15 ส.ค. 2563 | 19:40 น.
ถึงจะโดนตัดสิทธิ์การเมือง แอกเนสยังคงเป็นบุคคลเฝ้าระวังของรัฐบาล เธอเป็นผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่ต้องคอยจับตามองอย่างใกล้ชิด เธอเชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาญี่ปุ่น เล่าเรื่องเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงเป็นภาษาญี่ปุ่น พูดคุยกับสื่อว่าชาวฮ่องกงต้องการอะไร ทำไมถึงออกมาประท้วง ด้วยความที่ชื่นชอบแอนิเมะและฟังเพลง J-Pop ทำให้ทักษะภาษาพัฒนาอย่างรวดเร็ว แถมยังเคยสร้างวีรกรรมด้วยการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นคิดทบทวนอีกครั้งถึงการไปพบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง“การตัดสิทธิ์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว พวกเขาพยายามกำจัดคนหนุ่มสาวที่เห็นต่างกับรัฐบาล”
“เราหวังว่าท่านนายกรัฐมนตรีอาเบะและรัฐบาลญี่ปุ่น จะใคร่ครวญถึงความจำเป็นที่จะต้องไปพบกับประธานาธิบดีสี”
ถ้อยแถลงของแอกเนส โจว ในเดือนมิถุนายน 2020
แอกเนสได้อธิบายถึงข้อกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจีน รัฐบาลสามารถจับกุมใครก็ตามที่อยู่ในดินแดนฮ่องกงไปไต่สวน ณ จีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นชาวจีน ชาวฮ่องกงโดยกำเนิด หรือชาวต่างชาติที่อยู่ในฮ่องกง ทุกคนสามารถถูกรวบตัวไปได้ทั้งนั้น เธอกล่าวว่าข้อกฎหมายที่ไม่ยุติธรรมนี้อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นได้รับผลกระทบด้วย แต่ละปีมีคนญี่ปุ่นกว่า 1 ล้านคนมาเที่ยวที่ฮ่องกง แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เข้ามาอยู่บนเกาะ รัฐบาลจีนจะคุกคามคุณได้อย่างเต็มที่ โดนไม่สนว่าคุณเป็นใคร สุดท้ายหมายนัดพบของสองผู้นำก็ถูกยกเลิกเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ถูกละเมิด เธอยังอธิบายถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ทั้งฮ่องกงและญี่ปุ่นจะต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความกล้าคิดกล้าพูดทำให้สื่อญี่ปุ่นหลายเจ้าต่างเชิญแอกเนสไปออกรายการ เธอเคยมีโอกาสกล่าวสุนทรพจน์ในมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นที่รู้จักของชาวญี่ปุ่นจนถูกเรียกว่าเป็น “เทพธิดาประชาธิปไตย” (民主の女神) การสะสมชื่อเสียงในญี่ปุ่นที่ดูท่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้โฆษกรัฐบาลจีนต้องออกแถลงการณ์เรียกร้องไม่ให้รัฐบาลญี่ปุ่นมอบข้อมูลหรือความช่วยเหลือใด ๆ แก่ แอกเนส โจว หรือแกนนำพรรคเดโมซิสโตคนอื่น ๆ เมื่อชาวฮ่องกงลุกฮือประท้วงอีกครั้งจากกรณีกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในปี 2019 แอกเนสและโจชัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมคาบ้านพัก พวกเขาถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหาว่าเป็นแกนนำจัดการชุมนุมแบบผิดกฎหมาย แต่ถึงจะโดนจับ ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อประกันตัว พวกเขาก็ยังคงร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและรัฐบาลจีนอย่างเผ็ดร้อนเหมือนเดิม หลังปักหลักชุมนุมยาวนาน ชาวฮ่องกงต้องเจอกับกระสุนปืนยาง แก๊สน้ำตา และการทำร้ายร่างกาย ในเดือนมิถุนายน 2020 แอกเนส โจชัว และนาธาน ประกาศลาออกจากพรรคที่พวกเขาเป็นคนก่อตั้ง หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงได้ออกแถลงการณ์ยุบพรรค ยุติการทำกิจกรรมทางการเมืองในนามพรรคเดโมซิสโต สร้างความสับสนให้ชาวฮ่องกงไม่น้อย การประกาศลาออกและยุบพรรคเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลได้ผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ กฎหมายที่รุนแรงอยู่แล้วยังสามารถเข้มงวดขึ้นไปอีก รัฐบาลได้กำหนดบทลงโทษทางอาญาเรื่องการแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างการปกครอง การสมคบคิดกับต่างชาติ และการก่อการร้าย ถ้าหากนักการเมืองพรรคเดโมซิสโตไม่ยุบพรรค พวกเขาทุกคนอาจมีความผิดทางกฎหมายทันที และอาจถูกจับไปยังประเทศจีน ถึงจะยุบพรรคแต่แกนนำหลายคนยังคงร่วมประท้วงต่อ อย่างไรก็ตาม ช่วงค่ำของวันที่ 10 สิงหาคม 2020 แอกเนส โจว ถูกเจ้าหน้าจับกุมและค้นบ้าน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการโดนจับครั้งที่ 4 ของเธอ คราวนี้แอกเนสโดนข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการแตกแยกบนสื่อออนไลน์ ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่สามารถตั้งข้อหาย้อนหลังได้อีกด้วย ในวันเดียวกัน เจ้าพ่อวงการสื่อ จิมมี่ ไหล (Jimmy Lai) ผู้ก่อตั้ง ‘แอปเปิล เดลี่’ (Apple Daily) หนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนการเผยแพร่ข่าวผู้ประท้วง ก็โดนเจ้าหน้าที่รวบตัวด้วยเช่นกัน เขาโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ละเมิดกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เหมือนกับแอกเนส นอกจากนี้ ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย เข้าค้นสำนักงานแอปเปิล เดลี่ ใช้หมายศาลรื้อเอกสารทั้งหมด ส่วนเจ้าสัวและแอกเนสถูกควบคุมตัวนานกว่า 36 ชั่วโมง ภายหลังการจับกุม รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจปล่อยตัวทั้งสองและยังไม่ตั้งข้อหาเพิ่มเติม แต่สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับข่าวการจับกุมคือกระแสสังคมที่ร้อนแรง ระหว่างเจ้าสัวโดนจับกุม หุ้นหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี่ ตกลงไป 17 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเช้าตรู่ ก่อนจะทายานขึ้นไปถึง 344 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ประชาชนชาวฮ่องกงแห่ไปซื้อหุ้นซื้อหนังสือพิมพ์ของเจ้าสัวไหล ร่วมแสดงออกว่าชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ก็ต้องการประชาธิปไตยไม่ต่างกัน ข่าวการบุกจับกุมแอกเนส โจว กับ จิมมี่ ไหล โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่สนใจข่าวของแอกเนสเป็นพิเศษ เธอเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่น เป็นขวัญใจวัยรุ่นหัวใหม่ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ให้ความสนใจกับเจ้าสัวไหลมากกว่าเพราะเขาเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล ระหว่างถูกควบคุมตัว โลกทวิตเตอร์พากันติดแท็ก #FreeAgnes และถูกทวิตไปมากกว่าหนึ่งแสนครั้ง หลายคนพากันเรียกเธอว่า ‘มู่หลานตัวจริง’ เพราะสิ่งที่เธอทำทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเรียกร้องประชาธิปไตย ปกป้องดินแดนของตัวเอง ไม่ต่างจากมู่หลานที่ยอมสู้สุดตัวเพื่อปกป้องบ้านเมืองและผู้คน จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับหลิว อี้เฟย์ นักแสดงจีนผู้รับบทเป็นมู่หลาน เนื่องจากเธอเคยออกมาสนับสนุนนโยบายวัน ไชน่า แสดงจุดยืนว่าควรเร่งปราบปรามผู้ชุมนุมที่ก่อความวุ่นวาย บางคนมองอาจมองว่าแอกเนส โจว เป็นทรราช แต่สำหรับคนที่เห็นต่างอาจมองว่าเธอทำสิ่งถูกต้อง กำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อตัวเองเคียงข้างกับชาวฮ่องกง บทบาทในโลกการเมืองอันเข้มข้นระหว่างฮ่องกงกับจีนของเธอล้วนขึ้นอยู่กับมุมมองและวิจารณญาณว่าเราจะมองเธอแบบไหน เป็นคนดี เป็นคนชั่ว หรือว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการเสรีภาพ ที่มา https://www.japantimes.co.jp/news/2020/08/10/asia-pacific/hong-kong-activist-agnes-chow-arrested/#.XzYbXOgzZyw https://www.nytimes.com/2020/08/13/world/asia/agnes-chow-mulan-hong-kong.html https://www.bbc.com/news/world-asia-china-53746867 http://little-a-little.com/en/2019/03/13/agnes-chow-eng/ https://www.theguardian.com/world/2020/aug/12/agnes-chow-the-hong-kong-activist-who-gave-up-uk-citizenship-to-fight-for-democracy https://www.theguardian.com/world/2018/feb/04/agnes-chow-hong-kong-activist-who-has-china-worried-democracy เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์