ฟุตบอลอาจเป็นมากกว่าแค่กีฬายอดนิยมทั่วไป เพราะมันคือชีวิต ความหวัง และลมหายใจของใครหลายคน โดยเฉพาะในละตินอเมริกา ดินแดนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลไม่ต่างจากศาสนา และนักเตะชื่อดังก็ถูกยกย่องดั่งวีรบุรุษ หรืออาจเป็นพระเจ้าสำหรับบางคน
โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต อดีตผู้รักษาประตูและกัปตันทีมชาติปารากวัยคือหนึ่งในนั้น เขาคือตำนานแห่งวงการลูกหนังอเมริกาใต้ เป็นฮีโร่ผู้พาประเทศเล็ก ๆ อย่างปารากวัย ผงาดเทียบชั้นมหาอำนาจลูกหนังของภูมิภาคอย่างบราซิล อาร์เจนตินา และอุรุกวัย
ฟุตบอลโลก ฟรองซ์ ’98 ที่ฝรั่งเศส คือเวทีแจ้งเกิดของชิลาเวิร์ต
ปารากวัยภายใต้การนำทัพของชิลาเวิร์ต ออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์ได้น่าประทับใจ เขาพาทีมทะลุเข้ารอบ 2 ด้วยการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด เก็บคลีนชีตได้ 2 นัด และเสียไปประตูเดียว กอดคอไนจีเรียเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เขี่ยทั้งบัลแกเรียและสเปน ทีมตัวเต็งตกรอบแรกไปแบบเหนือความคาดหมาย
ฟอร์มอันยอดเยี่ยมและปฏิกิริยาอันว่องไวของชิลาเวิร์ต ยังสร้างความลำบากใจให้ชาติเจ้าภาพในการโคจรมาเจอกันรอบต่อมา เพราะไม่ว่าแฟน ‘ตราไก่’ จะส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเพียงใด ผู้รักษาประตูทีมรองบ่อนจากอเมริกาใต้ก็ไม่หวั่นไหว และไม่ยอมให้ลูกผ่านมือไปตุงตาข่ายได้ง่าย ๆ
ยูริ จอร์เกฟฟ์, เธียร์รี อองรี, ดาวิด เทรเซเกต์ และเหล่านักเตะซูเปอร์สตาร์ของฝรั่งเศส ดาหน้าบุกเข้าใส่ แต่ผู้รักษาประตูปารากวัยก็โชว์ฟอร์มปัดป้องได้หมดจนเกมต้องยืดเยื้อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษแบบโกลเดนโกล
ขณะเหลือเวลาไม่ถึง 6 นาที โลรองต์ บลองก์ กองหลังจอมเก๋าชาติเจ้าภาพเติมขึ้นมายิงประตูชัยเป็นโกลเดนโกลแรกในประวัติศาสตร์เวิลด์คัพ ทำให้ทีมแดนน้ำหอมรอดตัว ไม่ต้องไปวัดดวงดวลจุดโทษกับชิลาเวิร์ต และฝรั่งเศสเฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0 ผ่านเข้ารอบ ก่อนก้าวไปคว้าแชมป์โลกได้ในที่สุด
แม้ปารากวัยจะทำได้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟรองซ์ ’98 แต่ลีลาการเซฟของโฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต ทำให้เขาได้รับเลือกเป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมคนหนึ่งของโลก และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวปารากวัยในทันที
ยิงประตูสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2
จุดเด่นของผู้รักษาประตูผู้นี้ นอกจากจะใช้มือป้องกันประตูได้ยอดเยี่ยม เขายังมีทักษะการใช้เท้ายิงประตูที่เป็นเลิศ
ชิลาเวิร์ตเป็นผู้รักษาประตูที่พังประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากที่สุดตลอดกาลอันดับ 2 รองจากโรเจริโอ เซนี จากบราซิล (131 ประตู) โดยตลอดอาชีพมือกาว 22 ปี ชิลาเวิร์ตยิงไปทั้งหมด 67 ประตู ส่วนใหญ่มาจากฟรีคิกและจุดโทษ ในจำนวนนี้ 8 ประตูทำได้ในนามทีมชาติ โดยเฉพาะฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก เขาทำได้ถึง 4 ประตู
นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้รักษาประตูคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เคยทำแฮตทริกยิงไป 3 ประตูจากลูกตั้งเตะให้เบเลซ ซาร์สฟิลด์ สโมสรต้นสังกัดในอาร์เจนตินา เอาชนะทีมเฟอร์โร เมื่อปี ค.ศ. 1999
ชิลาเวิร์ตเล่าถึงที่มาของการเล่นด้วยเท้าได้ดีว่า เป็นเพราะสมัยเด็กเขาเคยเล่นเป็นกองหน้า แต่ต่อมาพี่ชายจับมาเป็นโกล เพราะกลัวน้องเจ็บตัวตอนลงแข่งกับทีมเด็กโตกว่า ทำให้ตั้งแต่นั้นมาจึงยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมาตลอด
[caption id="attachment_30283" align="aligncenter" width="571"]
Paraguay goalkeeper Jose Luis Chilavert celebrates their qualification for the second round, at the end of the match (Photo by Tony Marshall/EMPICS via Getty Images)[/caption]
ใจร้อนจนเกือบโดนฆ่าที่โคลอมเบีย
นอกจากความสามารถเชิงลูกหนังแล้ว ชิลาเวิร์ตยังมีความเป็นผู้นำสูง เขาได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมชาติในฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยในปี 1998 และ 2002 ซึ่งถือเป็นยุคทองของวงการลูกหนังปารากวัย
อย่างไรก็ตาม ความทุ่มเทเกินร้อย บวกนิสัยใจร้อน พร้อมปะทะทั้งร่างกายและคารมกับคู่แข่ง ทำให้เขาได้ฉายา ‘สุนัขบูลด็อก’ และมักโดนใบแดง ถูกแบนห้ามลงสนามเพราะความเจ้าอารมณ์บ่อยครั้ง
ความหัวร้อนพร้อมชนดะทำให้ชิลาเวิร์ตเคยเกือบโดนลอบสังหาร หลังไปมีเรื่องกับ ฟาอุสติโน อัสปริยา ดาวเตะทีมชาติโคลอมเบีย และสโมสรนิวคาสเซิล ในอังกฤษ ระหว่างทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อปี 1997
อัสปริยาเล่าว่า หลังจากเขาและชิลาเวิร์ตมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันจนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามทั้งคู่ มือปืนชาวโคลอมเบียได้โทรศัพท์มาหาเขาที่โรงแรม และเสนอตัวช่วยล้างแค้นด้วยการดักฆ่าชิลาเวิร์ต แต่อัสปริยาห้ามไว้ทัน เพราะไม่อยากทำให้ชื่อเสียงประเทศเสื่อมเสีย
สำหรับโคลอมเบีย เคยมีฉายา ‘แดนโคเคน’ เพราะมี ‘ชื่อเสีย’ จากความสัมพันธ์ระหว่างแก๊งค้ายาเสพติดกับวงการฟุตบอล โดยพ่อค้ายารายใหญ่ในยุค 90s อย่างปาโบล เอสโกบาร์ เป็นแฟนบอลตัวยง และมักนำเงินผิดกฎหมายที่ได้ไปลงทุนกับการแข่งขัน
หนึ่งในเหตุการณ์ช็อกโลกของวงการฟุตบอลอย่างการดักสังหารอันเดรส เอสโกบาร์ กองหลังทีมชาติโคลอมเบีย ผู้ยิงประตูตัวเองจนโคลอมเบียตกรอบฟุตบอลโลกปี 1994 เชื่อว่าเกี่ยวพันกับการระบายความแค้นของแก๊งยาเสพติด ซึ่งนอกจากจะติดยาแล้วยังติดฟุตบอลจนงอมแงม
วีรกรรมหัวร้อนของโฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต ยังทำให้เขาเคยมีปัญหากับนักฟุตบอลระดับตำนานหลายคน รวมถึงดิเอโก มาราโดนา ของอาร์เจนตินา และโรแบร์โต คาร์ลอส กองหลังจอมฟรีคิกทีมชาติบราซิล
ค้านทุ่มงบจัดกีฬา_หนุนใช้เงินแก้ยากจน
อย่างไรก็ตาม แม้ฟุตบอลจะทำให้เขามีชื่อเสียง และถูกยกย่องเป็นวีรบุรุษของชาติ แต่ชิลาเวิร์ตมีจุดยืนชัดเจน เขาคัดค้านการนำเงินสาธารณะมาลงทุนจัดการแข่งขันกีฬา เพราะต้องการให้นำไปใช้แก้ไขปัญหาการศึกษาและความยากจนของคนในประเทศมากกว่า
ชิลาเวิร์ตไม่เคยปิดบังความคิดทางการเมืองของตนเอง เขามักให้สัมภาษณ์โจมตีรัฐบาล และออกมาต่อต้านการคอร์รัปชัน จนบางคนมักนำไปเปรียบเทียบกับนักปฏิวัติชื่อดังอย่าง เช เกบารา
ครั้งหนึ่งเขาเคยเรียก ส.ส. ในสภาว่า ‘ปลิงและปรสิต’ และเคยบอยคอตไม่ลงเล่นศึกฟุตบอลโคปาอเมริกาปี 1999 ที่ปารากวัยเป็นเจ้าภาพ เพื่อต่อต้านการแต่งตั้งนายพลเกษียณราชการเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากนายทหารคนดังกล่าวเป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันการลอบสังหารรองประธานาธิบดี และเคยสั่งฆ่าหมู่ผู้ประท้วงทางการเมืองในอดีต
ปี 2017 ชิลาเวิร์ตเคยให้สัมภาษณ์ต่อต้านความคิดของ อเลฮานโดร โดมิงเกซ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ที่เสนอให้อาร์เจนตินา อุรุกวัย และปารากวัย จับมือกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลกปี 2030
“โดมิงเกซ! ปารากวัยไม่ต้องการฟุตบอลโลก เราต้องการโรงพยาบาล, โรงเรียน และโครงสร้างพื้นฐาน” อดีตผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติปารากวัยกล่าว
“เราต้องมองโลกความเป็นจริง เราเป็นแค่ประเทศเล็ก ๆ ยังมีอีกหลายพื้นที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ ไม่ได้รับการแก้ไข สิ่งเหล่านี้คือความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนในบ้านเรา”
วัยเด็กยากจนไม่มีรองเท้าใส่
โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม 1965 ในเมืองลูเก ประเทศปารากวัย มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน บิดาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยฐานะยากจน โดยชิลาเวิร์ตในวัยเด็กไม่มีรองเท้าใส่ ต้องเดินเท้าเปล่าจนถึงอายุ 7 ขวบ และมีหน้าที่รีดนมวัวไปขายเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว
เขาลงสนามนัดแรกในลีกสูงสุดของปารากวัย ขณะมีอายุเพียง 15 ปี โดยชิลาเวิร์ตเล่าว่า ก่อนได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมสปอร์ติโว ลูเกโน ในลีกท้องถิ่น เขาต้องเดินเท้าระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรไปทดสอบฝีเท้า เพราะไม่มีเงินค่ารถเมล์ และพ่อก็ไม่สนับสนุน เพราะอยากให้มุ่งมั่นกับการเรียนหนังสือมากกว่า
เส้นทางค้าแข้งของชิลาเวิร์ต เขาเคยย้ายไปเล่นในยุโรปกับรีล ซาราโกซา ของสเปน และสตราส์บูร์ก ในฝรั่งเศส แต่ประสบความสำเร็จมากที่สุดกับเบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในอาร์เจนตินา ลงเล่นที่นั่นไปกว่า 200 นัด พาทีมคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย และยิงประตูได้ 36 ลูก สูงพอ ๆ กับสถิติของกองหน้าบางคน
ปี 2004 ชิลาเวิร์ตแขวนถุงมือเลิกอาชีพผู้รักษาประตูแบบถาวรในวัย 39 ปี และหันไปรับงานนักพากย์ - นักวิจารณ์ทางทีวี แต่นั่นก็ไม่เคยทำให้ความสนใจต่อสู้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเขาเลือนหายไป
ประกาศชิงตำแหน่งผู้นำปารากวัย
24 ธันวาคม 2020 ขณะที่ทั่วโลกฉลองคริสต์มาสอีฟกันอย่างมีความสุข โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต ในวัย 55 ปี ประกาศผ่าน Twitter ว่า เขาพร้อมแล้วในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปารากวัย ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมาถึงในปี 2023
การตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากคนกีฬามาเป็นนักการเมืองครั้งนี้ เขาต้องต่อสู้แย่งชิงเก้าอี้กับมาริโอ อับโด เบนิเตซ ประธานาธิบดีหัวอนุรักษนิยมคนปัจจุบันของปารากวัย จากพรรคโคโลราโด
แม้ชิลาเวิร์ตจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคโคโลราโดที่เป็นรัฐบาล แต่การลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยหน้า เขาบอกว่าจะลงในนามผู้สมัครอิสระ และเชื่อมั่นว่าตนเองได้เปรียบ เพราะชาวปารากวัยส่วนใหญ่เบื่อหน่ายนักการเมืองอาชีพในแบบเก่า
เขาระบุคำขวัญในการหาเสียงครั้งนี้ว่า “Proud to be Paraguayan! (ภูมิใจในความเป็นปารากวัย)” โดยนโยบายหาเสียงคาดว่าจะมุ่งแก้ปัญหาคอร์รัปชัน, ความยากจน และการศึกษาตามที่เคยให้สัมภาษณ์ เนื่องจากปารากวัยที่ไม่มีพรมแดนติดทะเล มีปัญหาชนพื้นเมืองไม่รู้หนังสือ และความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง
หากการเลือกตั้งครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ชิลาเวิร์ตจะเดินตามรอย จอร์จ เวอาห์ อดีตศูนย์หน้าทีมเอซี มิลาน ของอิตาลี ที่หันมาเอาดีการเมือง และชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีประเทศไลบีเรีย ในปี 2017
นอกจากนี้ยังจะเป็นการตอกย้ำพลังอำนาจของเกมกีฬา ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตเด็กยากจนคนหนึ่งให้มีชื่อเสียงเงินทอง กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ และมีโอกาสก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.90min.com/posts/paraguay-legend-jose-luis-chilavert-announces-run-for-president
https://www.eurosport.com/football/the-debate-why-jose-luis-chilavert-is-the-greatest-goalkeeper-ever_sto7753607/story.shtml
https://www.skysports.com/football/news/29909/11860342/faustino-asprilla-told-hitman-not-to-kill-paraguay-goalkeeper-jose-luis-chilavert
https://www.fifa.com/worldcup/news/chilavert-benaglio-the-best-far-1257581
https://www.washingtonpost.com/archive/sports/2002/05/08/the-trouble-with-chilavert/27a6fb7a-3a7f-4d8b-bee6-9619bdc179e2/
https://www.reuters.com/article/csports-us-soccer-worldcup-paraguay-idCAKCN1BB1Y3-OCASP