02 ก.ย. 2563 | 17:16 น.
สื่อทั่วโลกต่างพากันลงข่าวการประท้วงผู้นำที่เบลารุส ประชาชนหลายหมื่นคนที่ลงถนนขับไล่ประธานาธิบดีเริ่มปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปราบปราม มีการใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุม ผู้คนตะโกนด่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ความสับสนว้าวุ่นตีกันในใจของเจ้าหน้าที่หลายคน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาปลดอาวุธแล้วเดินเข้าไปยังฝูงชน มุ่งตรงไปยังถังขยะ และถอดชุดเจ้าหน้าที่ทิ้งลงถัง ตอนนี้การเมืองของประเทศเบลารุสอยู่ในสภาวะน่าเป็นห่วง หลังเหตุการณ์เลือกตั้งที่น่ากังขามีผลออกมาว่าประธานาธิบดี 6 สมัย อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก (Alexander Lukashenko) ชนะการเลือกตั้งโดยกวาดคะแนนเสียงไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้ประชาชนรวมตัวกันเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบผลคะแนนอีกครั้ง แต่ไม่ได้เสียงตอบกลับ จนทำให้การชุมนุมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลเบลารุสตัดสินใจใช้กระสุนจริงกับประชาชน ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ แต่ภาพความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าปราบปรามฝูงชนก็หลุดมาให้โลกเห็นอยู่ดี สำนักข่าวต่างประเทศพากันลงรูปเหตุการณ์สลายการชุมนุม เผยภาพความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่เล็งปืนกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ปาระเบิดแสงกับแก๊สน้ำตา ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงยิงใส่ฝูงชน ภาพประชาชนถูกทุบตี คนที่ไม่มีอาวุธถูกเจ้าหน้าที่ลากถูลู่ถูกังไปกับพื้น การชุมนุมครั้งนี้มีคนถูกจับราว 6,000 คน ทั่วโลกต่างติดตามประณามการกระทำของรัฐ ประชาชนวิจารณ์ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเผ็ดร้อน ในหมู่ของเจ้าหน้าที่ก็เกิดความกดดันหนัก จนทำให้นายตำรวจคนหนึ่งนามว่า เยกอร์ เยเมลยานอฟ (Yegor Yemelyanov) ที่ทำงานเป็นตำรวจมา 17 ปี ต้องทำหน้าที่ร่วมกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของกระทรวงมหาดไทย ตัดสินใจลาออกจากงาน พร้อมลงภาพการคืนตรากับบัตรประจำตัวลงอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อแสดงจุดยืนทางอุดมการณ์ ภาพตราตำรวจของเยกอร์ถูกพูดถึงในวงกว้างอย่างรวดเร็ว มีบัญชีผู้ใช้มากดไลก์ให้เขามากกว่า 390,000 ไลก์ คอมเมนต์หลายพันกล่าวขอบคุณ ชื่นชมเขาจากใจ บางส่วนกล่าวว่าเขาจะยอมรับการตัดสินใจของเยกอร์ (คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน) และยกย่องความกล้าหาญที่จะยืนหยัดต่ออุดมคติของตัวเอง สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานมานานเป็นสิบปีต้องลาออก เป็นเพราะเขาเห็นภาพความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ วิ่งเข้าใส่ผู้ชุมนุม เกิดการฉุดกระชากลากถู หลายคนถูกตำรวจใช้กระบองรุมตีจนกองอยู่กับพื้น เยกอร์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แถมยังรู้สึกตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ตรงหน้า ภาวนาว่าขออย่าให้ตัวเองโดนสั่งให้ลงไปทุบตีประชาชนเลย อย่างไรก็ตาม การประท้วงยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องเล่าในกลุ่มเพื่อนร่วมงานก็ทำให้เขาวิตกมากขึ้นกว่าเก่า มีข่าวลือว่าผู้ประท้วงบางคนที่โดนจับถูกซ้อมในห้องสอบสวน ประกอบกับข่าวผู้ชุมนุมคนหนึ่งถูกจับและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความสะเทือนใจให้เขาอย่างมาก จนเยกอร์คิดว่าสิ่งที่ตัวเองกลัวจะต้องมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง เขาจึงปรึกษากับภรรยาว่าต้องการจะลาออก เพราะไม่อยากถูกส่งไปสลายการชุมนุม หรือต้องทำร้ายร่างกายคนอื่นเพียงเพราะคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การกระทำทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย หลังจากตัดสินใจยื่นใบลาออกและโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม ทางหน่วยปฏิเสธการลาออกของเขา แต่ภายหลังได้โทรมาบอกให้เขามาเซ็นใบลาออก ทว่าเยกอร์กลับถูกควบคุมตัวไว้สองวันเต็ม ๆ พร้อมดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยมิได้รับอนุญาต เพราะตอนโพสต์ภาพเขายังเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ เมื่อหน่วยงานไม่ยอมรับการลาออก เยกอร์จึงไม่ไปทำงานและถูกไล่ออกในที่สุด นอกจากถูกไล่ออก อดีตนายตำรวจถูกนำตัวขึ้นศาลฐานใช้โซเชียลยุยงให้แตกแยก (จากการโพสต์ภาพภาพเดียว) ทว่าศาลยกฟ้อง เพราะไม่พบความผิดทางอาญาจากสิ่งที่เยกอร์ทำ ตอนนี้อดีตเจ้าหน้าที่กลายเป็นชายตกงาน เขากล่าวกับสื่อว่ากำลังมองหาอาชีพใหม่ที่เหมาะกับตัวเองอยู่ และการเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายก็ดูจะเป็นงานที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ได้มีเพียงเยกอร์คนเดียวเท่านั้นที่ลาออก สัปดาห์ต่อมาเพื่อนร่วมงานของเขาอีก 8 คน ก็ตัดสินใจลาออกเช่นกัน ส่วนในโลกโซเชียลเผยให้เห็นทหารเบลารุสจำนวนมากพากันถอดเครื่องแบบทิ้งถังขยะต่อหน้าผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ท่ามกลางเสียงปรบมือยกย่องที่เขาต้องยอมเสี่ยงขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือวิดีโอคลิปกลุ่มพลทหารที่นำเครื่องแบบของตัวเองไปเผาและตะโกนขับไล่ผู้นำฉ้อฉล หลังจากข่าวการลาออกของเยกอร์ได้รับความสนใจมากขึ้น โฆษกกระทรวงมหาดไทยจึงออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชนว่า การลาออกของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งเกิดจากความเชื่อส่วนบุคคลและเราเคารพการตัดสินใจนั้น ด้านประธานาธิบดีลูเชนโก ออกคำสั่งมอบรางวัลพิเศษแก่เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยราว 300 นาย ด้วยเหตุผล ‘การทำงานอันไร้ที่ติ’ ส่งผลให้ฝูงชนโกรธแค้นเขามากกว่าเก่า หลายคนมองว่าการออกมามอบรางวัลแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการยินดีที่ได้เห็นเจ้าหน้าที่ใช้กำลังกับประชาชน ภายหลังรัฐบาลเริ่มลดระดับความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม ระหว่างสถานการณ์ตึงเครียดช่วงวันที่ 15 สิงหาคม 2020 ตำรวจได้ทำการลดโล่เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชน ตำรวจส่วนใหญ่ไม่ปิดกั้นขบวนประท้วงเหมือนช่วงแรกที่ทำให้เกิดการปะทะกัน ผู้ชุมนุมบางส่วนจึงเดินเข้าไปกอดเจ้าหน้าที่ ให้ดอกไม้ หรือตบบ่าเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ แต่ประธานาธิบดีลูคาเชนโกยังมิวายออกมากล่าวกับสื่อว่า การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง ที่ดูแล้วท่าทีของการชุมนุมในเบลารุสจะยังไม่จบลงง่าย ๆ อย่างแน่นอน ที่มา https://www.nbcnews.com/news/world/he-was-belarusian-cop-17-years-lukashenko-s-crackdown-protests-n1237414 https://www.euronews.com/2020/08/19/they-say-i-sold-out-to-europe-belarusian-police-officer-resigns-over-protests https://thepeople.co/alexander-lukashenko-belarus-president/ เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์“ถึงการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 17 ปี ของผมจบสิ้นแล้ว
แต่สำนึกของผมยังคงเหมือนเดิม ตำรวจต้องยืนอยู่ข้างประชาชน”