บรูโน มาร์ส: เขียนอนาคตด้วย Billionaire เพลงเปลี่ยนเด็กยากไร้กลายเป็นเศรษฐี
I wanna be a billionaire so fuckin’ bad. (ฉันโคตรอยากเป็นเศรษฐีมาก ๆ)
ประโยคเปิดของเพลง Billionare ที่แต่งและร้องโดย บรูโน มาร์ส (Bruno Mars) นักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน ต้องใช้คำว่า “สวัสดีเรามาจากโลกอนาคต” เพราะวันนั้นที่เขาเขียนเพลงนี้ขึ้นมา เขาอาจจะไม่ได้นึกว่า ฝันของเขาจะเป็นจริง กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ เป็นเศรษฐีร้อยล้านในวันนี้
ชีวิตของเด็กยากไร้ที่ขัดเกลาฝีมือตัวเองจนกลายเป็นศิลปินดังระดับโลก มันเริ่มต้นอย่างนี้...
บรูโน มาร์ส มีชื่อจริงว่า ปีเตอร์ จีน เฮอร์แนนเดซ (Peter Gene Hernandez) เกิดและโตที่ฮอโนลูลู ฮาวาย บรูโนโตมากับเสียงเพลงและการเอนเตอร์เทนผู้คนมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของบรูโนมีวงเป็นของตัวเอง
สมาชิกในบ้าน รวมถึงตัวบรูโนเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีของครอบครัวตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มแสดงบนเวทีกับวงของครอบครัวตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ผู้คนต่างจำเขาได้กับบทบาทเด็กน้อยน่ารัก ตาโตที่แสดงท่าร้องและเต้นเลียนแบบเอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ความน่ารักของเด็กน้อยบรูโนในวันนั้น ทำให้ในปี 1992 ตอนที่บรูโน่อายุ 7 ขวบ เขาเคยได้รับบทเล็ก ๆ เป็นนักแสดงเลียนแบบเอลวิส ในหนังเรื่อง Honeymoon in Vegas อีกด้วย
เส้นทางชีวิตของบรูโน ไม่ได้ง่ายดายและงดงามเหมือนรอยยิ้มที่เราได้เห็นกันบนใบหน้าเขาอย่างทุกวันนี้ บรูโนมีชีวิตในวัยเด็กที่ค่อนข้างลำบาก พ่อกับแม่ของเขาหย่ากันตั้งแต่อายุ 12 เขาอยู่กับพ่อและมีชีวิตที่ค่อนข้างอัตคัดเพราะฐานะและรายได้ของพ่อเขาที่มีไม่มากนัก แต่บรูโนเองก็ยังไม่ละทิ้งความรักที่เขามีต่อดนตรี ด้วยฐานะที่ค่อนข้างยากจน บรูโนจึงไม่มีเงินไปเรียนดนตรีแบบเด็กคนอื่น ๆ เขาจึงเรียนรู้การเล่นดนตรีด้วยตัวเอง จนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง เช่น เปียโน กลอง กีต้าร์ เบส เพอร์คัชชัน
พอจบไฮสคูลที่ฮาวาย บรูโนตัดสินใจบินไปที่แอลเอด้วยความหวังจะที่เป็นศิลปินและได้ออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง โดยตอนนั้นเขาคิดเพียงแค่ว่า ถ้าเขาไปถึงแอลเอ เขาเพียงไปพบโปรดิวเซอร์มือทองสักคนแล้วร้องเพลงให้เขาฟัง แค่นั้นเขาก็จะได้ออกอัลบั้ม บรูโนเคยให้สัมภาษณ์กับ Rollingstone ไว้ว่า
“ตอนนั้นผมเด็กมาก ผมคิดแค่ว่า ผมต้องไปฮอลลีวูด ไปร้องเพลงให้ใครสักคนฟัง แค่นั้นผมก็จะได้เล่นที่แมดิสันสแควร์ การ์เดนแล้ว”
แต่ชีวิตการเป็นศิลปินมันไม่ได้ง่ายแบบที่บรูโนน้อยคิดไว้ หลังจากที่เขามาฮอลลีวูดเขาเคยเซ็นสัญญากับค่ายโมทาวน์ (Motown records) และ เวสต์ไซด์ อินเดเพนเดน (Westside independent) แต่ก็ไม่ได้ออกอัลบั้ม บรูโนต้องตั้งวงเป็นของตัวเองและเล่นเพลงคัฟเวอร์ของศิลปินคนอื่น ๆ และตระเวนเล่นดนตรีทั่วแอลเอ เพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเอง การที่เขาได้มีโอกาสเข้าไปเซ็นสัญญาที่โมทาวน์ และ เวสต์ไซด์ อินเดเพนเดน นั้นไมได้สูญเปล่า มันทำให้เขาได้เริ่มรู้จักกับกลุ่มโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงในฮอลลีวูดมากขึ้น และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บรูโนได้มีโอกาสเขียนเพลงให้ศิลปินดัง ๆ มากมายเช่น Long Distance ที่ร้องโดย Brandy และเพลงฮิตอย่าง Fuck You ที่ร้องโดย Cee Lo Green
ตอนบรูโนย้ายมาอยู่ที่แอลเอ และเลี้ยงชีวิตของตัวเองด้วยการร้องเพลงคัฟเวอร์ของศิลปินต่าง ๆ พร้อม ๆ ไปกับการพยายามหาทางออกอัลบั้ม เขาเคยเล่าว่า บริเวณที่เขาอาศัยอยู่ มักจะมีคนจรจัดมาถ่ายอุจจาระไว้ที่กลางถนนตรงลานจอดรถ “มันบ้ามากเลยที่มีคนทำแบบนั้น และไม่มีคนมาเก็บกวาดทำความสะอาดมันด้วย (กลิ่น)นั่นเป็นเครื่องย้ำเตือนผมทุกเช้าที่ผมตื่น ว่าผมกำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน” นั่นเป็นอีกหนึ่งประโยคที่บรูโนเคยเล่าไว้ว่าเขาเคยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ก่อนที่จะเป็น บรูโน มาร์ส อย่างทุกวันนี้
ปี 2010 บรูโนได้ปล่อยเพลงแรกของเขาต่อสาธารณชนสักที นั่นคือเพลง Nothin’ on you เป็นเพลงที่เขาไปฟีเจอร์ริงกับศิลปินฮิปฮอปชาวอเมริกัน อย่าง B.o.B. และตามมาติด ๆ กัน เพลงที่สองที่บรูโนได้มีโอกาสไปร้องฟีเจอร์ริงให้กับศิลปินแรปเปอร์ชื่อดังอย่าง Travie McCoy(ทราวี แมคคอย)คือ เพลง Billionaire ทั้งสองเพลงนี้บรูโนได้ร่วมเขียน ร่วมโปรดิวซ์แถมเรียกได้ว่าได้ร้องเป็นเมนหลักของทั้งสองเพลง ด้วยเนื้อหาของเพลงที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา เมโลดี้ที่จำง่าย ฮุคเป็นฮุค ทุกคนร้องตามได้ บวกกับเสียงร้องของบรูโนที่เป็นเอกลักษณ์น่าฟัง ทั้งสองเพลงนี้ดังเป็นพลุแตก มียอดวิวเป็นหลายร้อยล้านวิวบนยูทูบ แถมยังส่งให้ชื่อของบรูโน มาร์สปรากฎอยู่บนบิลบอร์ดชาร์ตของทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษในปีเดียวกันนั้นเอง
ฉากหน้าของคำสำเร็จ แน่นอนว่ามันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบใด ๆ บรูโนเคยเล่าถึงเรื่องแรงบันดาลใจของเขาตอนแต่งเพลง Billionaire ว่าตอนแต่งเพลงนี้บรูโนอยู่ที่ลอนดอน และกำลังเดินไปแลกเงิน โดยบรูโนยื่นเงิน 500 ดอลลาร์ ให้พนักงานและพนักงานยื่นเงินกลับมาให้บรูโนเป็นเงิน 200 ปอนด์ บรูโนเคยให้สัมภาษ์ไว้ว่า ตอนนั้นเขางงมาก ทำไมยื่นเงิน 500 ไปกลับได้แค่ 200 กลับมา ทุกอย่างที่อังกฤษดูแพงไปหมดสำหรับเขา ตอนนั้นชีวิตของบรูโนมีแต่ความกังวลไปหมดทุกเรื่อง ทุกอย่างที่เขาซื้อล้วนแล้วแต่ต้องคิดทบทวนให้ดีก่อนว่าจำเป็นต้องใช้หรือต้องซื้อจริง ๆ เขาถึงจะซื้อมัน
“ผมไม่มีแม้แต่เงินจะกินข้าวเช้า ผมต้องรอจนถึงเที่ยงผมถึงจะเริ่มกินมื้อแรกของวันได้... ผมคิดนะ ถ้าผมเป็นเศรษฐี แบบรวยเป็นพันล้าน ผมจะกินซีเรียลที่ทำจากเพชรมันซะเลย” และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้บรูโน มาร์สเขียนท่อนที่ร้องว่า
I wanna be a billionaire so fuckin’ bad. Buy all of things I never had. (ฉันโคตรอยากเป็นเศรษฐีมาก ๆ ฉันจะซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันไม่เคยมี)
ดูเหมือนว่าในวันนี้ ทุก ๆ อย่างมันเป็นไปแบบที่เขาฝัน ตอนนี้เขาไม่ต้องร้องเพลงคัฟเวอร์ของคนอื่นอีกต่อไป แต่เขามีเพลงดังมากมาย เช่น Just the Way You Are, Grenade, Uptown Funk, Versace on the Floor, 24k Magic, The Lazy Song และ That’s What I Like เขาได้ออกอัลบั้มของตัวเองถึง 3 อัลบั้มและทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก และในปี 2015 บรูโนได้ซื้อบ้านราคา 6.5 ล้านดอลลาร์ในแอลเอ ในย่านที่ดาราฮอลลีวูดหลายคนอยู่ เช่น จอร์จ คลูนีย์ นี่น่าจะเรียกได้ว่าชีวิตของเขาเป็นไปตามเนื้อเพลงที่เขาเขียนคือ “เขาได้ซื้อของทุกอย่างที่เขาไม่เคยมี”
นอกจากเรื่องเงินทองแล้ว บรูโนก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในอาชีพนักร้อง นักแต่งเพลงของเขา ในระยะเวลา 10 ปีที่เขาอยู่ในวงการเพลง เขากวาดไปถึง 10 American Music Awards, 7 Billboard Awards, 11 Grammy Awards และอีก 3 Brit Awards (และยังมีรางวัลอื่น ๆ อีกเป็นร้อยรางวัล) และในปี 2014 เขาได้ขึ้นโชว์พักครึ่งระหว่างเกมส์ Super Bowl โชว์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหลักไมล์อาชีพที่ศิลปินอเมริกันใฝ่ฝันจะไปให้ถึง
นอกจากจะรวยเป็นร้อยล้านแล้ว ในเพลง Billionaire บรูโน่เคยเขียนไว้อีกว่า ถ้าเขารวยเขาอยากจะขึ้นปกนิตยสาร Forbes แบบตอนที่นิตยสารนี้วางขายบนแผง จะมีหน้าเขายิ้มอยู่บนบนปก Forbes ถัดจากนิตยสารข้าง ๆ ที่เป็นรูป ควีน(เอลิซาเบ็ธที่ 2) และ โอปราห์ วินฟรีย์ (Operah Winfrey) และถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ขึ้นปก Forbes แต่นิตยสาร Forbes ก็เคยไปสัมภาษณ์เขาและเขียนถึงเขาหลายรอบ จนกระทั่งปี 2017 นิตยสาร Forbes ออกฉบับพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ได้ทำหน้าพิเศษขึ้นมาโดยออกแบบให้เหมือนปก และมีหน้าบรูโน มาร์ส อยู่บนนั้น โดย Forbes เคยเปิดเผยว่า “เพื่อทำให้ความฝันของบรูโน มาร์สเป็นจริง”
ใครจะไปรู้ว่าเพลงที่บรูโน มาร์สเขียนให้ตัวเองในวันนั้น มันเป็นเหมือนการลิขิตอนาคตตัวเอง เพราะทุกวันนี้เขาได้ทุกอย่างตามที่ตัวเขาเขียนไว้ในเพลง Billionaire และก็เป็นเพลง Billionaire นี่เองที่ทำให้เขาได้ทุกอย่างที่เขาเขียนเอาไว้ในวันนั้น
ที่มา:
https://www.celebritynetworth.com/.../bruno-mars-net-worth/
https://www.rollingstone.com/.../bruno-mars-the-private.../
https://www.britannica.com/biography/Bruno-Mars
https://medium.com/.../the-artist-roadmap-series-bruno...
https://twitter.com/For.../status/912081716659007489/photo/1
https://www.forbes.com/.../bruno-mars-reveals.../...
https://www.capitalfm.com/.../billionaire-inspiration-uk.../
https://www.architecturaldigest.in/.../inside-grammy.../...
https://www.standard.co.uk/.../bruno-mars-interview-i-m-a...