย์ ปริญญา อินทชัย, สิงโต นำโชค, แป้งโกะ, โอ่ง กงพัฒน์, คิด เบญจรงคกุล, ฟอร์ด กุลวิทย์ เลาสุขศรี, SRETSIS, มูลนิธิสติ และ TCDC เป็นต้น กับการคัดเลือกบทเพลงพิเศษกว่า 40 เพลย์ลิสต์ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนลุกขึ้นในเช้าวันใหม่อีกครั้งด้วยพลังบวก และความเชื่อที่ว่าอยู่เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับชีวิตอีกครั้ง ซึ่งร่วมฟังเพลย์ลิสต์พิเศษนี้ผ่านทางแพลตฟอร์ม Spotify ได้เร็ว ๆ นี้
