สีเหลืองอาจเป็นสีโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่กับบางคนก็อาจจะไม่ใช่ หากเมื่อปี 2000 ภายในอัลบั้ม ‘Parachutes’ ของวงดนตรีจากเกาะอังกฤษที่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรนักในเวลานั้นอย่าง ‘Coldplay’ พวกเขาได้ส่ง ‘Yellow’ เพลงที่ดารดาษไปด้วยดวงดาว ทะเล เมโลดี้สวย ๆ และ ‘สีเหลือง’ ให้โลกทั้งใบได้ฟัง
ไม่ว่าเรา - ผู้คนบนโลกจะนึกชอบสีดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม หากประโยคแรกของเพลงอย่าง ‘มองดวงดาวเหล่านั้นสิ ดวงดาวที่เปล่งแสงสีเหลืองเพื่อคุณ’ กลับติดในใจผู้คนมากมายอย่างยากจะอธิบายและลืมเลือน
คำพยากรณ์จากเมฆและดาว
/ Look at the stars
Look how they shine for you
And everything you do
Yeah, they were all yellow /
เริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์และความมืดของท้องฟ้า ‘คริส มาร์ติน’ ยืนอยู่บนชายหาดที่ไร้แสงเพื่อถ่ายทอดท่อนแรกของ ‘Yellow’ ในรูปแบบมิวสิกวิดีโอ พร้อมด้วยท้องฟ้ายามเช้าที่ราวถูกแต่งแต้มสีสันด้วยพู่กันพระอาทิตย์ให้สว่างขึ้นทุกขณะ เหล่านี้คือสิ่งที่ปรากฏในเอ็มวีที่มียอดรับชมกว่า 500 ล้านวิวของพวกเขา
“วันนี้วันที่ 26 มิถุนายน 1998 และเดือนเดียวกันนี้ในปี 2002 Coldplay จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพื่อน อย่าลืมนะ วงเราจะแมสแบบบิ๊กเบิ้มน่ะ”
ถ้อยคำดังกล่าวคือคำพูดของคริส มาร์ติน นักร้องนำของวงดนตรีที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 และยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดีนักในปี 1998 คำทำนายจากวันวานเหล่านั้นเป็นหนึ่งในฟุตเทจของ ‘A Head Full of Dreams’ สารคดีของวงหลังพวกเขาประสบความสำเร็จ
แม้จะเป็นการพูดติดตลกที่แฝงไว้ด้วยการวาดหวังอย่างที่วงดนตรีทุกวงต้องการ - ประสบความสำเร็จ เป็นตำนาน ก้าวขึ้นแท่นหนึ่งในวงที่ดีที่สุดแห่งยุคของตน หรือการวาดฝันใด ๆ ก็ตามที่อัดแน่นอยู่ล้นใจของมาร์ตินในขณะนั้น หากเขาและวงกลับไม่คาดเลยว่าถ้อยคำดังกล่าวจะกลายเป็นจริงเร็วกว่าที่คิด
Coldplay ไม่ต้องรอถึงปี 2002 จึงจะกลายเป็นวงบิ๊กเบิ้มที่โด่งดังถึงเมฆชั้นสตราโทสเฟียร์อย่างที่อยาก หากเพียงแค่ปี 2000 ด้วยเพลงคอร์ดเรียบ ๆ แต่เปี่ยมเสน่ห์อย่าง ‘Yellow’ ที่ถูกปล่อยออกมาชนกับเพลงแนว nu metal มากมายในตลาดอเมริกาเพลงนี้นี่แหละ ที่กลายเป็นใบเบิกทางของพวกเขาบนถนนสายดนตรีได้อย่างสวยงามแบบ ‘It was all Yellow’
ตาดูดาวเท้าความเพลง
ท่ามกลางคืนที่แต่งแต้มด้วยนานาดาวในเวลส์ (Wales) หัวเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ วง Coldplay ในช่วงตั้งไข่ที่ใช้แต่ละวันวุ่น ๆ ไปกับการอัดเสียงในสตูดิโอ และจะได้เงยหน้ามองฟ้าบ้างก็แค่ตอนค่ำ เพื่อพบกับดวงดาวมากมายที่กำลังสบตาพวกเขาอยู่ ด้วยการชี้นำของเคน เนลสัน (Ken Nelson) โปรดิวเซอร์ของวงในขณะนั้นและคำว่า “ดูดาวสิเด็ก ๆ” (Look at the stars, lads.) ที่เขาพูด
“ท้องฟ้าค่อนข้างมืดที่ร็อกฟิลด์ ผมจำได้ว่าเราเดินออกไปด้วยกันหลังจากเสร็จงานในค่ำนั้น ดวงดาวอยู่ใกล้เราเป็นสองเท่า และสว่างกว่าที่เคย พวกเราคนใดคนหนึ่ง - กาย เบอร์รีแมน (Guy Berryman: มือเบส) คิดว่าเป็นผม พูดขึ้นมาว่า ‘ดูดาวสิพวก มันวิเศษไปเลย’ และคริสก็หยิบประโยคนั้นไปแต่งเพลง” เนลสันอธิบาย
/ Look at the stars
Look how they shine for you /
เศษความรู้สึกจากหมู่ดาวตกค้างอยู่ในใจของมาร์ติน และตามประสาศิลปิน ชายหนุ่มค่อย ๆ ร้อยเรียงมันออกมาเป็นคอร์ดและถ้อยคำต้นเพลงที่เขาได้ร้องมันให้เพื่อนในวงฟังด้วยสำเนียงกึ่งล้อนักร้องอย่าง ‘นีล ยัง’ (Neil Young) แต่กลายเป็นว่าสมาชิกในวงทั้งหมดกลับชอบทั้งคอร์ดและคอร์หรือใจความของเพลงนั้น พวกเขารับไม้ต่อจากมาร์ตินและร่วมมือกันคนละเล็กละน้อยจนออกมาเป็น ‘Yellow’ ในฉบับที่เราคุ้นหู
/ I came along
I wrote a song for you
And all the things you do
And it was called Yellow /
Yellow: ที่มา‘สีเหลือง’ในบทเพลง
“มันไม่เกี่ยวกับความหมายนักหรอก มันอยู่ที่ความรู้สึกน่ะ” (It’s a feeling more than a meaning)
คือคำที่มาร์ตินเคยกล่าวไว้เมื่อมีคนถามถึงความหมายของเพลง ‘Yellow’ เมื่อปี 2011 หากก่อนหน้านี้ทั้งมาร์ตินและสมาชิกวงก็ต่างเคยพูดถึง ‘สีเหลือง’ ในเพลงด้วยถ้อยความที่ต่างกันไปอยู่หลายครั้ง
มาร์ตินเคยบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการใช้ ‘สีเหลือง’ และตั้งชื่อเพลงว่า ‘Yellow’ มาจากสมุดหน้าเหลือง (Yellow Pages) ขณะที่ วิล แชมเปียน (Will Champion) มือกลองของวงหัวเราะและบอกว่ามาร์ตินมักจะเห็นความสำคัญแบบนามธรรมในสิ่งของต่าง ๆ เสมอ
แต่หนึ่งสิ่งที่แน่ใจได้สำหรับ Coldplay คือพวกเขาไม่ได้จงใจจะใช้ ‘สีเหลือง’ ในเพลง เพราะมันต้องเป็น ‘สีเหลือง’ ในแง่ของความหมาย - ‘สีเหลือง’ ของ Coldplay จึงไม่ได้แฝงเร้นหรือสื่อถึงความขี้ขลาด เลวร้าย หรือความหมายในแง่ลบใด ๆ ตามความนัยสากลกำหนด ตรงกันข้าม ประโยค ‘it was all Yellow’ ภายในเพลงนั้นราวจะแปลได้ว่า ‘ทุกสิ่งล้วนสวยงามเหลือเกิน’ เสียด้วยซ้ำ
[caption id="attachment_32805" align="aligncenter" width="857"]
ปกอัลบั้ม Parachutes ของ Coldplay[/caption]
เพราะทุกสิ่งล้วนสวยงาม
“พูดง่าย ๆ ก็คือ ‘Yellow’ มันฟังดูดีน่ะ มันก็แค่ลงล็อกพอดีเป๊ะ ไม่มีเหตุผลอื่น ไม่มีสีอื่น ๆ ที่จะใส่ในเพลงนี้แล้วฟังเพราะเท่า ‘Yellow’ แล้ว”
มันอาจจะเป็นสีส้มหรือสีฟ้า สีชมพู สีขาว หรือแม้แต่สีดำ Coldplay ไม่สนว่าจะเป็นสีใด ขอเพียงแค่เมื่อหยิบชื่อสีนั้น ๆ มาใส่ในเพลงแล้วเข้ากันพอดี รวมทั้งส่งอารมณ์คนฟังให้ลอยคว้างกลางหมู่ดาว - ว่ายข้ามน้ำ และ ‘bleed oneself dry’ ได้อย่างงดงาม เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว และดูเหมือนว่า ‘Yellow’ ก็ทำหน้าที่เหล่านี้ในบทเพลงได้อย่างสมบูรณ์ทีเดียว
/ I swam across
I jumped across for you
What a thing to do
’Cause you were all yellow /
ผมว่ายข้ามทะเลและกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางเพื่อคุณ
เพราะว่าคุณนั้นส่องสว่างและสวยงามเหลือเกิน
เพลง ‘Yellow’ ดำเนินมาถึงท่อนท้าย แสงสว่างถักทอจนเต็มผืนฟ้าขณะที่คริส มาร์ติน ยังคงเปล่งเสียงร้องเพลงทั้งรอยยิ้ม นับจากวันแรกที่ความสวยงามของสีเหลืองทำให้ Coldplay เปล่งประกายจนถึงวันนี้ ก็นับขวบปีได้ราวยี่สิบหนแล้ว
ร่วมยี่สิบปีที่วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกจากเกาะอังกฤษวงนี้ก้าวขึ้นมาสู่แถวหน้า ๆ ในอุตสาหกรรมดนตรีโลก และส่งสตูดิโออัลบั้มกว่า 8 ชุดประดับเป็นซาวนด์แทร็กของชีวิตใครหลาย ๆ คนในหลากช่วงวัย แม้จะมีเพลงมากมายจากวงออกมาให้ฟัง ให้ชอบ และให้รัก หาก ‘Yellow’ ก็จะเป็นแทร็กที่ว่าด้วยสีเหลืองและดวงดาวที่ยังอยู่ในใจผู้คนไม่จางหาย ด้วยทั้งเนื้อเพลงที่ลึกซึ้ง ท่วงทำนองเรียบง่าย และที่มาที่ไปที่เต็มไปด้วยความบังเอิญแต่กลับสร้างแรงบันดาลใจอย่างประหลาด
ถ้อยคำ ‘It’s a feeling more than a meaning’ ของคริส มาร์ตินเมื่อผนวกกับเพลง ราวกับจะบอกเราว่าหนึ่งชีวิตของมนุษย์เรานั้น ไม่จำเป็นต้องมากด้วยความหมายนักก็ได้ หรือต่อให้ความหมายนั้น ๆ จะฟังดูไม่สวยงามในสายตาสากลกำหนด (เช่นเดียวกับความหมายดั้งเดิมของคำว่า ‘Yellow’) แต่สุดท้าย ด้วยการเงยหน้ามองฟ้า ด้วยดวงดาวนับล้านที่ประดับอยู่บนนั้น หรือด้วยความสร้างสรรค์และการกล่าวคำทำนายให้ตัวเองว่า ‘จะประสบความสำเร็จในอีกสี่ปีข้างหน้า’ ก็ตามที ก็อาจทำให้วันเวลาของแต่ละคนที่ยังวิ่งวนอยู่บนโลกใบนี้ ‘ส่องสว่างและสวยงามเหลือเกิน’ ได้ไม่ต่างอะไรกับเพลง ‘Yellow’ ของพวกเขาเลย
/ Look at the stars
Look how they shine for you
And all the things that you do /
ที่มา: https://www.songfacts.com/facts/coldplay/yellow
https://inews.co.uk/culture/music/it-was-all-yellow-story-behind-song-that-set-coldplay-on-path-to-stardom-500930