svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม Thepeople

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด

วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์

วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์
ย้อนไปเมื่อ 200 กว่าปีก่อน การรักเพศเดียวกันในอังกฤษเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และนั่นทำให้ วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ที่แม้จะสร้างคุณูปการในแวดวงอียิปต์ศึกษาขนาดไหน ก็ต้องพาตัวเองออกจากบ้านเกิดเพื่อความปลอดภัย เหตุเพราะเขาเป็น “เกย์” หนึ่งในความรุ่งเรืองของอารยธรรมอียิปต์โบราณคือ อักษรภาพเฮียโรกลิฟฟิก (Hieroglyphic) ซึ่งการศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์โบราณนั้นมีมานานแล้ว อย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่สิบแปด โดยอาศัย “คู่มือ” ถอดอักขระเหล่านี้ในรูปของศิลาโรเซตตา (Rosetta Stone) ซึ่งจารึกประโยคหนึ่งประโยคด้วยอักขระสามแบบไว้เป็นตัวอย่างตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ หลาย ๆ คนจะรู้จัก ฌ็องฟร็องซัวส์ ช็องโปลิยง (Jean-François Champollion) และโทมัส ยัง (Thomas Young) ในฐานะนักวิชาการสองคนที่ใช้ศิลานี้เบิกทางสาขาอียิปต์วิทยา แต่ไม่นานมานี้ พิพิธภัณฑ์บริเตน (British Museum) เพิ่งเสนอว่า น่าจะมีนักวิชาการและนักสำรวจอีกคนที่ร่วมไขรหัสด้วย เขาคือ วิลเลียม จอห์น แบงคส์ (William John Bankes) ซึ่งน่าจะเป็นคนตั้งข้อสังเกตว่า สามประโยคที่เห็นบนศิลาโรเซตตานั้นน่าจะมีใจความเดียวกัน แต่แม้แบงคส์จะมีความสำคัญในการศึกษาโลกอียิปต์โบราณแค่ไหน เขาก็ไม่อาจอยู่ในประเทศบ้านเกิดของตนเองได้ เพียงเพราะเขามีเพศวิถีที่ไม่เป็นที่ยอมรับ [caption id="attachment_26082" align="aligncenter" width="640"] วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์ ศิลาโรเซตตาที่พิพิธภัณฑ์บริเตน (ภาพจาก www.standard.co.uk)[/caption] แบงคส์เกิดใน ค.ศ. 1786 ที่เมืองดอร์เซ็ท ในคฤหาสน์ใหญ่ชื่อ คิงสตัน เลซี ความร่ำรวยของครอบครัวทำให้เขาได้มีโอกาสตอบสนองความชื่นชอบงานศิลปะเก่าแก่ แบงคส์เป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนฝูงว่าชื่นชอบความสวยงามหรูหราอลังการ เขาเคยเดินทางไปยังฟอนท์ฮิลล์ แอบบี คฤหาสน์ในฝันของลูกเศรษฐีค้าน้ำตาล (และทาส) อย่าง วิลเลียม เบคฟอร์ด (William Beckford) แม้คฤหาสน์ฟอนท์ฮิลล์ แอบบี จะสร้างไม่เสร็จ แต่ก็ดูจะเป็นแรงบันดาลใจให้แบงคส์สะสมงานศิลปะและดัดแปลงคฤหาสน์ของตนเอง เมื่อเกิดสงครามคาบสมุทรระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสกับประเทศบนคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberia) อันได้แก่สเปนและโปรตุเกส โดยมีกองทัพอังกฤษสนับสนุนนั้น แบงคส์ได้ใช้โอกาสนี้ซื้อภาพเขียนล้ำค่าจากศิลปินดังในสเปนจำนวนมาก จนนำไปแต่งห้องใหม่ที่คฤหาสน์ประจำตระกูลได้ ห้องนั้นมีชื่อเรียกว่าห้องสเปน (Spanish Room) [caption id="attachment_26085" align="aligncenter" width="1240"] วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์ ห้องสเปนภายในคิงสตัน เลซี[/caption] ด้วยนิสัยชอบผจญภัยและคิดแผนการแผลง ๆ ทำให้ ลอร์ด ไบรอน (Lord Byron) กวีชื่อดังและเพื่อนร่วมสำนักทรินิตี มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ของแบงคส์ ตั้งชื่อให้เขาว่า “เจ้าพ่อจอมป่วน” (Father of all Mischief) เนื่องจากชีวิตของชนชั้น “ผู้ดี” ในอังกฤษต้นศตวรรษที่สิบเก้า เน้นการเดินทางไปยังยุโรปหลังสำเร็จการศึกษา ตามที่เรียกกันในสมัยนั้นว่า แกรนด์ ทัวร์ แบงคส์ก็ออกเดินทางเที่ยวยุโรปเช่นกัน การเดินทางไปยังสเปนและโปรตุเกส ณ ช่วงเวลาสงครามคาบสมุทร ทำให้เขาได้พบกับนักเดินทางชื่อดังชาวสวิสนาม เจ. แอล. บัคฮาร์ดท์ (J. L. Buckhardt) โดยบังเอิญ บัคฮาดท์ได้ทำให้แบงคส์สนใจการสำรวจทางโบราณคดีอย่างจริงจัง เขาจึงได้เดินทางไปสำรวจอียิปต์และบริเวณใกล้เคียงร่วมกับนักโบราณคดีผู้มีชื่อเสียงในช่วง ค.ศ. 1815-1819 และกลายเป็นผู้ช่วยอ่านศิลาโรเซตตา แบงคส์ได้เดินทางบุกเบิกเส้นทางใหม่สองครั้ง เขาเดินทางไปถึงแก่งน้ำตกที่สองของแม่น้ำไนล์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศซูดาน) แบงคส์นำเอาโอเบลิสค์จากวิหารแห่งฟีไล และโบราณวัตถุจำนวนมากจากเดียร์ เอล เมดินา หมู่บ้านช่างศิลป์อียิปต์โบราณ กลับมายังคฤหาสน์ของเขา โบราณวัตถุอันมากมายเหล่านั้นยังคงจัดแสดงอยู่ที่คิงสตัน เลซี อาทิ ประติมากรรมสำริดรูปแมว ประติมากรรมรูปแมลงสการับ โลงศพหินของอาเมเนโมป (Amenemope) หัวหน้านักบวชแห่งเทพอามุน และแผ่นจารึกบนหลุมศพ 25 แผ่น ปัจจุบันนี้ คิงสตัน เลซี ถือเป็นสถานที่ของเอกชนที่มีโบราณวัตถุจากอียิปต์มากที่สุดในอังกฤษ บันทึกการเดินทางของเขาส่งผลต่อการศึกษาโบราณคดีด้านอียิปต์วิทยาในเวลาต่อมา วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์

โอเบลิสค์จากวิหารแห่งฟีไล (ภาพจาก www.dorsetlife.co.uk)

หลังกลับจากอียิปต์พักใหญ่ เขาได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำแคว้นดอร์เซ็ท ใน ค.ศ. 1832 ต่อจากพ่อของเขา แต่หลังจากดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน เขาถูกจับข้อหากระทำอนาจารกับทหารคนหนึ่งที่โถปัสสาวะสาธารณะ บริเวณด้านนอกรัฐสภา เขาพ้นผิดเพราะได้รับความช่วยเหลือจากดยุคแห่งเวลลิงตัน (Duke of Wellington) นายกรัฐมนตรี และมิตรสหายที่มีอิทธิพลหลายคน เหตุฉาวดังกล่าวทำให้แบงคส์ต้องหลบลี้หนีหน้าจากผู้คนกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ของเขา โอกาสนี้ เขาได้จัดการตบแต่งคฤหาสน์ให้ใหญ่โตอลังการเพิ่มเติม และได้ขอให้สถาปนิกชื่อ ชาร์ลส์ แบร์รี (Charles Barry) ช่วยเปลี่ยนสภาพคฤหาสน์จากอาคารก่ออิฐแดง เป็นตำหนัก (palazzo) สไตล์เรเนสซองส์แบบเวนิซ คลุมด้วยหินปูนชื่อดังที่เรียกว่าหินชิลมาร์ค เขายังคงสรรหาศิลปวัตถุจากหลายประเทศมาประดับตกแต่งไว้ในคฤหาสน์ของเขา วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์

คฤหาสน์คิงสตัน เลซี (ภาพจาก www.visit-dorset.com)

ใน ค.ศ. 1841 เขาถูกจับอีกครั้งด้วยข้อหาคล้ายกัน นั่นคือกระทำอนาจารกับหทารยามในกรีน พาร์ค ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใหญ่ ถัดจากพระราชวังบัคกิงเงิม แม้ครั้งนี้เขาจะไม่ต้องรับความผิดเหมือนคราวที่แล้ว เพราะเขาตัดสินใจเนรเทศตัวเองไปอยู่อิตาลี แต่ก็ยังติดต่อกับ จอร์จ น้องชายของเขาอยู่เสมอ ๆ เพื่อนำศิลปวัตถุกลับไปตกแต่งที่คฤหาสน์เพิ่มเติม แม้จะไม่ได้มีโอกาสกลับไปชื่นชมก็ตาม อย่างไรเสีย ดูเหมือนว่าเขาจะหาทางกลับมายังคฤหาสน์เป็นครั้งสุดท้ายอย่างลับ ๆ ใน ค.ศ. 1854 ก่อนจะเสียชีวิต ใน ค.ศ. 1855 ใน ค.ศ. 2017 สหราชอาณาจักรเฉลิมฉลองครบรอบห้าสิบปีพระราชบัญญัติคดีอาญาทางเพศ (Sexual Offences Act) ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ทางเพศแบบรักเพศเดียวกันนั้นถูกกฎหมาย กลุ่มแนชนอล ทรัสต์ (National Trust) ซึ่งดูแลโบราณสถานในสหราชอาณาจักร ได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับบุคคลในประวัติศาสตร์ ซึ่งแสดงตนว่ามีเพศสถานะและเพศวิถีแตกต่างจากขนบทั่วสหราชอาณาจักร ที่คฤหาสน์คิงสตัน เลซี เรื่องราวของ วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ได้รับการบอกเล่าอีกครั้งในนิทรรศการ เริ่มด้วยเชือก 51 เส้น ซึ่งแขวนอยู่ ณ ห้องโถงทางเข้าคฤหาสน์ เชือกทั้ง 51 เส้นนี้แทนจำนวนคนที่ถูกแขวนคอในสหราชอาณาจักร เพราะต้องโทษคดีกระทำชำเราแบบวิตถาร ณ ช่วงเวลาที่แบงคส์ยังมีชีวิตอยู่ ในส่วนอื่น ๆ ของนิทรรศการ มีพระราชบัญญัติการกระทำชำเราแบบวิตถาร (Buggery) ฉบับ ค.ศ. 1533 จัดแสดงอยู่คู่กับพระราชบัญญัติคดีอาญาทางเพศ และพระราชบัญญัติคู่ชีวิต (Civil Partnership) ค.ศ. 2004 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์ของกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ วิลเลียม จอห์น แบงคส์ ค้นพบวิธีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟฟิก แต่ต้องเนรเทศตัวเองจากอังกฤษเพราะเป็นเกย์ เชือก 51 เส้น จัดแสดงที่คฤหาสน์คิงสตันเลซี (ภาพจาก www.theguardian.com) ณ ห้องสเปนที่คฤหาสน์คิงสตัน เลซี นิทรรศการนี้ได้ฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับผู้คนที่ต้องเดินทางหนีออกจากบ้านเกิด เพียงเพราะเพศสถานะและเพศวิถีของตนไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมนั้น ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่า “เจ้าพ่อจอมป่วน” จะดีใจแค่ไหนที่ได้เห็นนิทรรศการนี้ที่คฤหาสน์ตนเอง   เรื่อง: มิ่ง ปัญหา