เท็ตสึโกะ คุโรยานางิ: จากเด็กหญิงข้างหน้าต่าง สู่นักแสดงหญิงคนแรกของ NHK
ถ้าพูดถึง "โต๊ะโตะจัง" หลายคนคงคุ้นชื่อนี้กันดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชื่อวรรณกรรมชื่อดังเรื่อง "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" เธอมีตัวตนจริง ชื่อจริงของเธอก็คือ “เท็ตซึโกะ คุโรยานางิ”
เธอไม่ได้เป็นแค่เจ้าของงานเขียนที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่ยังเป็นนักแสดง พิธีกร ผู้มีชื่อเสียงมาก ๆ ในญี่ปุ่นด้วย
แต่รู้ไหมว่า ก่อนหน้านี้ เรื่องอาชีพนักแสดง หรือพิธีกร ไม่ได้อยู่ในความฝันของเธอเลย แต่เธอฝันอยากเป็นสายลับ และครูโรงเรียน “โทโมเอ” - โรงเรียนที่พลิกชีวิตของเท็ตสึโกะ หรือ “โตะโต๊ะจัง”นั่นเอง
เรื่องราววัยเด็กของเธอนั้น ปรากฏในหนังสือ “โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง” เขียนโดยตัวเท็ตสึโกะ คุโรยานางิ (แปลโดย ผุสดี นาวาวิจิต สำนักพิมพ์ผีเสื้อ) หนังสือเล่มนี้อาจจะเคยผ่านตาและเป็นที่รักของนักอ่านหลายคน
หากมองภาพของเท็ตสึโกะดูเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง และมั่นใจในความเป็นตัวเองมาก แต่หากย้อนกลับไปในวัยเด็กของเธอ จะเห็นภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แตกต่างจากคนอื่น มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง ช่างพูด ช่างเจรจา พูดไม่หยุด
คุณจะรู้สึกอย่างไร หากเจอเด็กคนหนึ่งเปิดปิดฝาโต๊ะเรียนเป็นร้อยรอบ บางทีก็เป็นยืนอยู่ข้างหน้าต่าง แล้วตะโกนคุยกับผู้คนที่อยู่บนท้องถนนด้านล่าง บางทีก็เงยขึ้นฟ้า เพื่อคุยทักทายกับนกนางแอ่น แน่นอนว่า เรื่องราวเหล่านี้ เกิดขึ้นในขณะที่ครูกำลังสอน และเด็กคนอื่น ๆ กำลังนักเรียนอยู่
และเด็กที่ทำวีรกรรมดังกล่าวคือ “เท็ตสึโกะ คุโรยานางิ” หรือโต๊ะโตะจังนั่นเอง
จากพฤติกรรมข้างต้น ได้สร้างความกวนใจให้ทั้งครูและเพื่อนนักเรียนทั้งโรงเรียนอยู่ไม่น้อย จนวันหนึ่งแม่ของโต๊ะโตะจังถูกเรียกไปคุยที่โรงเรียน เพื่อ “ไล่โต๊ะโตะจังออก” จากโรงเรียน โชคดีที่แม่ของโต๊ะโตะจังเป็นคนใจดี เธอรับฟัง “ครูประจำชั้น” คนนั้นเล่าทุกอย่างด้วยความเข้าใจ แล้วพาลูกของตัวเองหรือโต๊ะโต๊ะจังออกไปจากโรงเรียนนี้ และหาโรงเรียนใหม่ที่เหมาะกับเธอ
...โดยไม่ได้บอกโต๊ะโตะจังว่า “ถูกไล่ออก”
ดูเหมือนว่า นั่นคือจุดเปลี่ยนของโต๊ะโตะจังอยู่เช่นกัน เธอได้ไปเจอโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ไม่เหมือนที่ไหนเลย ห้องเรียนเป็นตู้รถไฟเก่าที่ภายในถูกเนรมิตเป็นห้องเรียน เมื่อเข้าไปนั่ง ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งเรียนไปด้วย นั่งรถไฟท่องเที่ยวไปด้วย
โรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่า “โทโมเอ” และมีครูใหญ่ที่แสนใจดีชื่อว่า “ครูโคบายาชิ”
ในวันแรกที่แม่พาโต๊ะโตะจังไปดูโรงเรียน ครูโคบายาชิได้ขอคุยกับโต๊ะโตะจังไปการส่วนตัว แม่ของเธอเป็นกังวลมากว่า โรงเรียนแห่งนี้จะรับโต๊ะโตะจังเข้าเรียนไหม เพราะโต๊ะโตะจังไม่เหมือนเด็กคนอื่น ที่ช่างพูด ช่างเจรจา อยู่ไม่สุข จับนู่น ทำนี่ตลอดเวลา
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ครูโคบายาชินั่งฟังสิ่งที่โต๊ะโตะอยากจะพูดนานถึง 4 ชั่วโมง และหลังจากนั้นก็รับโต๊ะโตะจังเข้าเรียนทันที
โต๊ะโตะจังในตอนนั้น เข้าใจแค่ว่า ต้องย้ายไปเรียนที่ใหม่ เธอเด็กเกินไปที่จะรับรู้ว่า จริง ๆ แล้ว ทุกคนที่โรงเรียนเก่าคิดกับอย่างไรกับเธอ แต่เธอก็ฉลาดมากพอ ที่จะรับรู้ความรู้สึกบางอย่างจากสายตาของคนเหล่านั้นที่พยายามจะสื่อสารว่า
เธอแปลกและแตกต่างจากคนอื่น
แต่ที่โรงเรียนโทโมเอแห่งนี้ กลับไม่ทำให้โต๊ะโตะจังรู้สึกแตกต่างจากคนอื่น
เด็กในห้องเรียนแต่ละคน ไม่มีใครเหมือนกันเลย บางคนก็มีความบกพร่องทางร่างกาย บางคนก็มีรูปร่าง หน้าตาที่ต่างกัน ในขณะที่โต๊ะโตะจังพูดเก่ง ก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่รู้จะเล่าอะไรเช่นกัน แต่ทุกคนก็เป็นเพื่อนกันได้ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ที่แห่งนี้กลับทำให้เธอเข้าใจในความแตกต่าง และเรียนรู้ว่าเราทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ โดยที่เราเป็นตัวของตัวเอง และสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือ “การเป็นคนดี”
และจากความแตกต่างนี่เอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้รู้จัก “โทรทัศน์” และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ครั้งหนึ่งโรงเรียนได้ไปตั้งแคมป์กลางป่ากัน และได้มีการแบ่งต้นไม้ให้กับนักเรียนแต่ละคน
ใครจะปีนต้นไหน ต้องขออนุญาตเจ้าของต้นไม้ก่อน
แต่มีเด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปชมวิวสวย ๆ บนต้นไม้ได้นั่นก็คือ “ยาสึอากิ” เพื่อนของโต๊ะโตะจัง ที่เป็นโปลิโอ
แต่ถึงอย่างนั้น โต๊ะโตะก็ไม่ได้มองว่านั่นคือความแตกต่าง หรือเขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา เธอกลับรู้สึกว่า อยากให้ยาสึอากิได้ขึ้นมาบนต้นไม้เห็นวิวสวย ๆ อย่างเธอบ้าง โต๊ะโตะจังเลยแอบคุณครู พายาสึอากิขึ้นต้นไม้ด้วยความทุลักทุเล และในท้ายที่สุด เธอก็พายาสึอากิขึ้นมายังบนต้นไม้ได้
จริง ๆ แล้ว โต๊ะโตะจังไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ แต่ด้วยจิตใจที่ “ดี” และ “บริสุทธิ์” ของเธอ เธอจึงพยายามอย่างสุดหัวใจ เพื่อให้เพื่อนได้มีความสุข
นั่นเป็นครั้งแรกที่ยาสึอากิได้ขึ้นไปบนต้นไม้ และได้เห็นวิวงดงามที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ส่วนโต๊ะโตะจังก็ได้รู้เรื่องที่น่าสนใจจากยาสึอากิว่า เขาเคยได้ดูโทรทัศน์กับพี่สาวที่อเมริกา โทรทัศน์มีลักษณะคล้าย ๆ กับกล่อง ถ้าญี่ปุ่นมีโทรทัศน์กับเขาบ้างก็คงจะดู เราคงจะได้นอนดูซูโม่อย่างสบาย ๆ ที่บ้าน
ในตอนนั้นโต๊ะโตะจังไม่เข้าใจหรอกว่า โทรทัศน์มันเป็นอย่างไร แล้วซูโม่จะออกมาจากกล่องได้อย่างไรกันนะ
แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าโทรทัศน์
วงการที่เธอพยายามจะเข้ามาให้ได้เมื่อเธอเติบโตขึ้น
แต่ในตอนแรก โต๊ะโตะจังไม่ได้มีความฝันอยากจะเป็นนักแสดง หรือทำงานในวงการโทรทัศน์เลยแม้แต่นิด
ความฝันที่แท้จริงของเธอคือเป็น “สายลับ”
และวันหนึ่งเธอก็ได้พูดคุยกับ “ไทจัง” เพื่อนคนสนิทในวัยเด็ก ในบทสนทนาของเด็กวัยไร้เดียงสากลับทำให้เธอเข้าใจว่า เธออาจไม่เหมาะกับการเป็นสายลับหรอก เพราะช่างพูดขนาดนี้ความลับอาจจะแตกได้
แล้วเธอจะเป็นอะไรดีละ?
จนในที่สุด เธอก็ลองมามองสิ่งใกล้ตัว และรับรู้ว่า
เธอรักโรงเรียนโทโมเอ คุณครูโคบายาชิ และเพื่อน ๆ ทุกคนที่นี่ เธอเลยอยากให้โรงเรียนนี้คงอยู่ต่อไป เลยตัดสินใจที่จะเป็นคุณครูที่โรงเรียนแห่งนี้
แต่แล้วโรงเรียนนี้ก็ต้องมอดไหม้หายไปกับระเบิดสงครามโลก เลยทำให้โต๊ะโตะจังไม่สามารถสานฝันนี้ต่อได้ แต่เรื่องราวในวัยเด็กนี้ ก็ทำให้เธอเติบโตขึ้นในแบบของตัวเอง และยึดมั่นในทางที่เลือกเดิน แม้จะแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ไปบ้าง
เมื่อโต๊ะโตะจังเติบโตขึ้น เธอก็มาพร้อมกับความฝันใหม่ เธออยากเป็นนักเล่านิทาน หรืออาชีพอะไรก็ได้ที่ได้พูด (เพราะเธอชอบพูดนั่นเอง) และจุดเปลี่ยนของเด็กสาวคนนี้ก็มาถึง
วันหนึ่งทางช่อง NHK ประกาศรับสมัครนักแสดงหญิง แม้จะดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แม้เธอจะรู้ดีว่า เธอก็ไม่ใช่คนสวยงามอะไรมากมาย แต่อาชีพนี้ จะช่วยทำให้เธอได้ทำในสิ่งที่ฝัน คือการได้พูด ได้แสดงฃ
เท็ตสึโกะเลยตัดสินใจเข้าสมัครและแน่นอนว่าก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ต่าง ๆ นานา
บางคนก็บอกว่า
"เธอน่ะประหลาดกว่าชาวบ้าน"
"เข้ามารอบสุดท้ายได้ ก็เพราะความไม่มีสง่าราศี และทำอะไรไม่เป็นอย่างเธอนั่นแหละ"
แม้เธอจะผ่านการใช้ชีวิตในโรงเรียนโทโมเอมา ซึมซับความแตกต่างที่กลมกลืนกันได้ในสังคม แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้เธออดคิดเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ล้มละความพยายาม ใช้ความสามารถในแบบที่ตัวเองเป็นมาเรื่อย ๆ จนชนะรอบสุดท้าย ได้เข้าไปเป็นนักพากย์ ก่อนที่จะก้าวเป็นนักแสดงหญิงคนแรกของ NHK ที่มีคิวทองสุด ๆ พอเธอทราบผลการตัดสิน สิ่งแรกที่เธอได้พูดกับอาจารย์นักเขียนบทก็คือ
“ทุกคนพูดกับฉันว่าวิธีการพูดและการร้องของฉันแปลก
ฉันจะแก้ไขและควบคุมตัวเองค่ะ
ฉันจะเรียนรู้และจะพยายามอย่างเต็มที่”
แต่อาจารย์คนนั้นกลับตอบกลับมาว่า...
“คุณไม่จำเป็นต้องแก้ไขอะไรทั้งนั้น
คุณพูดแบบนี้น่ะดีแล้ว
ผมขอให้คุณเป็นอย่างที่เป็นอยู่
เพราะผมอยากได้เอกลักษณ์ของคุณ
คุณไม่แปลกเลยสักนิด
คุณเป็นแบบนี้ดีแล้ว”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็มีนักแสดงชื่อ ตัวเท็ตสึโกะ คุโรยานางิ โลดแล่นในวงการบันเทิง แม้บางคนจะมองว่าการพูด น้ำเสียง และบุคลิกของเธอจะแปลกไปกว่าคนอื่น แต่สิ่งนี้คือเอกลักษณ์ ที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้
“มนุษย์เราส่วนใหญ่มักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สมัยอยู่ NHK ฉันก็เคยคิดว่า
“จริง ๆ แล้ว ฉันไม่ใช่คนสวยเลยนะ แต่คิดไปแล้วมันไม่เกิดประโยชน์อะไร
“สุดท้ายก็ไม่คิด ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นดีกว่า ตัวเราก็คือตัวเรา อย่ากังวลมากไป
“อย่าคิดเรื่องที่ไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร เราแค่ทำให้ดีที่สุด”
เคยไหม ที่หลายครั้งเราก็เผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จนลืมไปว่า จริง ๆ แล้วตัวตนเราเป็นอย่างไร บางทีเราไม่จำเป็นต้องสวยหรือมีความสามารถทัดเทียมกับใครก็ได้ แทนที่จะเปรียบเทียบกับคนอื่น ลองเปลี่ยนมาเป็นการคิดว่า “วันนี้เราทำดีที่สุด” แล้วหรือยัง เหมือนกับเท็ตสึโกะ ผู้ไม่เปรียบเทียบกับใคร และตั้งใจทำทุกวันที่ดีที่สุด แม้จะเกิดมาด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ
แต่ความไม่สมบูรณ์นั้นเอง เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเธองดงามอย่างที่ควรจะเป็น
ที่มา:
ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Totto-chan! ช่อง TV Asahi
หนังสือเรื่อง “โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง” เขียนโดย เท็ตสึโกะ คุโรยานางิ แปลโดย ผุสดี นาวาวิจิต
เรื่อง: ปรียานุช หลักคำ