แกเร็ธ เบล (Gareth Bale) นักฟุตบอลชื่อดังอดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกของเรอัล มาดริด มีกราฟชีวิตที่ขึ้น ๆ ลง ๆ มาตลอดนับตั้งแต่มาค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อปี 2013 ระยะหลังเบลโดนสาวกราชันชุดขาววิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอย่างหนัก บวกกับอาการบาดเจ็บเรื้อรัง รวมไปถึงปัญหากับผู้จัดการทีมของเขาอย่างซีเนอดีน ซีดาน ทั้งหมดกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เบลขาดความสม่ำเสมอในการลงสนาม
หลายปีที่ผ่านมา เบลยอมรับว่าการลงสนามในฐานะนักเตะโลส บลังโกส สร้างความกดดันให้เขาอย่างมาก และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงใหลในกีฬากอล์ฟ
"ผมไม่อยากพูดเรื่องการเมืองหรือเรื่องอะไรเลย ผมไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น ผมติดตามแต่เรื่องกอล์ฟ และผมบอกคุณได้เลยตอนนี้ว่าใครเป็นมือหนึ่งของโลก ตอนอายุ 18 ปี ฟุตบอลอาจเป็นอะไรที่คุณฝันไว้ แต่ความรู้สึกเหล่านี้ก็อาจหายไปเมื่อคุณอยู่กับมันนาน ๆ ผมยังชอบการเล่นฟุตบอลในระดับสูงอยู่นะ แต่ต้องยอมรับว่าความสนุกของมันน้อยลงไปจริง ๆ” เบลเล่า
กอล์ฟ ดูเหมือนจะเป็นกีฬาที่เบลหลงใหลอย่างหัวปักหัวปำจริง ๆ เพราะเขาถึงขั้นลงทุนสร้างสนามกอล์ฟของตัวเองไว้ที่สวนหลังบ้านในเวลส์ โดยเป็นสนามที่จำลองหลุมระดับตำนานเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เบลจะมีหลุมโปรดอยู่แล้วสองหลุม ก่อนที่เมื่อไม่นานมานี้เขาจะสร้างเพิ่มเป็นหลุม 17 ของสนาม TPC ซอว์กราส พาร์-3 ระยะ 135 หลา อีกหลุมเป็น พาร์ 4 ระยะ 505 หลาของสนาม ออกัสต้า สนามแข่งรายการเดอะมาสเตอร์
“เมื่อผมย้ายมาที่มาดริด ผมมีที่ดินที่สวยมาก ๆ อยู่ที่นี่ ซึ่งผมก็มีบางอย่างที่อยากจะทำจริง ๆ นั่นก็คือการสร้างสนามมินิกอล์ฟในบ้านของตัวเอง มันเหมือนความฝันที่เป็นจริงเลยแหละ"
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เบลแสดงอาการชัดเจนว่าเบื่อหน่ายชีวิตภายใต้การคุมทีมของซีดาน ถึงขั้นขอไม่มีส่วนกับเกมสำคัญของทีมที่ต้องพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ในวันเดียวกันเขาถูกจับภาพได้ว่าไปออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อน ๆ จนเรื่องนี้กลายเป็นกระแสวิจารณ์ออกข่าวไปทั่วโลก สร้างความไม่พอใจให้แฟนบอลมาดริด ที่มองว่าวัน ๆ เบลเอาแต่ตีกอล์ฟ ไม่สนใจฟุตบอลเท่าที่ควร ซึ่งเบลก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่เคยเข้าใจความคิดเห็นแง่ลบแบบนี้เลย และมองว่านี่เป็นแค่งานอดิเรกที่เขารักเท่านั้น
"เอาจริง ๆ นะ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหลาย ๆ คน ถึงมีปัญหากับการที่ผมชอบเล่นกอล์ฟ รู้ไหมว่าเรื่องนี้มันมักจะเป็นปัญหาเสมอ ทั้ง ๆ ที่ผมได้ปรึกษากับทีมแพทย์และนักกายภาพแล้ว ทุกคนก็โอเคกับสิ่งที่ผมทำ พวกสื่อนี่แหละตัวดีเลย พวกเขาชอบมองว่ากอล์ฟทำให้ผมมีปัญหา กอล์ฟทำให้ผมบาดเจ็บ และกอล์ฟไม่เหมาะกับผม ผมได้ดูในรายการแล้วก็เห็นสตีเฟ่น เคอร์รี่ กับอังเดร อิกัวดาล่า จะออกรอบช่วงเช้าก่อนไปซ้อมบาสเก็ตบอลด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเป็นผมเล่นกอล์ฟก่อนแข่ง 2 วัน แฟนบอลก็จะชอบพูดว่า เห็นไหม แกเร็ธ เบล ไปออกรอบอีกแล้วว่ะ
“ชีวิตผมไม่มีอะไรมาก แค่ชอบเล่นกอล์ฟ และสาเหตุที่ทำให้ผมรักมันเพราะมันทำให้ผมสามารถใช้เวลาอยู่กับลูก ครอบครัว และเพื่อน แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว เมื่อก่อนผมก็เคยคิดนะแบบมีเป้าหมาย ซื้อรถแพง ๆ สักคัน แต่ตอนหลังมันก็เปลี่ยนไป เพราะมาคิดได้ว่าทำอะไรแบบนั้นมันเหมือนเอาเงินไปโยนทิ้ง ผมเป็นคนที่มีชีวิตเรียบง่าย และผมก็มีความสุขกับชีวิตเรียบง่ายแบบนี้”
[caption id="attachment_27379" align="aligncenter" width="3097"]
ปีกชาวเวลส์ในคราบโปรกอล์ฟ[/caption]
เมื่อถูกถามว่ารักฟุตบอลต่างไปจากกอล์ฟไหม เบลก็ตอบว่า
“แน่นอน เพราะตอนนี้ฟุตบอลคืออาชีพของผม แต่กอล์ฟเป็นอะไรที่ผมสามารถออกไปแล้วเป็นตัวเองได้ ยิ้มได้ ไม่มีแรงกดดันหรือต้องเครียดอะไร แค่ตีลูกออกไป สำหรับผมการลงเล่นในเกมฟุตบอลเป็นเรื่องที่กดดันมาก ๆ ในทุก ๆ เกม หากคุณเล่นได้ไม่ดีเท่ากับมาตรฐาน มันจะกดดันมาก ๆ เพราะอย่าลืมว่าคุณต้องลงเล่นในสนามที่มีคนถึง 80,000 คนทุกสัปดาห์ แถมเวลาเล่นไม่ดีก็จะโดนโห่ใส่ด้วย แน่นอนว่ามันแย่มาก ๆ ผมเคยโดนอยู่เรื่อย ๆ”
เบลที่มักจะเจ็บอยู่บ่อย ๆ แถมฟอร์มตกอยู่เรื่อย ๆ มักจะโดนแฟนบอลตัวเองโห่ใส่บ่อย ๆ ซึ่งปีกชาวเวลส์ก็มองว่า ทุกวันนี้เขาก็ไม่เคยเข้าใจเลยว่าแฟน ๆ จะโห่เขาทำไม ในเมื่อเขาทุ่มเทให้สโมสรขนาดนั้น
“ผมก็ไม่รู้ นี่เป็นคำถามที่ผมก็ไม่ได้รับคำตอบเหมือนกัน คุณคาดหวังให้แฟน ๆ สนับสนุนคุณตอนที่คุณเล่นไม่ดี เพื่อที่ว่ากำลังใจนั้นจะทำให้คุณพัฒนาตัวเอง และทำให้แฟน ๆ มีความสุขในเกมหน้า แต่นี่มันกลับกันเลย อะไรแบบนี้จะทำให้คุณเสียความมั่นใจ เสียความรู้สึก และพอคุณเล่นไม่ดีก็จะทำให้แฟน ๆ หัวเสียอีก”
เบลเสริมว่า ณ จุดหนึ่งเขาจึงมองหาสิ่งที่จะช่วยให้เขาผ่อนคลายขึ้น เพราะฉะนั้นกอล์ฟจึงเปรียบเหมือนการบำบัดสำหรับเขา
“การได้อยู่ในสนามกอล์ฟ ทำให้ผมเหมือนได้ทิ้งความรู้สึกแย่ ๆ ต่าง ๆ ออกไป ผมเคยออกรอบกับเพื่อน แล้วแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องฟุตบอล”
เมื่อถูกถามว่ากอล์ฟช่วยให้เขาเล่นฟุตบอลได้ดีขึ้นหรือเปล่า เบลก็ตอบกลับว่า
“แน่นอน แต่คนอื่นไม่คิดแบบนั้นนะโดยเฉพาะในสเปน กอล์ฟทำให้ผมหัวโล่ง ทำให้ผมรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น เพราะเวลาคุณเล่นฟุตบอล พอคุณกลับมาเจอเรื่องฟุตบอล หรือมีคนมาพูดเรื่องฟุตบอลกับคุณ บางครั้งมันก็มากเกินไปที่คุณจะรับไว้ และแน่นอนมันอาจส่งผลให้คุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตได้เลย
“ที่ผมชอบออกมาตีกอล์ฟ เพราะว่าหากคุณมีเกมที่เล่นไม่ดี แล้ววันต่อมาคุณได้หยุดพัก หากคุณใช้เวลาว่างเหล่านั้นหมดไปกับการมานั่งคิดว่า ‘เฮ้ย นี่เราทำอะไรไปวะ ทำไมเล่นแบบนั้น’ ผมว่าการมานั่งคิดแบบนั้นมันทำให้เสียสุขภาพจิต เพราะฉะนั้นการออกไปตีกอล์ฟและได้ผ่อนคลาย มันช่วยให้คุณเลิกคิดหรือต่อยอดความคิดแง่ลบต่าง ๆ และกลับมามีสมาธิอีกครั้ง”
แม้กอล์ฟกับฟุตบอลจะเป็นกีฬาเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ก็มีวัฒนธรรมที่ต่างกันด้วย ซึ่งเบลก็ยอมรับว่าทั้งสองกีฬาต่างกันอย่างมากในเรื่องการวัดผล
“กอล์ฟเป็นกีฬาที่วัดผลที่คะแนนหรือผลลัพธ์ แต่ฟุตบอลวัดกันที่ทุกอย่างรอบตัวคุณ คุณอาจจะมีเกมที่ดีเล่นได้เยี่ยมตลอดห้าเกมหลังสุด แต่ยิงประตูไม่ได้ แอสซิสต์ไม่ได้ คนก็จะมาบอกว่าคุณเล่นได้แย่ เพราะพวกเขาคาดหวังอะไรแบบนั้นจากตัวคุณ ซึ่งต่างจากนักกอล์ฟที่คะแนนออกมาไม่ดี แต่เล่นดี ทุกอย่างก็อาจดูไม่แย่ขนาดนั้น แน่นอนว่าทุกคนมีความเห็นของตัวเอง ผมเองก็แค่คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด ผมจำได้ตอนเกมเปิดตัวขึ้นชุดใหญ่เซาแทมป์ตัน ตอนนั้นผมอายุ 16 ปี วันรุ่งขึ้นตามหนังสือพิมพ์ รายงานว่าผมเล่นได้ไม่ดี ตอนนั้นความมั่นใจผมรูดลงเลย แต่แม่ก็มาปลอบผมว่าอย่าไปอ่านอะไรแบบนี้ ผมว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาก็คือ คุณรู้ตัวว่าตัวเองเล่นดีหรือแย่อย่างไร หากคิดว่าตัวเองเล่นได้ดีแล้ว จงรักษาความมั่นใจนั้นไว้ อย่าไปฟังความเห็นของคนอื่น”
[caption id="attachment_27380" align="aligncenter" width="1536"]
ปีกชาวเวลส์ในคราบโปรกอล์ฟ[/caption]
แม้จะถูกวิจารณ์และต่อว่ามาตลอด แต่สุดท้ายดูเหมือนกอล์ฟจะช่วยให้เขาก้าวข้ามคำด่าเหล่านั้นไปได้ในที่สุด
“ผมก้าวข้ามเรื่องแบบนั้นมาแล้วแหละ ผมเลิกไล่อ่านคอมเมนต์แล้ว หากผมสนใจอะไรแบบนั้นมากไปอาจเสียสุขภาพจิตได้ ลองคิดดูว่าหากมีคอมเมนต์ดี ๆ สัก 1,000 ข้อความ แต่กลับมีความเห็นแย่ ๆ โผล่มาแค่อันเดียว คุณก็อาจจะรู้สึกแย่ไปเลย จนมันส่งผลต่ออาชีพของคุณ”
ปัจจุบัน เบลกำลังอำลาเรอัล มาดริด ไปตามหาความท้าทายใหม่อีกครั้ง เบลทิ้งท้ายในบทสัมภาษณ์ว่า แม้คนจะมองเขาในแง่ร้าย หรือมองว่าเป็นพวกขาดสปิริต แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาอยากทำในชีวิตก็ยังคงเป็นฟุตบอลเหมือนเดิม
“ตอนเด็ก ๆ ครูชอบบอกผมว่า ‘แกเร็ธ เธอต้องมีแผนสำรองในชีวิตนะ’ แต่ผมไม่เคยมีแผนสองเลย ผมบอกพวกเขาไปว่า ไม่ ไม่ ผมอยากเป็นแค่นักฟุตบอลอาชีพ ตอนผมอยู่เซาแทมป์ตัน ผมแค่อยากขึ้นชุดใหญ่ นั่นคือเป้าหมายของผม ผมว่าการที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ มักจะช่วยผลักดันให้คุณมีแรงฮึดเพื่อเป้าหมายต่อไปเรื่อย ๆ”