เรจิน่า จอร์จ: ราชินีมีนเกิร์ลส์ที่เป็นมากกว่าตัวร้ายดาด ๆ ในหนังวัยรุ่น

“เธอนั่งกับเราไม่ได้!”

วลี “เธอนั่งกับเราไม่ได้!” หรือ “ขึ้นมาสิบ้านนอก! เราจะไปช็อปปิ้งกัน” เป็นประโยคเด็ดจากหนังวัยรุ่นคลาสสิกเรื่อง Mean Girls (2004) ที่ชอบถูกหยิบมาใช้เล่นกันในวงสนทนากับเพื่อน ๆ ส่วนภาพของแก๊งพลาสติก (The Plastic) ที่ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนมาเสยแบบสวย ๆ ก่อนจะเรียกเด็กบ้านนอกขึ้นรถก็นับเป็นมีมที่เห็นผ่านตากันบ่อย ๆ บนโลกโซเชียล ถึงแม้ว่า เรจิน่า จอร์จ กับเพื่อนสาวแก๊งพลาสติกจะกลายเป็นมีมตลก แต่เรื่องราวของพวกเธอมีอะไรมากกว่าการเป็นมีมหรือเป็นแค่กลุ่มผู้หญิงนิสัยเสียในโรงเรียนมัธยมปลายอย่างที่หลายคนเข้าใจ  

“อะไรคือพวกพลาสติก? พวกผู้ดีจอมปลอม ถ้านอร์ทชอร์เป็น US Weekly พวกเขาต้องได้ขึ้นปกตลอดกาลแน่ ส่วนที่อยู่นั่นชื่อ คาเรน สมิธ เธอเป็นหนึ่งในคนโง่ที่สุดเท่าที่คนเคยรู้จัก เธอถามฉันว่าส้มสะกดยังไง ส่วนคนตรงนั้นคือ เกรทเช่น วีเนอร์ส เธอรวยมหาศาล พ่อของเธอประดิษฐ์เครื่องปิ้งสตรูเดิ้ล เป็นพวกสู่รู้เรื่องชาวบ้าน เธอรู้เรื่องของคนทุกคน และปีศาจในร่างมนุษย์ เรจิน่า จอร์จ อย่าบื้อเชียวล่ะ เพราะว่าเธออาจดูเหมือนกับคนที่เห็นแก่ตัว ชอบแทงข้างหลัง หน้าหนาขาเมาธ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเรจิน่าเป็นอะไรได้มากกว่านั้นเยอะเลย…”

ประโยคข้างต้นคือการแนะนำสมาชิกพลาสติกแบบคร่าว ๆ พวกเธอคือเส้นเรื่องหลักของภาพยนตร์เรื่อง Mean Girls ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ ‘Queen and Wannabes’ ของ โรซาลินด์ ไวส์แมน (Rosalind Wiseman) เล่าถึงชีวิตของแก๊งสาวฮ็อตสุดป๊อปปูลาร์ในโรงเรียน นำโดยหัวหน้ากลุ่ม เรจิน่า จอร์จ (Regina George) ที่ใคร ๆ ก็เรียกเธอว่า ‘ราชินี’ ซึ่งเธอจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนอีกสองคนที่จะคอยเป็นลูกไล่อย่าง เกรทเช่น วีเนอร์ส (Gretchen Wieners) และ คาเรน สมิธ (Karen Smith) เมื่อเข้าสู่โลกของ Mean Girls คล้ายกับว่าเราได้พบการจำลองโลกใบใหญ่ที่ย่อส่วนอยู่โรงเรียนมัธยมปลายนอร์ทชอร์ ยอดพีระมิดของสังคมคือกลุ่มคนมีเงินหรือมีอำนาจในการควบคุมบางสิ่ง พวกสาวสังคมอย่างแก๊งพลาสติกจะจับกลุ่มกันเพื่อคงตัวเองไว้บนยอด กลุ่มชาวเอเชียจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ‘เอเชียเห่ย ๆ’ กับ ‘เอเชียสุดฮ็อต’ ที่มักไม่มีบทบาทอะไรต่อโรงเรียนและเนื้อเรื่องหลักมากนัก (ตามสไตล์หนังวัยรุ่นยุคเก่าที่สร้างจากมุมมองของคนอเมริกัน) แต่ถึงกระนั้นก็ต้องใส่มาด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนดำเจ๋ง ๆ แต่ไม่เป็นมิตร กลุ่มเด็กสาวผิวขาวอวบอ้วนที่กินทุกอย่าง กลุ่มเด็กตัวผอมที่ไม่ยอมกินสักอย่าง พวกติงต๊อง พวกผู้ชายที่เป็นได้แค่ตัวสำรอง พวกเปิดเผยทางเซ็กซ์ พวกแปลกแยกที่ถูกล้อว่าเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนจะกลายเป็นกลุ่มชายขอบ รวมถึงครูสาวสอนคณิตนิสัยดีที่มีปัญหาชีวิต เด็กนักเรียนเพิ่งย้ายมาใหม่ และครูพละปากว่าตาขยิบ หากสังเกตทุกตัวละครนั่งมองเด็ก ๆ ที่จับกลุ่มกันในโรงอาหาร ก็อาจทำให้รู้สึกว่าเรากำลังดูโลกทั้งใบอยู่จริง ๆ เด็กสาวที่ป๊อปมากที่สุดในโรงเรียนคงหนีไม่พ้นเรจิน่า เธอมักปรากฏกายด้วยความเฉิดฉาย ภาพจำของเธอคือผู้หญิงสวย รวย ถือกระเป๋า Fendi ขับ Lexus สปอร์ตสองประตูสีเงินเปิดประทุนมาโรงเรียน บางครั้งขี้เกียจเดินเปลี่ยนคาบย้ายจากห้องเรียนไปสนามหญ้าในคาบพละ พวกเพื่อนผู้ชายก็จะยกเธอขึ้นเหนือหัว แห่มาส่งถึงที่โดยไม่ต้องเดิน เพราะเธอคือราชินี เป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง และเป็นไอดอลของเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ ในโรงเรียน เรจิน่ามีเพื่อนสาวคนสนิทสองคนที่จะอยู่ข้างกายไม่ห่างเหิน เธอจะไม่คบใครฟรี ๆ โดยไม่หวังอะไรบางอย่าง เกรทเช่นคือเหยี่ยวข่าวชั้นดี เธอมักรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนก่อนใคร คอยอัปเดตเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันให้ฟังโดยไม่ต้องร้องขอ ส่วนเพื่อนอีกคนอย่างคาเรนคือสาวสวยใสไร้สมอง หน้าที่ของเธอคือการเดินสวย ๆ พร้อมกับเออออตามเรจิน่ากับเกรทเช่นทุกอย่าง คอยทำหน้าที่เป็นลูกคู่เธอว่าดีฉันก็ว่าดี บางทีในหัวของคาเรนก็ดูว่างเปล่าจนไม่มีใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้อยู่ในแก๊งพลาสติกเพราะเป็นบลอนด์ดี้ที่สวยและรวยมาก กฎของกลุ่มพลาสติกมีอยู่ไม่กี่อย่าง ชาวแก๊งจะใส่สายเดี่ยวติดกันสองวันไม่ได้ รวบผมได้แค่อาทิตย์ละครั้ง สวมยีนส์หรือกางเกงอื่น ๆ ได้แค่เฉพาะวันศุกร์ ทุกวันพุธจะต้องใส่สีชมพู ไม่ควรซื้อเสื้อผ้าโดยไม่ปรึกษาเพื่อน ห้ามควงแฟนเก่าเพื่อน ถ้าจะเชิญใครมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันต้องถามความเห็นเพื่อนก่อนทุกครั้ง ถ้าเธอแหกกฎข้อใดข้อหนึ่ง เธอก็ร่วมโต๊ะกับเราไม่ได้ หากเรจิน่าเป็นผู้หญิงฉลาดและสวยรวยมากเฉย ๆ คงไม่มีปัญหาอะไร ทว่าเธอไต่เต้าสู่จุดสูงสุดของโรงเรียนด้วยเสน่ห์ส่วนบุคคล ควบคู่กับการใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงในจิตใจของคนอื่น เรจิน่าเชี่ยวชาญที่จะทำให้เด็กผู้หญิงน้อยใหญ่รู้สึกด้อยกว่า เธอเคยบอก เคดี้ เฮรอน (Cady Heron) เด็กใหม่ผิวขาวหน้าตาดีที่ย้ายมาจากแอฟริกาว่า “เธอโชคดีมากนะที่มีพวกเราคอยชี้แนะ” แถมยังยอมรับเด็กใหม่เข้าแก๊งพลาสติกโดยที่ตัวของเรจิน่าเองก็ไม่ได้ชอบพออะไรเคดี้มากนัก แต่ก็ต้องเอาเคดี้เข้ากลุ่มเพราะอยากควบคุมเด็กใหม่ไว้ใกล้ตัว เลี้ยงเธอไว้เป็นลูกน้อง เพื่อหวังว่าเคดี้จะไม่กลายมาเป็นคู่แข่งที่จะแย่งบัลลังก์ของเธอในอนาคต สิ่งที่เรจิน่าพูดกับคนอื่น ๆ มักไม่ใช่สิ่งที่คิดจริง ๆ ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกเคดี้ว่าน่ารักมาก แต่พอเคดี้ตอบขอบใจ เรจิน่ากลับถามว่า “เธอเห็นด้วยเหรอ เธอคิดว่าตัวเองน่ารักจริง ๆ เหรอ?” ทั้งยังแสร้งชมเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับของเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเพื่อทำให้พวกเธอประทับใจ ทั้งที่ใจจริงก็ไม่ได้คิดว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นดูดีเลยสักนิด แต่ชมเพื่อให้คนอื่นว่าเธอเป็นราชินีที่แสนจะเป็นมิตรและมีนิสัยน่ารัก เบื้องหน้าของแก๊งพลาสติกคือความสวย มั่นใจ เป็นต้นแบบไร้ที่ติ แต่เบื้องหลัง เรจิน่า เกรทเช่น และ คาเรน จะนินทาคนอื่นลงในสมุดความลับเล่มสีชมพู สร้างข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ กับเพื่อนร่วมโรงเรียนเพียงเพื่อความพอใจหรือหวังผลอะไรบางอย่าง ไม่มีใครจริงใจต่อกันทั้งนั้น เมื่อเคดี้จับพลัดจับผลูมาอยู่แก๊งพลาสติก เกรทเช่นดันรู้ความลับของเคดี้ว่าเธอชอบแฟนเก่าของเรจิน่า ปากให้คำมั่นกับเพื่อนว่า “ฉันไม่บอกเรจิน่าแน่ มันจะเป็นความลับระหว่างเรา” แต่สุดท้ายเกรทเช่นก็คาบข่าวไปบอกเรจิน่า ทำให้ควีนต้องโทรมาหาเคดี้เพื่อให้เคดี้หลอกด่าเกรท (แต่เรจิน่าโทรแบบประชุมสายเพื่อให้เกรทเช่นได้ยิน) ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนของพวกเธอปั่นประสาทเด็กใหม่ได้ไม่น้อย แม้จะหน้าไหว้หลังหลอกแต่ถ้ายังไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้ก็คงพอจะคบกันได้ ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเคดี้กับเรจิน่าถึงจุดแตกหัก เมื่อเรจิน่าเอ่ยปากเสนอตัวจะช่วยให้เคดี้สมหวังกับแฟนเก่าตัวเอง แต่สุดท้ายเรจิน่าดันกลับไปควงหนุ่มคนนั้นอีกรอบ พร้อมใส่ความว่าเคดี้เป็นผู้หญิงแปลกไม่น่าคบหา การก้าวสู่บัลลังก์ของเธอสร้างศัตรูไว้มากมาย เพราะเรจิน่าจะไม่ยอมให้ใครได้ดีหรือมีความสุขมากกว่าตัวเอง นอกจากกรณีของเคดี้ที่มีปัญหากันเพราะแย่งผู้ชาย เหยื่อผู้มีความแค้นกับเรจิน่ามากกว่าใครคงหนีไม่พ้น เจนิส เอียน (Janis Ian) อดีตเพื่อนสนิทที่ถูกเรจิน่าเขี่ยทิ้งเพราะทำให้เธอรู้สึกรำคาญ เมื่อใครทำอะไรไม่ถูกใจ ต่อต้าน น่ารำคาญหรือปฏิเสธ เธอจะจัดการให้สาสม เรจิน่าปล่อยข่าวลือว่าเจนิสเป็นเลสเบี้ยน กลายเป็นตัวประหลาดในโรงเรียน เพื่อนผู้หญิงไม่อยากอยู่ใกล้เพราะกลัวถูกแอบมองเวลาเปลี่ยนเสื้อ เจนิสถูกล้อและโดนคนทั้งโรงเรียนมองด้วยสายตาแปลก ๆ ปนรังเกียจจนต้องดร็อปเรียนไปหนึ่งปี โดยที่ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจเพราะเธอก็ไม่สามารถทำอะไรเรจิน่าได้ ใคร ๆ ก็รู้สึกว่าสาวแซ่บชื่อดังที่มีทั้งเงิน ชื่อเสียง อำนาจ จะมานั่งใส่ความผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าเธอไปทำไมกัน

“คนร้ายกาจมีอยู่สองจำพวกเท่านั้นนะ

คือคนที่ทำเรื่องร้ายกาจ

แล้วก็คนที่เห็นเรื่องร้ายกาจแต่ไม่คิดที่จะช่วยหยุดมัน”

– เจนิส เอียน

บางคนที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับเรจิน่าแล้วคิดว่าก็แค่อย่ามีเรื่องกับควีนเหมือนเจนิสกับเคดี้ คิดว่าอยู่ในแก๊งพลาสติกแล้วเรจิน่าคงไม่ทำร้ายเพื่อนหรือเป็นแฟนของตัวเองแล้วจะรอด คงต้องบอกว่าผิดทั้งหมด ครั้งหนึ่งเรจิน่าเคยนินทาคาเรนให้เคดี้ฟังว่าเพื่อนเป็นผู้หญิงสวยแต่ถูกลืมเพราะว่าเธอร่าน แล้วก็บอกคาเรนว่าเกรทเช่นเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญ แถมยังเคยห้ามไม่ให้เกรทเช่นสวมตุ้มหูแบบห่วงนานถึงสองปี เพราะตุ้มหูแบบห่วงเป็นของเรจิน่าเท่านั้น รวมถึงการนอกใจแฟนหนุ่มไปแอบแซ่บกับนักกีฬาโรงเรียนชื่อ เชน โอมาน ในห้องฉายภาพทุกวันพฤหัสบดี ไม่ว่าเพื่อนหรือแฟนเธอก็ไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้น จากตอนแรกที่เจนิสบังคับให้เคดี้เล่นตามน้ำ แกล้งเป็นเพื่อนกับเรจิน่าเพื่อทำลายควีน ในตอนนี้เคดี้มีปัญหากับเรจิน่า รวมถึงการไม่รักษาความลับของเกรทเช่น ส่งผลให้เคดี้มุ่งมั่นที่จะปั่นหัวแก๊งพลาสติกคนอื่น ๆ ให้เกลียดเรจิน่า ณ ช่วงมื้อกลางวันในโรงอาหาร เรจิน่าสวมกางเกงมาโรงเรียนทั้งที่วันนั้นไม่ใช่วันศุกร์ เธอแหกกฎโดยไม่สนว่าจะถูกทักท้วง พอเพื่อนค้านเธอกลับบอกว่า “กฎไม่ตายตัวหรอกน่า” ทั้งที่ตัวเองเคยห้ามไม่ให้เพื่อนใส่ตุ้มหูแบบห่วง ขณะที่คนอื่น ๆ ต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด แต่เรจิน่ากลับไม่แคร์ ซ้ำยังเคยตอกหน้าเพื่อนกลางโต๊ะอาหารว่า “ฉันรู้ว่ามันคืออะไร ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ” ความอดกลั้นจากการถูกกระทำหลายอย่างรวมกับการถูกเคดี้ปั่นหัว ทำให้เกรทเช่นระเบิดอารมณ์กลางโรงอาหารตะโกนใส่เรจิน่าว่า “เธอนั่งกับเราไม่ได้!” ถึงเวลาที่ เรจิน่า จอร์จ ร่วงลงจากบัลลังก์เสียแล้ว เมื่อควีนคนเก่าร่วงหล่นคนใหม่ก็ต้องขึ้นมาแทนที่ ตอนนี้เคดี้ที่เคยเหมือนกับผ้าขาวกลายเป็นถูกกลืนเข้าไปในสังคม เธอสามารถทำให้เรจิน่ามีชีวิตตกต่ำจนขีดสุด ไม่มีหน้ามีตาในสังคม เป็นสาวอวบที่ขาดความมั่นใจส่วนตัวเองขึ้นเป็นผู้นำ กลายเป็นเรจิน่าคนใหม่ที่ตัวเองเคยบอกว่าเกลียดนักหนา

“เธอไม่ได้แสร้งทำเป็นพวกพลาสติก แต่เธอเป็นไปแล้วจริง ๆ ต่างหาก”

นอกจากประเด็นการตบตีของเด็กสาวในโรงเรียนมัธยมที่ดูจะเป็นประเด็นหลักของเรื่อง ภาพยนตร์ Mean Girls ยังสอดแทรกค่านิยมบางอย่างพร้อมกับนำเสนอได้อย่างแยบคาย อย่างกรณีครูพละในคาบสุขศึกษาเคยบอกเด็ก ๆ ว่า “อย่ามีเซ็กซ์เพราะเธอจะตั้งท้องและตาย” หรือ “อย่ามีเซ็กซ์ในท่ายืน” แต่เขากลับแอบมีสัมพันธ์สวาทยืนนัวเนียกับเด็กสาวชาวเอเชียสุดฮ็อต (จึงทำให้มีนักวิจารณ์หนังบางคนคิดว่า Mean Girls แอบจิกกัดประเด็นสาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มักเข้ามาขายบริการทางเพศที่สหรัฐอเมริกา) Mean Girls ทำให้ประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของชายอเมริกันกลายเป็นตลกร้าย นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งคือ การถ่ายทอดค่านิยมบางอย่างที่ยังหลงเหลือในสังคมวัยรุ่น เมื่อแก๊งพลาสติกกับเพื่อนส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่าห้ามเข้าชมรมคณิตศาสตร์หรือไปแข่งตอบคำถามคณิตศาสตร์ เพราะจะเป็นการฆ่าตัวตายทางสังคม จิกกัดความคิดเด็กอเมริกันว่าพวกเนิร์ดน่าเบื่อ เฉิ่ม และจะโดนเพื่อนล้อ ตรงกันข้ามกับเด็ก ๆ ทางฝั่งเอเชียที่พวกเรียนเก่งส่วนใหญ่จะค่อนข้างถูกนับหน้าถือตา ไม่ใช่แค่กับโรงเรียนมัธยมนอร์ทชอร์ แต่การจัดระเบียบสังคมกับประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาวิทยาลัย ออฟฟิศ ในทุกสถานที่ที่รวมผู้คนจากหลากหลายย่อมมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเสมอ ในทุกอณูของสังคมก็จะต้องมีการเหยียด ส่อเสียด นินทา ลอบแทงข้างหลัง หรือการถูกนับหน้าถือตาด้วยรูปลักษณ์ภายนอก หน้าตา ทรัพย์สิน โดยไม่ทันได้ดูเนื้อแท้ภายใน  ด้วยประเด็นสังคมอันหนักหน่วง แต่ถูกทำให้เบาสมอง แล้วเล่าด้วยความตลกร้ายผ่านเรจิน่ากับแก๊งพลาสติก ก็นับเป็นการจิกกัดสังคมได้อย่างเจ็บแสบและชวนหัว จนทำให้ Mean Girls กลายเป็นหนังไฮสคูลขึ้นหิ้งที่ชวนให้คิดได้ถึงเสมอ   ที่มา https://meangirls.fandom.com/wiki/Regina_George https://www.bustle.com/articles/159918-mean-girls-villain-regina-george-wasnt-as-bad-as-the-burn-book-said-actually https://www.imdb.com/title/tt0377092/plotsummary https://nofilmschool.com/mean-girls-regina-george-dictator   เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์