วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ศรีฟ้าเบเกอรี่ ขนมดังในกาญจน์ สู่ชีสเค้กขายทั่วไทย

วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ศรีฟ้าเบเกอรี่ ขนมดังในกาญจน์ สู่ชีสเค้กขายทั่วไทย

อุปสรรคซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เคยทำให้ วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ท้อถอย เขาเลือกพลิกวิกฤตเป็นโอกาส จนเกิดเป็น ศรีฟ้าเบเกอรี่ ทุกวันนี้ ขนมเบเกอรี่ไม่ได้ขายดีเฉพาะ จังหวัดกาญจนบุรี บ้านเกิดของแบรนด์ แต่ส่งต่อผ่านร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ดังไกลหลายประเทศ

อุปสรรคที่โถมเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่เคยทำให้ วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ท้อถอย เพราะเขาเลือกจะพลิกวิกฤตเหล่านั้นให้เป็นโอกาสจนเกิดเป็น “ศรีฟ้าเบเกอรี่” ที่ทุกวันนี้ขนมเบเกอรี่สารพัดชนิดไม่ได้ขายดิบขายดีอยู่เฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเกิดของแบรนด์ แต่ส่งความอร่อยถึงทุกคนผ่านร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ รวมทั้งยังดังไกลในหลายประเทศ วิเชียรเติบโตในครอบครัวที่ฐานะยากจน พ่อของเขาเปิดร้านขายข้าวขาหมู ขายก๋วยเตี๋ยว ขายลูกชิ้น เพื่อส่งลูก ๆ ทั้ง 7 คนเรียนหนังสือ หลังจบ ม.ศ.3 วิเชียรต้องการเรียนต่อ แต่พ่อไม่อนุญาตเพราะอยากให้เขาทำงานช่วยส่งเสียน้อง ๆ อีก 6 คน จากนั้นพ่อก็ส่งเขาไปเป็นเด็กประจำอู่ซ่อมรถที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง แต่ทำไปได้พักหนึ่งก็เกิดอุบัติเหตุอุปกรณ์กระแทกที่คิ้วอย่างแรง เขาพักรักษาตัวจนอาการดีขึ้นก็ลาออกแล้วเดินทางกลับบ้านที่กาญจนบุรี ในเมื่อความฝันมีมากกว่าการทำงานร้านอาหาร หลังจากช่วยพ่อที่ร้านข้าวขาหมู “ศรีฟ้า” ได้ราว 2 ปี วิเชียรก็ตัดสินใจเผชิญชีวิตข้างหน้าด้วยเงินติดตัว 40 บาท เดินทางจากเมืองกาญจน์เข้ากรุงเทพฯ ที่น่าจะพอมีโอกาสให้เขาได้แสวงหาบ้าง เขาเริ่มจากการไปช่วยงานญาติที่เปิดร้านขายรองเท้า เก็บหอมรอมริบจนได้เงินก้อนหนึ่งก็เอาไปลงเรียนภาษาอังกฤษที่สถานสอนภาษา เอยูเอ จังหวะเหมาะเมื่อมีบริษัทเปิดรับสมัครพนักงานขายของในห้าง วิเชียรจึงได้เป็นพนักงานขายนาฬิกาที่ห้างเมอร์รี่คิงส์ เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม ต่อด้วยการเป็นบาร์เทนเดอร์ที่โรงแรมแมนดารินตั้งแต่ 2 ทุ่มถึงตี 2 กลับบ้านอาบน้ำแล้วก็รีบนอน เพื่อที่ตื่นมาจะได้ลุยงานต่อ กระทั่งเก็บเงินได้บ้างเขาจึงเลิกทำงานกลางคืน แล้วย้ายไปเป็นพนักงานขายที่ห้างไทยไดมารู ย่านพระโขนง อยู่แผนกนาฬิกา แว่นตา กล้องถ่ายรูป ฯลฯ หลายปีผ่านไป วิเชียรนำเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงราว 7 หมื่นบาทกลับบ้านที่กาญจนบุรี วางแผนทำธุรกิจค้าขายกล้องถ่ายรูปและนาฬิกา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาคลุกคลีสมัยเป็นพนักงานห้าง แต่สินค้าดังกล่าวต้องใช้เงินทุนเยอะ เขาจึงคิดเปลี่ยนเส้นทางหารายได้เสียใหม่ และไอเดียการทำ “ขนมไข่” ก็วาบเข้ามา เหตุเพราะเป็นขนมที่คนส่วนใหญ่คุ้นกันดีและสามารถขายได้ในราคาถูก วิเชียรมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อหาสูตรขนมไข่รสชาติเยี่ยม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอสูตรที่ถูกใจ จึงต้องบ่ายหน้ากลับเมืองกาญจน์ เขาวางแผนเปิดร้านเบเกอรี่แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามที่ฝัน ถึงจะล้มหลายครั้งแต่วิเชียรไม่เคยยอมแพ้ เขามุ่งมั่นกับการหาสูตรเด็ดเบเกอรี่ถึงขั้นไปทำงานในร้านเบเกอรี่หลายแห่งเพื่อเรียนรู้สูตรทำขนมแบบครูพักลักจำอยู่หลายปี รวมทั้งไปสมัครเรียนหลักสูตรทำเบเกอรี่ของโรงเรียนสอนทำขนมอบสดยูเอฟเอ็ม ก่อนกลับกาญจนบุรีไปเปิดร้าน “ศรีฟ้าเบเกอรี่” ในปี 2529 วิเชียรทำความฝันได้สำเร็จแล้วหนึ่งอย่างคือการเปิดร้านเบเกอรี่ แต่ยอดขายวันแรกซึ่งอยู่ที่ 30 บาท ก็ทำเอาเขาใจแป้วไม่น้อย แต่เมื่อคิดจะเดินหน้าก็ต้องไปให้สุด เขาเริ่มวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของศรีฟ้าเบเกอรี่ ทั้งสูตรขนม คุณภาพ ราคา บริการ ฯลฯ อย่างจริงจัง และหยิบ “ความหลากหลาย” ของสินค้าที่มีทั้งขนมปัง พัฟ พาย เค้กรสชาติต่าง ๆ มาเป็นจุดขาย เน้นความสะอาดและความสดใหม่ และขายในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ง่าย จนยอดขายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งวิเชียรมีเงินพอจะขยายสาขาไปยังพื้นที่อื่นในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอย่างนครปฐมและราชบุรี จากร้านเบเกอรี่ขวัญใจคนเมืองกาญจน์ วิเชียรคิดการณ์ไกลด้วยการให้ศรีฟ้าเบเกอรี่เป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวด้วยอีกกลุ่ม ปี 2540 เขาจึงเปิดร้านของฝากศรีฟ้า ติดถนนแสงชูโตสายใหม่ ในอำเภอท่าม่วง ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก พร้อมกับพัฒนาสินค้าตัวใหม่อย่าง “เค้กฝอยทอง” ให้เป็นของฝากจากเมืองกาญจน์ที่สามารถเก็บได้นานหลายวัน นอกจากเค้กฝอยทอง ศรีฟ้าเบเกอรี่ยังหยิบ “ทองม้วน” ขนมที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีมาพัฒนาสูตรให้อร่อยยิ่งขึ้น ทำทองม้วนให้เล็กลงเพื่อให้สะดวกกินในคำเดียว ใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบทันสมัยเป็นการเพิ่มมูลค่า แล้วเน้นส่งออกตลาดต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฯลฯ จนกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมตีคู่มากับเค้กฝอยทอง วิเชียรยังสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการรับจ้างผลิตเบเกอรี่ป้อนโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พัฒนาสินค้าเบเกอรี่ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าโมเดิร์นเทรดเจ้าใหญ่ รวมทั้งในปี 2560 ที่ร่วมทุนกับ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ที่มี The Pizza Company, Swensen’s, Sizzler เป็นต้น อยู่ในความดูแล) ด้วยงบกว่า 600 ล้านบาท ตั้งบริษัทผลิตแผ่นแป้งแช่แข็งเพื่อขายให้โรงงานเบเกอรี่และร้านเบเกอรี่ต่าง ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ขาดไม่ได้คือการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ร่วมกับบริษัทญี่ปุ่น ส่งตรงถึงผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องอย่าง “ชีสเค้ก” ที่กลายเป็นสินค้าขายดีในปีนี้ (ไม่นานมานี้มีกระแสแบนชีสเค้กของศรีฟ้าเบเกอรี่ที่วางขายในร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ เพราะหลายคนเข้าใจว่าศรีฟ้าเบเกอรี่กว้านซื้อครีมชีสซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญไปผลิตชีสเค้กจนเกลี้ยงตลาด จนผู้บริหารต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว) ความล้มเหลวเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ซึ่งหากพลิกให้กลายเป็นด้านที่ผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าแล้ว ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินหวัง   ที่มา นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับมิถุนายน 2014 รายการ the IDOL วิเชียร เจนตระกูลโรจน์ https://www.youtube.com/watch?v=tS4Ry9ijPEE