เจมส์ บลันต์: You’re Beautiful เพลงฮิตที่แต่งโดย ‘ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป’

เจมส์ บลันต์: You’re Beautiful เพลงฮิตที่แต่งโดย ‘ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป’
My life is brilliant My life is brilliant My love is pure I saw an angel Of that I’m sure She smiled at me on the subway She was with another man But I won’t lose no sleep on that ’Cause I’ve got a plan (ชีวิตของผมช่างดีเลิศ ชีวิตของผมช่างดีเลิศ ความรักของผมนั้นบริสุทธิ์ ผมได้เห็นนางฟ้า ใช่ละนางฟ้าแน่ ๆ ผมมั่นใจ เธอยิ้มให้ผมในรถไฟใต้ดิน เธอมากับชายอีกคน แต่ผมจะไม่นอนไม่หลับเพราะเรื่องแค่นี้หรอก เพราะผมมีแผนไว้แล้ว)   เดือนพฤษภาคม ปี 2005 เสียงกีตาร์เล่นโน้ต 4 ตัวขึ้นนำตามด้วยเสียงร้องอันนวลนุ่มของหนุ่มจากเกาะอังกฤษคนหนึ่งกำลังถูกเปิดเป็นครั้งแรกที่วิทยุ -เพลง You’re Beautiful เพลงนี้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล คือหนึ่งในเพลงที่ทำให้ชายผู้นี้ได้โอกาสในการทำอัลบั้มกับโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในโลกดนตรีป็อปอย่าง ทอม ร็อดร็อก (Tom Rothrock) และเพลง You’re Beautiful นี่เองแหละที่ได้แนะนำให้ทั้งโลกรู้จักกับชายหนุ่มผู้เคยผ่านสงครามในโคโซโวก่อนผันตัวมาเป็นนักร้องในวัย 31 เขาคือ เจมส์ บลันต์ (James Blunt) นั่นเอง   You’re beautiful You’re beautiful You’re beautiful, it’s true I saw your face in a crowded place And I don’t know what to do ’Cause I’ll never be with you (เธอสวย เธอช่างสวยงาม เธอสวยจริง ๆ ผมเห็นหน้าเธอในที่ที่มีผู้คนมากมาย และผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะผมรู้ว่าผมจะไม่มีวันได้อยู่กับคุณ)   เพลง You’re Beautiful ดังขนาดไหน เอาเป็นว่านิตยสาร Esquire เคยยกว่าเป็นเพลงป็อปที่ ear worm ที่สุดเพลงหนึ่งในรอบทศวรรษ แถมเพลงนี้เคยขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนหน้าบิลบอร์ดชาร์ตและอยู่บนชาร์ตยาวนานถึง 38 สัปดาห์ติดต่อกัน พูดง่าย ๆ คืออยู่บนชาร์ตวิทยุเกินครึ่งปีนั่นเอง ทางด้านยอดขาย สำนักข่าว BBC เคยรายงานไว้ในปี 2009 ว่า อัลบั้ม Back to Bedlam ที่มีเพลง You’re Beautiful อยู่ในนั้นได้กลายเป็นอัลบั้มของศิลปินอังกฤษที่ขายดีที่สุดในรอบ 10 ปี โดยขายได้ถึง 18 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก   Yes, she caught my eye As we walked on by She could see from my face that I was Fucking high And I don’t think that I’ll see her again But we shared a moment that will last ’til the end (ใช่, เธอต้องตาผม และในขณะที่เราเดินสวนกัน เธอคงเห็นว่าหน้าของผม โคตรจะฟุ้งเลย ผมไม่คิดว่าผมจะได้เจอเธออีก แต่เราทั้งคู่ก็ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่มันจะคงอยู่ตลอดไป)   ที่มาของเพลงโรแมนติกเหมือนในเนื้อเพลงไหม เนื้อหาของเพลง You’re Beautiful พูดถึงชายหนุ่มที่บังเอิญได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน แต่สาวเจ้าไม่ได้มาคนเดียว เธอมากับชายอีกคนที่เป็นคนรักของเธอ เขาทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรกัน ได้แต่เพียงประสานสายตาแล้วก็จากกันไป เนื้อหาสุดชวนฝันที่เจมส์ บลันต์ถึงกับต้องเขียนขึ้นมาเป็นเพลงนี้คงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนเพลงทั่วโลกรู้สึกเคลิบเคลิ้มถึงชายหนุ่มที่สุดแสนจะโรแมนติก ที่เพียงแค่เดินผ่านหญิงสาวคนหนึ่งในสถานีรถไฟ ก็หยิบเอามาแต่งเป็นเพลงได้ ด้วยเหตุนี้เองคนจึงต่างพากันตั้งคำถามว่า เอ๊ะ! เจมส์ บลันต์เขียนเนื้อเพลงนี้ขึ้นมาจากชีวิตจริงหรือเปล่า? เขาเจอกับแฟนเก่าที่รถไฟใต้ดินใช่ไหม? คำตอบต่อคำถามแรกก็คือ…ใช่, เขาเขียนขึ้นจากชีวิตจริง เจมส์ บลันต์ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “คนชอบมาตีตราเพลงนี้ว่า โอ้โห! เจมส์ บลันต์ เขาช่างโรแมนติกอะไรขนาดนี้ คือ (ผมอยากจะบอกว่า) จะบ้าหรอ ไม่เลย มันไม่ได้โรแมนติกเลย You’re Beautiful โคตรจะไม่ใช่เพลงโรแมนติก มันเป็นเพลงเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เดินตามแฟนสาวของชาวบ้านตอนที่ตัวเองกำลังเมาแบบโคตร ๆ จริง ๆ ผมว่าผู้ชายคนนี้น่าจะโดนจับไปขัง หรือโดนจับเข้าคุกหรืออะไรสักอย่างนะโทษฐานที่ไปเดินตามชาวบ้านเขาแบบนั้น” สรุปก็คือเจมส์เขาเขียนถึงชีวิตเขาที่เจอกับสาวแสนสวยบนรถไฟใต้ดินจริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่สาวคนนั้นเป็นแฟนเก่าเจมส์หรือเปล่าน่ะหรอ? คำตอบก็คือ ใช่อีกนั่นแหละ เจมส์บอกกับทั้ง Huffington Post และ The Guardian ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน เขาเจอกับแฟนเก่า แต่แฟนเก่าของเขามากับแฟนใหม่ของเธอ ทั้งสองจึงไม่ได้พูดทักทายกัน เพียงแค่ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วก็เดินจากกันไป เจมส์กลับบ้านแล้วเขียนเพลงนี้เสร็จภายใน 2 นาที จากนั้นเขาก็ไปหาเพื่อนนักแต่งเพลงอีก 2 คน ซาชา สะการ์เบก (Sacha Skarbek) และ อแมนดา โกสต์ (Amanda Ghost) เพื่อทำเพลงนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ และเพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงฮิตระเบิด จุดประกายเส้นทางศิลปินดังให้เจมส์ตั้งแต่นั้นมา   ชีวิตทหารที่โคโซโว ย้อนกลับมาที่เรื่องราวของเขา ชีวิตของเจมส์ หรือชื่อเดิม เจมส์ เบลาซ์ (James Blount- ซึ่งต่อมาเปลี่ยนจากเบลาซ์ เป็นบลันต์เมื่อเป็นศิลปิน) เกิดปี 1974 ที่อังกฤษ ในครอบครัว เขามีคุณพ่อเป็นทหาร เส้นทางชีวิตของเจมส์จึงดูเหมือนถูกวางอยู่บนเส้นทางทหารตั้งแต่เด็ก ทั้งการถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ 7 ขวบ ได้รับทุนจากกองทัพให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย Bristol University จากนั้นก็ไปฝึกทหารและเข้ารับใช้ชาติในการไปร่วมรบที่บอลข่านและโคโซโว แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเจมส์ต้องการจะเป็น แต่อันที่จริงแล้ว ดนตรีต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเจมส์ หลังจากรับใช้ชาติอยู่ 4 ปี เจมส์ก็ลาออกจากการเป็นทหารมาเดินทางบนสายดนตรี พอออกจากกองทัพ เจมส์ก็เริ่มทำเดโมส่งค่ายเพลงโดยใช้กีตาร์คู่ใจของเขา โดยเจ้ากีตาร์ตัวนี้เอง เจมส์พกพาไปที่โคโซโวด้วย แต่ช่วงที่เขาทำเดโมเพลงอยู่ มีอยู่วันหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์ของเจมส์เกิดเสียหลักล้มลง ทำให้กีตาร์ที่อุตส่าห์รอดจากสงครามมากลับต้องมาพังลงที่ข้างทางเพราะรถล้ม เรื่องนี้จึงเป็นโจ๊กที่เจมส์เล่าให้ใครฟังทีไรก็เป็นเรื่องตลกในหมู่เพื่อนทุกที เจมส์มีโอกาสเล่นที่งาน The Texas South by Southwest Music Festival ในปี 2004 และที่นี่เองที่งานของเจมส์ไปเตะตาโปรดิวเซอร์แมวมองอย่าง ลินดา เพอร์รี (Linda Perry) จนเขาได้ทำอัลบั้มที่ทำให้พวกเราได้รู้จักเพลง You’re Beautiful อย่างทุกวันนี้   ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป การเป็นศิลปินที่มีเพลงฮิตระเบิดอย่าง You’re Beautiful ใครจะมาคิดว่า วันหนึ่งเขาจะได้รับฉายา “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” อันที่จริงฉายานี้ จะว่าไปก็เป็นฉายาที่ศิลปินหลายคนในวงการเพลง เช่น จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) นิกกี้ มินาจ (Nicky Minaj) คริส บราวน์ (Chris Brown) ต่างได้รับมาเช่นกัน แต่รอบนี้มันเวียนมาถึงคราวของเจมส์ บลันต์นี่สิ ทำไมน่ะหรอ? น่าจะเป็นเพราะว่ามีนักดนตรีหรือแอนตี้แฟนหลาย ๆ คนต่างพากันยกฉายานี้ให้กับเจมส์กระมัง ตัวอย่างก็อย่างเช่น ชิเคน (Chicane) นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษเคยทวีตถึงเจมส์ว่า “อืมม์...ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ แต่ไม่รู้สึกบ้างหรอว่าเจมส์ บลันต์ดูเป็นคนงี่เง่านะ?” จามีลา จามิล (Jameela Jamil) ดารา นักแสดงและนักจัดรายการวิทยุชาวอังกฤษก็เคยพูดถึงเจมส์ ก่อนเข้าเพลงของเจมส์ว่า “เป็นชายที่ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” หรือจะจาก โนล กาลาเกอร์ (Noel Gallagher) มือกีตาร์และนักร้องนำร่วมของวงร็อกชื่อดังตลอดกาลของอังกฤษอย่าง Oasis ก็กึ่งแซวเล่นกึ่งแขวะว่า ภายหลังจากที่รู้ข่าวว่าเจมส์ซื้อบ้านในอิบิซาย่านเดียวกับตัวเองว่า “ผมนี่อดคิดไม่ได้เลยว่า (นี่ผม) ต้องมาอาศัยอยู่บนถนนละแวกเดียวกับที่เขา (เจมส์) กำลังเขียนเพลงห่วย ๆ อยู่”  แล้วโนลก็ประกาศขายบ้านหลังนั้น   ตอกกลับความเกลียดยังไงให้ยิ่งดังและเพิ่มฟอลโลเวอร์ ทั้ง ๆ ที่ได้รับฉายา “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” แต่เจมส์กลับตอบโต้กระแสนี้กลับไปอย่างเข้าใจโลกว่า “ผมว่ามันไม่เห็นจะซับซ้อนเลย ผมมีเพลง (You’re Beautiful) ที่ถูกเปิดบนวิทยุบ่อยซะจนถึงขั้นน่ารำคาญ พอคนเริ่มรำคาญเพลง เขาก็คงพาลมารำคาญ (และไม่ชอบ) ศิลปินเอาด้วยน่ะครับ” แต่การตอบกลับแบบนี้ไม่ได้ทำให้กระแสของ “ชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในวงการเพลงป็อป” นั้นลดลงเลย ในทวิตเตอร์ยังคงมีคนทวีตข้อความเชิงเกลียดชังหรือดูถูกมาหาเจมส์อยู่บ่อยๆ ด้วยกระแสเกลียดชังและกดดันแบบนี้ ผู้คนก็คาดว่าเจมส์อาจจะระเบิดอารมณ์ออกมา หรืออกมาด่ากราดหรือโต้กลับชาวเน็ตอย่างเผ็ดร้อนเป็นแน่ แต่เจมส์เหนือชั้นกว่านั้น เขาตอบกลับข้อความทวีตที่มาแขวะเขาต่าง ๆ นานา ด้วยความเจ็บแสบแบบนิ่ม ๆ แถมยังบวกอารมณ์ขันเข้าไปอีก ซะจน Buzzfeed เคยเขียน 17 เหตุผลที่คุณควรฟอลโลว์เจมส์ บลันต์ในทวิตเตอร์ ข้อความที่เจมส์ตอบกลับแอนตี้แฟนก็อย่าง เช่น แอนตี้แฟน: “ฟัคยู เจมส์ บลันต์” / เจมส์: “โทษทีนะ แต่ถ้าอยากจะด่าช่วยไปรับบัตรคิว แล้วต่อแถวด้วย” แอนตี้แฟน: “พวกเธอว่าใครห่วยกว่ากัน เจมส์ บลันต์ หรือ โรบิน ทีค?” / เจมส์: “ผม ผม ผม เลือกผม เลือกให้ผมห่วยกว่านะ” แอนตี้แฟน: “ผมต้องเลิกกับแฟน เพราะเธอชอบเพลงของคุณ เธอมันหูหนวก!” / เจมส์: “ถ้าเธอเป็นแฟนคนอย่างคุณ ผมสงสัยว่าเธอคงจะตาบอดด้วยนะ” หรือบางทียังไม่ทันจะมีแอนตี้แฟนมาทวีตอะไรเลย เจมส์ บลันต์ก็ชิงแขวะตัวเองก่อนด้วยอารมณ์ขัน เช่น “คุณคิดว่าปี 2016 มันแย่แล้วหรอ ผมจะปล่อยอัลบั้มใหม่ปี 2017 นะ” จะเห็นว่าทวีตต่าง ๆ ของเจมส์ เต็มไปด้วยความตลกร้าย คือ ทั้งจิกกัด และเชือดแอนตี้แฟนแบบนิ่ม ๆ จน The Sun เคยเขียนคอลัมน์รวบรวมทวีต 15 ทวีตของเจมส์ที่คมกริบแม่นยำชนิดที่ว่าถ้าเป็นกระสุนปืนก็คงจะเข้าเป้าคู่ต่อสู้แบบน็อกคาที่ไปเลย กลับมาที่เพลงแจ้งเกิดให้กับเจมส์ บลันต์อย่าง You’re Beautiful ที่เจมส์เขียนจากชีวิตจริงที่ได้เพียงแต่มองหน้ากับแฟนเก่าที่บังเอิญเจอกันบนรถไฟโดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะทักทายหรือบอกลากันสักคำ ภาษาฝรั่งเศสมีประโยคหนึ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวตะวันตก คือ C’est la vie หรือ นี่แหละชีวิต บางครั้งโชคชะตาอาจจะพาให้เราได้รู้จักและรักใครสักคนในช่วงเวลาหนึ่ง พอหมดสิ้นวาสนากันก็ต่างแยกทางกันเดินไปคนละทาง เจอกันอีกทีในวันข้างหน้าก็อาจจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะเดินเข้าไปทักทายกัน แต่ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าวันนั้นแฟนเก่าของเจมส์ยังไม่มีใคร และเขาได้มีโอกาสเดินเข้าไปบอกเธอว่า “You’re Beautiful”   ที่มา https://www.tomrothrock.com/about https://www.imdb.com/name/nm1633651/ https://www.esquire.com/entertainment/music/a29367480/james-blunt-youre-beautiful-song-15-year-anniversary-interview/ https://www.irishtimes.com/culture/music/james-blunt-the-most-hated-man-in-pop-1.1556345 https://www.billboard.com/music/james-blunt/chart-history/CNS/song/555298 https://www.elle.com/culture/music/news/a44091/james-blunts-youre-beautiful-meaning-huffington-post/ https://www.hellomagazine.com/profiles/james-blunt/ https://www.buzzfeed.com/ailbhemalone/17-reasons-you-should-be-following-james-blunt-on-twitter https://www.cheatsheet.com/entertainment/most-hated-musicians-of-all-time.html/ https://www.thesun.co.uk/tvandshowbiz/8304131/james-blunt-twitter-hilarious-comebacks/